ตอนที่2
หลายเดือนก่อนหน้านี้...
เพียะ! เสียงฝ่ามือของผู้เป็นแม่กระทบที่แก้มของลูกชายอย่างแรงจนเกิดเป็นรอยแดงของฝ่ามือทั้งห้าที่ปรากฎชัดอยู่บนแก้ม
"เลิกไปซะกับผู้หญิงไม่มีหัวนอนปลายเท้าแบบนั้น" คุณหญิงอำพาเอ่ยเสียงดังเมื่อรู้ว่าลูกชายกำลังแอบคบกับใครบางคนนานเกือบสามปี อีกทั้งยังเป็นใครไม่รู้ ชาติตระกูลก็ไม่มีเป็นสิ่งที่เธอรับไม่ได้
"ไม่! แม่ไม่มีสิทธิ์มาห้ามผม" คชาเถียงกลับอย่างไม่ยอมเขาไม่มีเหตุผลที่ต้องเลิกกับเธอ
"สิทธิ์ความเป็นแม่แกไง ฉันอยากให้แกได้ดีนะตาครามเลิกกับนังนั้นซะ" แม้จะไม่เคยเห็นหน้าคนรักของลูก แต่คนเจ้ากี้เจ้าการก็ไม่ชอบเสียแล้ว
"ผมไม่เลิก"
"ฉันบอกให้เลิก! แกต้องรับตำแหน่งผู้บริหารแทนพ่อของ แกจะคบคนไม่มีหัวนอนปลายเท้าไม่ได้"
คชาแอบคบกับชนิกาโดยไม่บอกครอบครัวเพราะถ้าบอกไปก็ต้องลงเอยแบบตอนนี้ เขาพลาดเองที่ตัดสินใจบอกแม่เพียงแค่อยากทำให้ทุกอย่างถูกต้อง หากเขาเลือกเก็บเรื่องนี้เป็นความลับต่อไปและหนีไปกับเธอคงไม่เกิดเรื่องแบบนี้
"ความรักกับงานมันไม่เกี่ยวกันสักนิดเลยครับ"
"เกี่ยวสิ แกต้องแต่งงานกับคนที่ฉันหาให้ คนที่เหมาะสมกับแก" สองแม่ลูกยังคงทะเลาะกันเสียงดัง แต่ทั้งคู่ไม่รู้เลยว่ามีอีกคนที่กำลังร้องไห้กับสิ่งที่กำลังได้ยิน
ชนิกาโทรมาหาเขาเหมือนทุกวันเธอรู้ว่าเขาคงไม่ตั้งใจให้เธอได้ยินเรื่องแบบนี้แต่มือของเขาคงไปโดนโทรศัพท์ทำให้เธอได้ยินบทสนทนาของคนรักและแม่ของเขาที่กำลังทะเลาะกันนานพักใหญ่
"ฮึก..พี่คราม" เธอรีบปิดโทรศัพท์ก้มหน้าร้องไห้ไม่อาจทนฟังได้อีกต่อไป เธอเป็นต้นเหตุที่ทำให้เขากับแม่มีปากเสียงกัน
"ชมขอโทษที่เป็นต้นเหตุ..ฮึก" เธอรักเขาแต่ความรักมันกินไม่ได้ เขาควรไปเจอคนที่เหมาะสมแบบที่แม่ของเขาบอกไม่ใช่มาจมปลักอยู่กับคนแบบเธอ
'ถ้าชมเรียนจบแล้วเราแต่งงานกันนะ' เสียงของคนที่รักดังก้องอยู่ในหู เธอเหลือเวลาอีกไม่นานก็จะเรียนจบแล้ว เขาเคยให้สัญญาว่าจะรอเธอเรียนจบแล้วจะขอเธอแต่งงาน ทว่าคนไม่มีหัวนอนปลายเท้าแบบเธอไม่เคยคิดอาจเอื้อมเลยแม้น้อย เธอเจียมตัวมาโดยตลอด
"เรื่องของเราคงเป็นไปไม่ได้แล้วใช่ไหมพี่คราม" มองแหวนที่นิ้วนางข้างขวาซึ่งเป็นแหวนที่เขาซื้อให้เธอตอนวันครบรอบสองปี
'สวมแหวนนี่ไว้ก่อนนะวันแต่งงานจริงๆ พี่จะหาแหวนที่สวยและแพงกว่านี้มาให้' ทั้งภาพและเสียงที่เขาเคยทำเคยพูดกับเธอมันดังทับอยู่ในหัวจนไม่สามารถเอามันออกไปได้
ครืด~ ครืด~ เสียงโทรศัพท์สั่นอยู่บนเตียง มือเล็กรีบปาดน้ำตาออกอย่างรวดเร็วพยายามปรับโทนเสียงให้ปกติที่สุดเท่าที่จะทำได้
"พี่คราม ทำไมวันนี้โทรมาดึกจังเลย" เสียงหวานสดใสราวกับไม่ได้ผ่านการร้องไห้ เธอต้องทำเป็นไม่รู้เรื่องที่ได้ยินมา
[ชมโทรมาหาพี่ก่อนหน้าได้ยินอะไรหรือเปล่า] คชาไม่รอช้ารีบเข้าประเด็นด้วยความข้องใจ เขาเช็กโทรศัพท์เห็นเบอร์ของคนรักโทรมาเมื่อไม่กี่นาทีก่อน แต่เขาไม่ได้ตั้งใจที่จะกดรับสายคงเป็นเพราะมือไปโดนโดยไม่รู้ตัว
"ไม่นี่คะชมโทรไปพอพี่รับก็ไม่พูดอะไรชมรอสักพักก็ตัดสายทิ้ง" เธอโกหกเขาได้อย่างแนบเนียน ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
[งั้นเหรอ] เมื่อเธอบอกแบบนั้นเขาค่อยโล่งใจ ไม่อยากให้คนรักมาได้ยินที่ตนทะเลาะกับผู้เป็นแม่
"ดึกแล้วพี่ยังไม่นอนอีกเหรอ ทำวิจัยเสร็จหรือยังคะ" ชนิการีบเปลี่ยนเรื่องทันควัน
[ใกล้แล้วแหละ พี่แค่อยากได้ยินเสียงของชมก่อนนอนน่ะ]
"ได้ยินแล้วก็ไปนอนได้แล้วค่ะคุณแฟน"
[พี่จะไปนอนแล้วนะ ชมก็นอนได้แล้ว] คชาอมยิ้มน้อยๆ เสียงสดใสของเธอทำให้เขากับมายิ้มได้อีกครั้ง
"รับทราบค่ะ ฝันดีนะคะ"
[ฝันดีค่ะ ฝันเห็นพี่ด้วยนะ]
เสียงอบอุ่มตอบกลับมา ชนิกาได้แต่ยิ้มทั้งน้ำตา มือกำโทรศัพท์ไว้แน่นเมื่อเขาวางสายไปแล้ว จู่ๆ น้ำตาที่พยายามกลั้นไว้ก็ได้ไหลลงมาอย่างห้ามไม่ได้ ทำไมความรักของเธอกับเขาถึงต้องมีอุปสรรคแบบนี้ ทั้งที่รู้มาตลอดว่าต่างกับเขามาก แต่ไม่คิดเลยว่าทุกอย่างจะต้องจบลงแล้ว
