บท
ตั้งค่า

9.ติดค้าง

โรแอนด์ไม่เคยรู้สึกเช่นนี้มาก่อนเลย ทุกครั้งที่ปลายนิ้วของเอสวาขยับ มันเหมือนกับว่าเขาค่อยๆ นำความสุขมาเติมเต็มภายในร่างกายของเธออย่างช้าๆ แม้จะอึดอัดอยู่บ้างแต่ไม่มีความเจ็บปวดใดๆ เลย ที่ชัดเจนมากกว่าอะไรทั้งหมดคือความรู้สึกวาบหวามที่อยากจะระบายปลดเปลื้อง

อีกนิดสิ! ขอร้องล่ะเธอรู้สึกเหมือนกับว่าอารมณ์กำลังจะระเบิดออกมาเลย โรแอนด์ช้อนสายตามองหน้าของเอสวาเพื่อร้องขอและวิงวอนต่อเขา ทว่าในช่วงเวลาถัดมาที่ฝ่ามือของเธอกลับสัมผัสได้ถึงหยดน้ำสีขาวขุ่นที่พุ่งออกมาจากส่วนนั้นของเขา ภาพเบื้องหน้าพลันพร่าเลือน ในความรู้สึกของโรแอนด์เหมือนกับว่าเธอกำลังพลัดตกจากที่สูงยังไงอย่างนั้น

สวรรค์ที่เธอมองเห็นอยู่รำไร ยามนี้จางหายไปจนหมดสิ้น..

ดวงตาของเธอเบิกกว้างขึ้นมา เธอกำลังนอนอยู่บนโซฟาตัวยาวในบ้านพักของเอสวา ส่วนเขาเองก็กำลังลืมตาขึ้นมามองหน้าเธอด้วยใบหน้าที่ขึ้นเป็นสีดอกกุหลาบ

“..นี่ท่านจะมาอายตอนนี้ให้มันได้อะไรขึ้นมา!!”

เขาเลื่อนฝ่ามือมาปิดปากของเธอเอาไว้ในทันที น่าแปลกที่เขาไม่ได้รู้สึกเหนื่อยล้าในแบบที่เขียนบรรยายเอาไว้ในหนังสือ แต่ร่างกายของเขากลับปกติดีทุกอย่าง อาการเหนื่อยล้าจางหายเป็นปลิดทิ้งเหมือนกับว่าเขาได้นอนหลับเต็มอิ่ม..

“เบาๆ หน่อยสิโรแอนด์ ตอนนี้ใกล้จะเช้าแล้วทุกคนน่าจะตื่นกันหมดแล้ว เพราะแบบนั้น..หากมีคนรู้ว่าเจ้าอยู่ที่นี่กับข้าจนถึงช่วงเช้าคงไม่ดีแน่ๆ”

เธอจับมือของเขาที่กำลังปิดปากของเธอออก โรแอนด์กัดลงไปเบาๆ บนฝ่ามือนั้น

“ข้ายัง..ยังไม่ได้..”

เอสวารู้ดีว่าเธอหมายถึงอะไร เพราะเขาตื่นเต้นมากเกินไปหน่อย นั่นทำให้ในความฝันที่แสนหวานนั่น เขาเป็นฝ่าย..เสร็จสม ออกมาก่อนโดยที่เราไม่ได้ทำอะไรที่เกินเลยมากไปกว่านั้นด้วยซ้ำ มันช่าง..น่าเศร้าที่เขาไม่ได้ทำให้เธอถึงที่หมายเหมือนกับที่เธอทำให้เขา..

แต่นี่ไม่ใช่ความฝัน ทว่ามันคือความจริง..เขาไม่สามารถทำเรื่องราวเช่นนั้นต่อได้..

