3.ราบรื่น
ที่โรงอาหารเต็มไปด้วยผู้คนมากมายที่กำลังนั่งรอการแจกจ่ายอาหาร ฉันกวาดสายตามองไปรอบๆ เพื่อที่จะมองหาท่านบาทหลวงเอสวา เขานั่งอยู่ท่ามกลางผู้คนพวกนั้นที่กำลังแจกจ่ายถ้วยยาให้แก่ชาวบ้าน ราวกับมีแสงสว่างส่องลงมาให้เห็นเฉพาะเขาท่ามกลางผู้คนอื่นๆ เธอมองเห็นแค่เพียงเขาเท่านั้นไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น
กลิ่นหอมนี้อีกแล้ว..กลิ่นหอมหวานเย้ายวนที่ชวนให้ต้องกลืนน้ำลายลงคอด้วยความกระหายอยาก เธออยากจะลองสัมผัสเขาสักครั้งหนึ่ง
อยากลองแตะลงไปบนมือที่หยาบกร้านของเขาดูสักหน่อยว่ามันจะเป็นเช่นไรในยามที่เราได้ทดลองจับมือกัน
“ข้ายังไม่ทราบชื่อของท่านเลยครับเลดี้..จะให้ข้าเรียกท่านว่าอย่างไรดี”
อ่า..ชื่องั้นเหรอ เท่าที่จำได้ตาลุงคนนั้นเรียกเธอว่า..
“โรแอนด์ค่ะ ท่านมาลิคสามารถเรียกข้าว่าโรแอนด์ได้เลย”
มาลิคส่งยิ้มที่เต็มไปด้วยความเป็นมิตรให้แก่เธอ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมที่ด้านหลังของโรแอนด์ราวกับมีดอกกุหลาบโผล่ขึ้นที่ด้านหลังของเธอเสมอเลย เหมือนกับมีออร่าระยิบระยับอยู่บนใบหน้างามจนยากแก่การละสายตา แต่ทว่าเท่าที่เขาฟังมาจากเอสวา โรแอนด์ดูเหมือนจะเป็นสตรีที่ได้รับการกระทบกระเทือนจิตใจอย่างรุนแรง เพราะอย่างนั้นในบางช่วงเวลาเธออาจจะแสดงออกอย่างไม่เป็นปกติเท่าไหร่นัก
ช่างน่าสงสารมากเหลือเกิน เป็นสตรีที่สูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างไปเพราะสงครามอย่างนั้นสินะ น่าเห็นใจจริงๆ
“โรแอนด์นั่งลงตรงนี้ก่อนนะ ข้าจะไปเอาอาหารมาให้เอง”
ฉันพยักหน้าพร้อมกับส่งยิ้มที่ผลิบานเหมือนกับกลีบดอกไม้ให้แก่มาลิค ดวงตาของฉันเบนสายตาไปมองที่เอสวาอีกครั้งหนึ่ง ใบหน้าของเขานั้นมีเสน่ห์ชนิดที่ว่าชวนให้เหลียวกลับมามองซ้ำ ไม่ว่าจะเป็นดวงตา ปากหรือว่าจมูกก็ล้วนแล้วแต่ถูกพระเจ้าทรงปั้นขึ้นมา
สายตาของฉันไม่มองใครเลยนอกจากเขา ซึ่งก็ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน..ฉันถึงได้ต้องการแค่เอสวาเพียงผู้เดียวเท่านั้น
หากเป็นเขา..มันอาจจะมีความสุขมากกว่าคนอื่นใช่ไหมนะ แรงดึงดูดมหาศาลพวกนี้มันคืออะไรกัน..
“ลุกขึ้นจากเตียงได้แล้วสินะครับ แผลบนหน้าผากยังรู้สึกเจ็บอยู่ไหม”
ในขณะที่ฉันกำลังทะเลาะกับตัวเองอย่างหนัก เอสวาก็เดินมาที่ฉันแล้วยื่นมือมาแตะลงไปบนรอยแผล
ให้ตายสิ..ความรู้สึกนี้มันคืออะไรกัน
ฉันยกมือขึ้นมาจับข้อมือของเขาเอาไว้อีกครั้งหนึ่ง ก่อนจะออกแรงดึงมือของเขาเล็กน้อยเพื่อให้มือของเธอได้สัมผัสลงไปบนฝ่ามือของเขา
“...เป็นอะไรรึเปล่าครับ”
เขาเอ่ยถามออกมาโดยที่ไม่ได้สะบัดมือออก เอสวาก้มหน้าลงมาเพื่อมองสบตาเธอใกล้มากกว่าเดิม
“ท่าน..นอนตอนไหนกันคะ วันนี้ท่านตั้งใจจะนอนตอนกี่โมงกัน”
คำถามนั้นถูกเอ่ยออกมาด้วยดวงหน้าแดงระเรื่อของโรแอนด์ เธอซบใบหน้าลงบนฝ่ามือของเขา ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมในยามที่เธอได้สัมผัสลงไปบนร่างกายของเขา เธอรู้สึกราวกับว่ามีลมเย็นๆ พัดผ่านร่างกายของเธอไป มันเย็นสบาย สดชื่นเหมือนกันได้สูดหายใจในยามเช้าที่มีกลิ่นน้ำค้างและแสงแดดอ่อนๆ
“เรื่องนั้น..ข้ายังบอกเลดี้ไม่ได้หรอกนะครับ”
“โรแอนด์ค่ะ..ข้าชื่อว่าโรแอนด์”
เอสวานั่งลงตรงข้ามกับโรแอนด์
“โรแอนด์..เจ้าจดจำเรื่องครอบครัวของตัวเองได้บ้างไหม?”
