บทที่ 6 เล่นงานลูกรัก
คงไม่ใช่ว่าไอ้แอลหักหลังผมหรอกใช่ไหมก็มันสัญญาแล้วว่ายังไงวันนี้จะโผล่หัวมาแต่ทว่าตอนนี้มันก็ดึกพอสมควรผมยังไม่เห็นหัวมันเลย
“ไอ้แอลมันหักหลังมึงไงไอ้ยู”
ไอ้คินพูดพร้อมยักคิ้วด้วยความเหนือกว่าส่งมาให้ผมจากนั้นเสียงหัวเราะของพวกมันสองคนก็ส่งตามมาติดๆ
“พวกมึงอย่าคิดทำอะไรลูกกูนะเว้ยไอ้เหี้ยเร็น ไอ้ห่าคิน!”
น้ำเสียงหนักตะคอกสาดใส่เพื่อนทั้งสองด้วยความจริงจังใบหน้าเรียวมีคิ้วขมวดเป็นเส้นตรงยาวแทบชนกันอย่างเห็นได้ชัดเจนไม่ต้องสังเกตก็ประจักษ์แก่สายตาผู้ร่วมสนทนาทั้งสอง
ผมรู้ดียิ่งกว่าอะไรเมื่อได้เห็นสายตาของไอ้เร็นและไอ้คิน หัวสมองของพวกมันสองคนคิดเรื่องที่ทำให้ผมเดือดร้อนเป็นแน่อยู่กับพวกมันจนรู้ไส้รู้พุงหมดแล้วครั้งนี้ก็เดาไม่ผิด
“ถ้าพวกกูคิดล่ะ?”
“เออจริงไอ้คิน ถ้าพวกกูคิดมึงจะทำอะไรได้วะไอ้ยู?”
ประโยคแรกไอ้เร็นตอบรับคำพูดของไอ้คินที่กำลังรวมพวกกันอยู่ส่วนประโยคถัดมามันกับเบี่ยงใบหน้ามาทางผมพร้อมกับยิ้มแบบกวนๆ
“อย่าแม้แต่จะคิดหรือทำเพราะกูจะทำกลับเหมือนกัน”
ว่าแล้วผมก็ก้มลงทำงานต่อโดยที่หูได้ยินพวกมันคุยกันเรื่องทั่วไปและไม่ผุดเรื่องที่ผมแพ้พนันอีกด้วยซ้ำไปจากนั้นอีกสักพักหนึ่งไอ้คินก็ออกไปก่อนบอกแค่ว่าต้องไปนอนมีเวรเช้าพรุ่งนี้เพราะฉะนั้นในห้องจึงมีผมและไอ้เร็นเท่านั้น
“เฮ้ย! ไอ้ยูมึงตั้งใจทำงานขนาดนั้นเชียว?”
“ก็เพราะมีหุ้นอย่างพวกมึงไงกูถึงต้องรักษาผลประโยชน์ของตัวเอง”
ถ้อยคำหลอกด่าของผมนั้นทันธรรมดามากจนไม่สามารถทำระคายเคืองผิวหนังและการรับรู้ของไอ้เร็นนักหรอกอีกอย่างไอ้นี่บ้านรวยจะตายไป
รวยจนมันไม่แคร์อะไรใครโกงก็ช่างแม่งแต่ถ้าไอ้เร็นมันรู้ก็คือตายสถานเดียว
“ทำเป็นพูดดี แบบนี้มึงไม่กลับบ้านอีกแล้วใช่ไหม?”
“กลับเพื่อไรวะ?”
นัยน์ตาลสีน้ำตาลที่นั่งทำงานชะงักไปสักพักก่อนที่จะตอบผมกลับมาแบบไม่แคร์อะไรมาก ผมก็ไม่รู้อะไรกับเรื่องของไอ้ยูนักหรอกแค่รู้ว่ามันไม่ถูกกับพ่อมาตั้งแต่สมัยอยู่มอปลายแล้วจนกระทั่งปัจจุบันมันอายุยี่สิบสองเรียนปีสุดท้ายก็ยังไม่ดีกัน พวกเราไม่มีใครอายุเท่ากันหรอกครับจะมีไล่เลี่ยกันเท่านั้นเอง
“เออไม่กลับก็ไม่กลับ”
“แปลกๆ นะพวกมึงคิดจะทำอะไรวะไอ้เหี้ยเร็น?”
ติ้ง!
ทันทีที่ผมถามจบประโยคเสียงข้อความจากโทรศัพท์ไอ้เร็นก็ดังขึ้นในขณะที่มันก็เล่นโทรศัพท์ตั้งแต่ที่ไอ้คินออกไปแล้ว
“ไปแล้วมึงไม่ต้องมาจับผิดกู”
สุดท้ายในห้องนี้ก็มีผมเพียงแค่คนเดียว ทุกอย่างวันนี้มันดูซวยๆ หรือว่าผมจะคิดไปเองกันแน่ทั้งการกระทำของไอ้คินและไอ้เร็นพวกมันดูยอมๆ ยังไงพิกล คิดดูสิว่าผมเป็นคนแพ้พนันในครั้งนี้แต่พวกมันกับทำท่าเฉยๆ ไม่ทวงติงอะไร
มีคนเคยกล่าวเอาไว้ว่าทะเลที่มีคลื่นสงบนิ่งสวยงามแสดงให้ผู้คนได้เห็นนั้นภายใต้ท้องทะเลกับมีคลื่นน้ำลูกใหญ่ที่กำลังเกิดการปั่นป่วนมันจะใช่กับเหตุการณ์ที่ผมกำลังเจอใช่ไหม ผมไม่มีทางที่จะคิดมากไปคนเดียวแน่นอนยังไงกลุ่มวายร้ายมันต้องร้ายสมชื่อกลุ่มอยู่วันยังค่ำ
พวกมึงคิดจะทำอะไรไอ้เพื่อนห่าราก!
พรึ่บ!
สมุดบัญชีถูกปิดด้วยมือหนาเป็นอันว่าวันนี้ทุกอย่างได้จบลงแล้วโดยเฉพาะเรื่องงานในคลับผมเตรียมตัวใส่แจ็คเก็ตยีนสีซีดขาดๆ ทับเสื้อยืดสีขาวก่อนเดินออกจากห้องตรงไปสั่งงานลูกน้องอีกแป๊บเดียว
สายตาสีน้ำตาลมองไปรอบๆ เพื่อสังเกตเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคลับดุจสายตาของพญาเหยี่ยวเมื่อเป็นที่พอใจแล้วก็เบี่ยงตัวออกทางด้านหลังมือใหญ่ควงกุญแจรถชูขึ้นหมุนไปเรื่อยๆ พร้อมกับการผิวปากเป็นเสียงอย่างอารมณ์ดี วันนี้เป็นวันที่...
“เหี้ย!”
เสียงทุ้มสบถออกมาสะท้อนดังทั่วลานจอดรถจากที่สายตาอ่อนโยนกลายเป็นแข็งกระด้างขึ้นมาทันใดอีกทั้งยังจับจ้องไปที่ล้อรถของตัวเองแทบไม่กระพริบ ล้อรถที่แบนราบเรียบไปกับพื้นมันไม่ใช่แค่ล้อเดียวนะ
มันแบนทั้งสองล้อ!
ไอ้สัสเร็น ไอ้สัสคินมันเล่นลูกรักผมแล้ว!