“ข้าติดค้างเจ้าเอาไว้หนึ่งครั้งก็แล้วกัน หากเหนื่อยล้าก็พักที่นี่สิ ในห้องนอนของข้า ข้าไม่ได้เข้ามานอนบ่อยๆ หรอก”

เขาทำท่าจะลุกขึ้นแต่โรแอนด์ก็รีบคว้าข้อมือของเขาเอาไว้ในทันที

“จากนี้ไปท่านต้องนอนบ่อยๆ สิ..ไม่เอาแบบสองสัปดาห์นอนครั้งหนึ่งนะคะ ข้าได้ตายพอดี”

นั่นสินะ เพราะว่าเธอต้องกินความฝันของเขาเพื่อให้ตัวเองมีชีวิตรอด..

“ข้ามีงานที่ต้องทำมากมายอาจจะนอนหลับทุกวันไม่ได้ เพราะแบบนั้น..เอาเป็นสัปดาห์ละสองครั้งก็แล้วกัน เจ้าเลือกได้ว่าจะอยู่ที่นี่หรืออยู่ที่ห้องนอนของเจ้า..”

เขาส่งมอบกุญแจบ้านพักหลังนี้ให้แก่เธอพร้อมกับสร้อยคอเส้นหนึ่งที่ถูกสวมลงมา

“หากเจ้าจะเดินออกไปจากห้องนี้ให้กดลงไปที่สร้อยคอเส้นนี้ มันเป็นสร้อยคอที่ช่วยให้เจ้าล่องหนได้”

ว้าว..ดูเหมือนว่าพลังวิเศษของเอสวาจะน่าทึ่งมากทีเดียว

“ตกลงค่ะ ข้าจะอยู่ที่นี่ อย่างน้อยเตียงนอนในห้องนี้ก็ใหญ่มากกว่าเตียงนอนในห้องของข้า”

เขาพยักหน้า

“เช่นนั้น..อีกสามวันเจอกันนะโรแอนด์”

เธอพยักหน้า

“อย่าลืมนะคะว่าครั้งนี้ท่านติดค้างข้าเอาไว้!”

เธอกล่าวเสียงแข็งอย่างไม่ยินยอมอ่อนข้อให้เขา เอสวามิได้กล่าวคำใดอีกเลยหลังจากนั้น เขาเปลี่ยนชุดบาทหลวงต่อหน้าเธอ โดยที่ไม่ลืมสวมสร้อยไม้กางเขนลงไปบนร่างกายเป็นสิ่งสุดท้าย

อ่า..เอสวาในชุดบาทหลวงนี่ ช่างมีพลังทำลายล้างที่รุนแรงมากเกินไปแล้ว

เธอล้มตัวนอนลงบนเตียงนอนของเขาโดยที่ไม่รู้สึกหิวตรงไหนเลย อาจจะเพราะว่าเธอได้กินความฝันของเขาจนอิ่มหนำสำราญ นั่นอาจจะทำให้เธอไม่หิวไปอีกหลายวัน

ตาลุงพูดมากคนนั้น ป่านนี้ท่านคงรู้แล้วใช่ไหมคะว่าข้าน่ะ..ได้กินฝันของผู้อื่นเรียบร้อยแล้ว

อันที่จริงช่วงเวลาสองชั่วโมงในการอยู่ในความฝันนั้นไม่ตายตัวสินะ เธอจะหลุดออกมาจากความฝันของฝ่ายตรงข้ามก็ต่อเมื่ออีกฝ่ายเสร็จสมออกมาเพราะแบบนั้น..หากยังอยากเสพสุขกับความวาบหวามพวกนั้นต้องไม่ให้เขา..ถึงฝั่งฝันง่ายๆ อีก..

เมื่อโรแอนด์หลับตาลงหัวใจก็เต้นแรงขึ้นมาในทันที เอสวา..มีเสน่ห์มากเกินไปแล้ว เขาอ่อนโยนแต่ทว่าก็เร่าร้อนในช่วงเวลาที่เราสบตากันในระหว่างที่เรียวนิ้วของเขาเคลื่อนไหวในร่างกายของเธอมันช่าง..ล้ำค่ามากจริงๆ

เขาทำให้เธอสั่นไหวไปทั้งร่างกายและ..หัวใจ คิดถูกจริงๆ ที่เลือกเขา...

.......................