แน่นอนว่าเธอส่ายหน้าในทันที ตาลุงคนนั้นไม่ได้บอกอะไรกับเธอเลยสักอย่างเดียว เขาบอกมาแค่ว่าเธอชื่อโรแอนด์และเธอเป็นปีศาจซักคิวบัส
หน้าที่ของเธอคือการกลืนกินความฝันของบุรุษ เพื่อให้บุรุษผู้นั้นหลงมัวเมาไปกับตัณหาและราคะ ดึงรั้งพวกเขาออกมาจากความศรัทธาและกลืนกินจิตวิญญาณเหล่านั้นไปทีละน้อย จนสูญสิ้น..ไม่หลงเหลือความศรัทธาอยู่อีกต่อไป
“ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ในช่วงเวลานี้เจ้าก็อยู่ที่นี่ไปก่อน จนกว่าทุกอย่างจะดีขึ้น ข้าจะตามหาครอบครัวของเจ้าให้เอง”
เธอไม่ได้ต้องการครอบครัวอะไรสักหน่อย แต่ว่าเธอต้องการเขาล่ะ
คืนนี้ท่านช่วยหลับเร็วๆ หน่อยได้ไหมคะ ข้าจะไปหาท่านในความฝัน..หวังอย่างยิ่งว่าท่านจะยินยอมให้ข้าทำเรื่องที่ข้ากำลังคิดในยามนี้
ร่างกายของเขาจะสวยงามมากแค่ไหนกันนะ ผิวกายที่ขาวเนียนเช่นนี้ ในช่วงเวลาที่เธอสัมผัสมันจะต้องสร้างรอยแดงเอาไว้แน่ๆ
“ขอบคุณนะคะ”
เอสวายิ้มให้เธอก่อนที่เขาจะลุกออกไปจากที่นั่งเพื่อเดินไปแจกจ่ายยาให้แก่ประชาชนคนอื่น เป็นเวลาเดียวกันกับที่มาลิคกลับมาพอดี เขาถือถ้วยโจ๊กมาในมือ
“ทานสิครับ”
“ข้ากำลังรบกวนเวลาของท่านบาทหลวงมาลิคอยู่รึเปล่าคะ”
มาลิคหัวเราะเบาๆ
“เรื่องนั้นไม่ถือว่ารบกวนหรอกนะครับ เพราะการช่วยเหลือและนำทางให้โรแอนด์พ้นจากความทุกข์ คือหน้าที่ของข้าอยู่แล้ว”
คนที่นี่..ใจดีมากกว่าที่คิดเอาไว้อีกแฮะ หลังจากทานอาหารเย็นเสร็จเรียบร้อย มาลิคก็มาส่งเธอกลับห้องนอนพร้อมกับชุดสำหรับเปลี่ยนใหม่ มีห้องอาบน้ำอยู่ด้านหลังซึ่งเป็นห้องอาบน้ำรวม มาลิคบอกให้เธอไปอาบดึกหน่อยคนจะได้น้อยๆ
ทว่าในยามนี้จิตใจของโรแอนด์ไม่ได้จดจ่ออยู่กับการอาบน้ำสักเท่าไหร่ จิตใจของเธอกำลังจดจ่ออยู่กับช่วงเวลาที่เอสวาจะนอนต่างหาก..
วันนี้เธออ่านและศึกษาวิธีการเข้าไปในความฝันเรียบร้อยแล้ว ในตอนที่อยู่ในโรงอาหารเธอแตะลงไปบนข้อมือของเขาพร้อมกับสร้างตราประทับขึ้นมา ในยามที่เขาเข้าสู้ห้วงนิทรา จะมีสัญญาณดังขึ้นเพื่อให้เธอเข้าไปในความฝันของเขา เพราะฉะนั้นฉันก็เลยกำลังนั่งรอสัญญาณนั้นอย่างไม่ให้คลาดสายตา
ถึงแม้ว่าไม่อยากจะพูดขอบคุณตาลุงคนนั้นแต่ว่า เธอก็อดที่จะทราบซึ้งใจไม่ได้ที่เขาให้ตำราในการทำเรื่อง..อย่างว่ากับเธอ
ขั้นตอนต่างๆ ในการทำเรื่องเช่นนั้นเธออ่านและจดจำได้อย่างขึ้นใจ ถึงแม้ว่านี่จะเป็นครั้งแรกแต่ว่ามันจะต้องออกมาดีอย่างแน่นอน!
“....”
ทุกอย่างมันควรจะราบรื่นและเรียบร้อย แต่นี่ก็ปาเข้าไปตี3แล้ว ทำไมเอสวายังไม่นอนเอ่ย..
เธอหาวเป็นรอบที่ร้อยแล้ว ทำไมเขายังไม่นอนอีกฟะ!! หรือว่าการสร้างตราประทับของเธอมันมีข้อผิดพลาด ไม่ได้การแล้วฉันจะต้องออกไปดูสักหน่อย
ฉันถือตะกร้าเสื้อผ้าติดมือมาด้วยเผื่อมีคนถามจะได้ตอบได้อย่างไม่เผยพิรุธออกมา ในระหว่างทางเดินไปยังที่อาบน้ำ ฉันมองเห็นห้องโถงที่สว่างจ้าจนแสบตา ที่นั่นมีบาทหลวงที่กำลังต้มยา รักษาคนเจ็บ ทำอาหาร ล้างจาน หุงข้าว ซักผ้า และอีกมากมายเลย
นี่พวกเขาไม่นอนกันงั้นเรอะ!!ทั้งๆ ที่ทำงานเหนื่อยขนาดนี้ ทำไมไม่ไปนอนกันล่ะโว้ย มาทำงานอะไรอีก!!
