บทที่ 5 ผลงานเพื่อน
ปึก!
“อะไร หนีอะไรมาวะ?”
น้ำเสียงยืดเยื้อมาพร้อมกับมือใหญ่หนาถูกส่งมาตบลงบนไหล่กว้างของผมทันทีที่ก้าวเข้ามาในห้องประจำแห่งนี้
ชั้นสองห้องนี้ไม่สามารถมีเสียงเพลงเข้ามารบกวนส่วนมากจะใช้เป็นที่ทำงานของพวกเราที่แบ่งเวรผลัดเปลี่ยนเข้ามาดูแลอาทิตย์หนึ่งก็คนละวันพอดิบพอดีไม่ขาดไม่เกิน แต่ระยะนี้มีจำพวกหนึ่งจะไหว้วานมาเข้าเวรแทนคนจำพวกนี้ผมแบ่งพวกมันอยู่โซนเป็นประเภทคนติดเมีย
ไอ้ซัน ไอ้เทน ไอ้โจเนสและก็ไอ้แอล สี่คนเพื่อนกรรมเพื่อนเวรมักหายหัวไม่เห็นหน้ามาเกือบสองอาทิตย์แล้วก็อ้างโน่นอ้างนี่เหตุผลร้อยล้านแปดแสนเพื่อที่จะได้อยู่กับเมียมีแต่ผมสามคนเท่านั้นที่ช่วงนี้เห็นหน้ากันเป็นประจำจะเป็นใครไปไม่ได้คนหนึ่งก็ตบไหล่ผมอยู่ตอนนี้ไง
“มึงไม่ไปโรงบาล?” เมื่อแหกตาตัวเองมองไปยังร่างสูงข้างกายที่ส่ายหัวไปมาแทนคำตอบผมก็รับรู้ดี “เออดีจริงคนข้งคนไข้ไม่ต้องไปดูแล เป็นหมอเหี้ยไรของมึงไอ้คิน”
หมอ ไอ้คินมันเป็นหมอครับทุกคน หมอที่นิสัยการทำตัวตรงข้ามกันมากที่สุดถ้าผมเป็นคนอื่นๆ ไม่คิดว่ามันมีอาชีพนี้แน่
“เป็นหมอรูปหล่อพ่อรวยประจำโรงบาลมั้ง” พูดจบมันก็เดินไปนั่งลงบนโซฟาที่ตั้งไม่ห่างนัก ท่าทางไม่สนโลกแบบนี้แสดงว่ามันพึ่งออกมาจากโรงพยาบาลแน่ “แล้วมึงหนีมาเพื่อไร มีสาวสวยนั่งข้างกายขนาดนั้น”
มันเห็นด้วยเหรอ?
ตาบอดมั้งที่ว่ายัยนั่นสวย?
ผอมแห้งแรงน้อยขนาดนั้น สวยที่ไหน?
“ยัยนั่นเนี่ยนะ ขี้เมาไปทั่วนะสิ”
ผมตอบไอ้คินจากนั้นก็เดินมานั่งที่โต๊ะทำงานภายในห้องนี้ก่อนจะพลางคิดถึงผู้หญิงคนเมื่อกี้เมาแล้วระรานคนอื่นไปทั่วไม่สำเหนียกตัวเองบ้างว่าดื่มได้ถึงระดับไหนคงเชื่อมั่นในตัวเองสูงมากว่าคอคงแข็งเป็นท่อพีวีซีไม่เมาอย่างงั้นเหรอแล้วสุดท้ายผลเป็นไงล่ะมันก็สลบฟุบคาเคาน์เตอร์ไปแบบนั้นแล้วไม่รู้ด้วยว่าจะถูกใครหิ้วไป
มันไม่ใช่เรื่องของผมที่ต้องรับรู้...
“ไม่ใช่เด็กมึงหรอ?”
เหี้ย!
ถึงผมจะควงมัวไม่รู้จักหลีกเลี่ยงผู้หญิงที่เข้ามาแต่บอกได้เลยว่าไม่ใช่ผู้หญิงคนนั้นเป็นแน่ผู้หญิงอะไรผอมแห้งแรงน้อยเนื้อนมไม่เห็นสักแห่งบนตัวของยัยนั่นเลยไม่รู้ว่าร่างกายหยุดการเจริญเติบโตไปตั้งแต่มัธยมปลายแล้วหรือเปล่า
“เด็กบ้าอะไรไม่ใช่วะ”
มีแค่เสียงที่ส่งออกมาจากในลำคอของไอ้คินเท่านั้นเป็นอันว่าจบประโยคการสนทนาไปโดยปริยายมีแต่นั่งเงียบๆ แดกเหล้าเท่านั้นส่วนผมก็ต้องเคลียร์กับบัญชีในมือความจริงแล้วมันเป็นยอดของเมื่อวานที่ผู้จัดการสรุปไว้ให้ส่วนผมก็ต้องตรวจอีกครั้งหนึ่ง
“สวัสดีเพื่อนๆ ที่รัก”
“รักห่าไรมึงไอ้เร็น”
สายตาของผมมองไปปะทะกับคนมาใหม่ซึ่งมันไม่ใช่ใครที่ไหนก็ไอ้เร็นนั่นแหละครับ มารยาทเสียๆ แบบนี้
“มึงหยุดเห่าเลยไอ้ยู มึงคิดว่ากูไม่รู้ไงว่าแพ้พนันพวกกูเรื่องไอ้แอล”
ใช่ ผมพนันไว้กับไอ้เร็นและไอ้คินว่ายังไงวันนี้ไอ้แอลมันต้องมาที่คลับแน่แต่น่าแปลกมากที่ไอ้เร็นมันทวงถามขึ้นมาทั้งๆ ที่ไอ้คินยังคงเงียบหรือว่า...
“ไอ้คินมึงบอกไอ้เร็นว่ากูอยู่ที่นี่ใช่ไหม?”
“เออ”
ไอ้เหี้ยคิน...
เป็นประโยคที่ผมสบถในใจ ไอ้นี่มันชอบทำอะไรแบบเงียบๆ ไม่มีใครรับรู้ว่าภายในหัวมันคิดอะไรวันๆ เห็นเอาแต่อยู่ในโรงบาล
“แล้วไงวันนี้ไอ้แอลมาแน่!”
“ไม่วะ” ไอ้เร็นพูดขึ้นพร้อมนั่งลงตรงโซฟา
หมายความว่าไง?
คงไม่ใช่ว่าไอ้แอลหักหลังผมหรอกใช่ไหมก็มันสัญญาแล้วว่ายังไงวันนี้จะโผล่หัวมาแต่ทว่าตอนนี้มันก็ดึกพอสมควรผมยังไม่เห็นหัวมันเลย
“ไอ้แอลมันหักหลังมึงไงไอ้ยู”
ไอ้คินพูดพร้อมยักคิ้วด้วยความเหนือกว่าส่งมาให้ผมจากนั้นเสียงหัวเราะของพวกมันสองคนก็ส่งตามมาติดๆ
“พวกมึงอย่าคิดทำอะไรลูกกูนะเว้ยไอ้เหี้ยเร็น ไอ้ห่าคิน!”