“สงครามสิ้นสุดลงแล้วครับทุกคน ทางจักรวรรดิของเราเป็นฝ่ายชนะ ในระหว่างนี้ทางพระราชวังจะส่งทหารมาที่นี่เพื่อช่วยเหลือชาวบ้านในการซ่อมแซมบ้านเรือน ใครที่ต้องการประกาศหาคนหาย หรือว่าคนครอบครัวหายไป ติดต่อได้ที่กองทัพของเราได้เลยนะครับ”

เสียงประกาศนั้นเต็มไปด้วยความน่ายินดี ถึงแม้ว่าบนใบหน้าของชาวเมืองจะฉาบไปด้วยรอยยิ้ม แต่ทว่าลึกๆ ในใจของพวกเขามันไม่สามารถอิ่มเอมใจได้เลย เพราะญาติมิตรที่ตายไปในสงครามนั้น ยังคงสร้างความเจ็บปวดให้แก่ชาวบ้านอยู่

“อย่างน้อยนี่ก็คือเรื่องน่ายินดีที่สุดเท่าที่ข้าเคยได้ยินมา สงคราม..จบแล้วครับทุกคน จากนี้ไปเมื่อบ้านเรือนของพวกท่านซ่อมแซมเสร็จแล้ว ทุกคนจะได้กลับไปที่บ้านของตัวเอง..”

มาลิคประกาศออกมาในระหว่างที่เขากำลังแจกจ่ายอาหารให้แก่ชาวบ้านที่มาพักอาศัยอยู่ที่โบสถ์เป็นการชั่วคราว

“อย่างน้อยก็ไม่ต้องมีใครต้องสังเวยชีวิตให้แก่สงครามอีกแล้ว..ไม่ว่าฝ่ายไหนชนะ..ชาวเมืองที่ต้องเผชิญหน้ากับสงครามก็หลีกหนีไม่พ้นความเจ็บปวดอยู่ดี..จริงไหมเอสวา”

เอสวาพยักหน้าเห็นด้วยกับคาดินันแคนนอนผู้ปกครองโบสถ์แห่งนี่ เอสวาเป็นบาทหลวงที่เดินทางสายนี้มาสิบกว่าปีตั้งแต่ที่เขาจำความได้ ท่านคาดินันฉุดรั้งเขาให้ขึ้นมาจากโคลนตมเพื่อให้ได้พบเจอแสงสว่างแห่งการเริ่มต้นใหม่

“เจ้าจะได้ย้ายไปที่วิหารในเมืองหลวง..เพื่อรับตำแหน่งคาดินันเร็วขึ้น”

เอสวาก้มหน้าลง

“ข้า..ยังไม่อยากจากท่านไปเร็วมากขนาดนั้น..เรื่องของข้าไม่ต้องรีบหรอกครับ”

คาดินันแคนนอนหัวเราะออกมาเบาๆ

“ที่เจ้าต้องจากไปเร็วมากกว่าเดิม มันมิใช่พระประสงค์ของข้าเลยเอสวา แต่มันคือประสงค์ของพระเจ้า..ยิ่งเจ้าเปล่งประกายมากเท่าไหร่ ยิ่งถูกชักจูงไปในทางที่ผิดได้มากเท่านั้น..จงตั้งตนอยู่ในทางเดินที่ทอดยาวไปจนถึงสรวงสวรรค์ อย่าวอกแวกสิเอสวา..ไม่อย่างนั้นข้าคงจะเสียใจอย่างถึงที่สุดที่ไม่อาจมองดูเจ้าเป็นคาดินันที่ยิ่งใหญ่ได้”

หัวใจของเอสวากำลังจมดิ่งลงไปเรื่อยๆ ในอ่างน้ำที่ทั้งเยือกเย็นและเหน็บหนาว

เขากำลังทำผิด..ทว่าความผิดบาปนั้นมันช่างหอมหวานมากเหลือเกินอีกทั้ง..โรแอนด์จะตายหากว่านางไม่ได้กินความในของเขา

แล้วจะให้เขาทอดทิ้งนางไปได้อย่างไรกัน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel