8.ลุ่มหลง
เอสวากระแอมออกมาเบาๆ เพื่อเรียกสติของตัวเอง ในยามนี้เราทั้งคู่ต่างเปลือยเปล่า แต่ทว่าดูเหมือนเราจะก้าวข้ามขั้นตอนไปสักหน่อย
เขาจับมือของเธอให้ขึ้นมานั่งบนเตียงด้วยกัน
“ข้าได้ยินมาว่า ในยามที่บุรุษและสตรีจะกระทำเรื่องอย่างว่าร่วมกัน พวกเขาอาจจะต้องจุมพิตกันก่อน..”
เธอมองหน้าเขา โรแอนด์มองหน้าของเอสวาด้วยความรู้สึกลุ่มหลงจนงงว่าใครกันแน่ที่เป็นปีศาจและใครกันแน่ที่กำลังพยายามหลอกลวงอีกฝ่าย เขาหรือว่าเธอกันแน่ที่เป็นผู้ล่อลวง..มันมึนคงไปหมดแล้วละสิ
“ท่านเอสวา..รู้เยอะจังเลยนะคะ”
เอสวาขบเม้มริมฝีปากไปมา
“อันที่จริง เราแค่ทำไปตามสัญชาตญาณก็พอ เหมือนกับสัญชาตญาณของทารกที่เมื่อเกิดแล้วต้องร้องไห้ ในยามหิวจะต้องดูดนมของมารดา..แบบนั้นเลยโรแอนด์ ทำตามที่เจ้าและข้าต้องการได้เลย”
หากเขาเอ่ยถามออกมาว่าในยามนี้เธอต้องการสิ่งใดอยู่ โรแอนด์อยากบอกว่าเธออยากจะลองสัมผัสลงไปที่ริมฝีปากของเขาสักครั้ง
ยังไม่ทันจะได้คิดต่อ มือของเธอก็ถูกยกขึ้นมาแตะลงไปบนกลีบปากของเขาเสียแล้ว เธอมองลงไปบนริมปากที่กำลังเผยอออกเล็กน้อย เพื่อยินยอมให้เธอสัมผัสมันแต่โดยดี มือของเอสวาถูกยกขึ้น วงแขนของเขารวบร่างกายของเธอให้แนบชิดลงไปบนร่างกายของเขา ในยามที่ผิวกายเปลือยเปล่าสัมผัสกันมันราวกับผิวกายจะลุกไหม้ขึ้นมา เขาโน้มใบหน้าลงมากดแนบริมฝีปากลงไปบนกลีบปากนั้นของโรแอนด์
นี่คงจะเป็นจูบแรกที่ลืมไม่ลงแน่ๆ มันคือจูบแรกที่เกิดขึ้นมาราวกับความฝันเลย..แต่ว่าในตอนนี้เราก็อยู่ในความฝันด้วยกันนี่หว่า
เขาค่อยๆ จูบเธอด้วยความระมัดระวัง ราวกับต้องการปลอบประโลมความประหม่าของเธอจากรอยจูบนั้น และมันค่อยๆ หนักแน่นขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเกลียวลิ้นของเราแตะสัมผัสกัน
ฝ่ามือหนาของเขาถูกยกขึ้นมาและสัมผัสลงไปบนเนินเนื้อคู่สวยนั้น สัมผัสนั้นทำให้เอสวารู้สึกแปลกใหม่มากพอสมควร เพราะหน้าอกของโรแอนด์มันนุ่มเหมือนกับในยามที่ป้ายฝ่ามือลงไปบนฟองครีม มันทำให้เขารู้สึกคลั่งไคล้จนไม่อาจละฝ่ามือออกมาจากยอดอกคู่นั้นได้เลย เขาบีบเคล้นจนมันปริออกมาตามร่องนิ้ว สลับกับในบางจังหวะเขาก็ดึงปลายยอดที่แข็งขึ้นเป็นไตนั้นเบาๆ
“อืม..”
เธอร้องครางในลำคอเบาๆ เพราะริมฝีปากยังคงถูกริมฝีปากของเขาพันธนาการเอาไว้อยู่ มือของเธอถูกยกขึ้นมาคลอดคอของเขาเอาไว้ ในขณะที่เอสวายกสะโพกของโรแอนด์ขึ้นเล็กน้อย เขากางขาเธอออกเพื่อให้เธอนั่งอยู่บนตักของเขาในตำแหน่งที่เหมาะสม ร่างกายของเราในทุกสิ่งนั้นสัมผัสกัน แม้แต่ในส่วนที่ไม่เคยมีผู้ใดล่วงล้ำก็กำลังเสียดสีกันอยู่
เขาผละริมฝีปากออกมาอย่างเชื่องช้าด้วยความเสียดาย แต่ทว่ายังมีจุดอื่นที่เขายังอยากใช้ปากกับร่างกายของเธออยู่..
“รู้สึก..เป็นยังไง”
ดี..ดีมากให้ตายเถอะ แค่จูบของเขาทำให้เธอสั่นไปทั้งร่างกายจนร่ำร้องอยากได้มากกว่านั้น
ไหนเขาบอกว่าตัวเองไม่เคยทำมาก่อน และไอ้ความลื่นไหลและคล่องแคล่วของเขานี้มันมาจากไหนกัน
เธอหายใจลึกและช้า ขณะที่ความรู้สึกท่วมท้นทำให้ลมหายใจแผ่วเบาลง
“ดี..ค่ะ แน่นอนว่ามันหวานล้ำ เหมือนกับที่คิดเอาไว้ไม่มีผิด”
เมื่อโรแอนด์ตอบออกมาเช่นนั้น เอสวาก็หน้าแดงมากกว่าเดิม เขาเขินอายแต่ทว่าในหัวใจก็สัมผัสได้จังหวะที่เต้นแรงแตกต่างจากเดิม
เธอขนลุกเมื่อปลายนิ้วของเขาลากไล้ไปตามหน้าท้อง ทำให้เธอรู้สึกถึงความเร่าร้อนที่สะสมขึ้นมา โรแอนด์ลดสายตามองที่กล้ามท้องของเขาเช่นกัน เธอแตะปลายนิ้วลงไปบนรอยสักที่เธอประทับตราเอาไว้บนร่างกายของเขา
“อา..”
เพียงแค่แตะลงไปเบาๆ บนนั้นเอสวาก็ส่งเสียงร้องครางออกมาในทันที เขาสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะมองหน้าเธอด้วยความตกใจ
“ท่าน..มีความรู้สึกในยามที่ข้าแตะลงไปบนตราประทับนี่ใช่ไหมคะ”
เอสวาทอดสายตามองหน้าของโรแอนด์ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนา
“ไม่รู้เหมือนกัน ในยามนี้ไม่ว่าปลายนิ้วของเจ้าจะแตะหรือว่าสัมผัสตรงไหน ข้าก็..สั่นสะท้านไปทั้งนั้น”
เขาจับเรียวขาของเธอให้อ้ากว้างมากกว่าเดิมก่อนจะใช้สายตามองไปที่จุดกลางร่างกายของเธอ
โรแอนด์กลืนน้ำลายลงคอ เมื่อเขาจ้องมองส่วนนั้นของเธออย่างไม่ละสายตา มันน่าอายและ..เธอประหม่ามากทีเดียว
กลีบเนื้ออ่อนนุ่มเหมือนดอกบัวที่พึ่งแย้มบานรับแสงแรกของวัน ช่องทางแห่งความรักชื้นฉ่ำเหมือนกับหยดน้ำที่เกาะอยู่บนใบไม้
นิ้วของเอสวาแตะสัมผัสลงไปบนนั้น เขากดมันลงไปบนปุ่มเนื้อนั้นเบาๆ และวาดวงกลมอย่างช้าๆ ก่อนที่มันจะจมหายเข้าไปในร่องแคบที่ไม่เคยมีผู้ใดล่วงผ่าน
“อ๊ะ!..”
ที่น่าตกใจมากกว่านั้นคือในตำราที่เธอตั้งใจอ่านมา มีการบอกกล่าวเอาไว้อย่างชัดเจนว่าครั้งแรกอาจจะเจ็บปวดเล็กน้อย แต่ทว่าในครั้งนี้มันกลับไม่เจ็บเลยสักนิด ความสุขสมถาโถมเข้ามาราวกับมีพายุพัดวนในร่าง มันทั้งร้อนและเหน็บหนาวในช่วงเวลาเดียวกันจนเธอทำตัวไม่ถูก
เขาจับเข้าที่ด้านหลังศีรษะของเธอก่อนจะปล่อยให้โรแอนด์ล้มตัวนอนลงบนเตียงนอน ฝ่ามือของเธอปีนป่ายไปทั่ว และโรแอนด์แตะสัมผัสลงไปบนแท่งร้อนของเขาอย่างไม่ตั้งใจ..ทว่าเมื่อเธอมองเห็นสีหน้าที่เต็มไปด้วยความรู้สึกดีของเอสวาแล้ว นั่นทำให้เธอไม่อยากละมือออกมาจากส่วนนั้นของเขาเลย
“โรแอนด์..อา..”
เขาร้องครางออกมาพร้อมกับร้องเรียกชื่อเธอไปด้วย หัวใจ..เต้นแรงขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่เลยให้ตายสิ
เธอหลงเขาไปแล้วทั้งตัวและหัวใจ หลงใหลเขาจนแทบจะโงหัวไม่ขึ้นเลยด้วยซ้ำ
“อ๊ะ..อื้อ”
เธอเกร็งไปทั่วตัวเมื่อนิ้วแข็งๆเสียดสีกับผนังอ่อนนุ่มด้านใน ปลายนิ้วสอดลึกเข้ามาราวกับจะสำรวจให้ทั่วถึงจนแผ่นหลังของเธอลอยแอ่นจากที่นอนโดยไม่รู้ตัว ความรู้สึกพวกนี้ร่างกายไม่เคยได้สัมผัสหรือว่ารับรู้ถึงมันมาก่อนเลย.
นี่คือราคะที่ซาตานผู้นั้นกล่าวถึงสินะ เป็นสิ่งที่จะทำให้มนุษย์หลงมัวเมาไปกับมัน..ลุ่มหลงจนควบคุมตัวเองไม่ได้ คราแรกเธอก็ไม่เชื่อ แต่เมื่อได้ลองประสบพบเจอกับตัวเองแล้ว..มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหลบหนีออกมาเลย
ฝ่ามือของเธอยังคงรูดรั้งส่วนนั้นของเขาตามจังหวะของลมหายใจ ความเปียกชื้นผุดซึมขึ้นมาเรื่อยๆ ขณะที่ถูกรูดขึ้นตรงส่วนปลายไม่ปรานี
ลำคอของเอสวาเริ่มสั่นเมื่อถูกกระตุกที่ส่วนปลายแรงๆ ทุกครั้งที่ฝ่ามือขยับ อารมณ์ก็ยิ่งพองคับแน่นจนเขารู้สึกทนไม่ไหว
นี่มันดีมากกว่าที่เขาใช้มือสัมผัสตัวเองเป็นล้านเท่า..เขาร้องครางออกมาเสียงดังเมื่อลาวาร้อนพวยพุ่งออกจากจุดอ่อนไหว..
