ในคืนนั้น
ร่างบางในชุดนักศึกษามุ่งตรงไปยังคอนโดฯ แห่งนั้น พร้อมแววตาเป็นประกาย เลื่อนสายตามองตึกหรูใจกลางเมือง หญิงสาวก้มลงเปิดไลน์ แล้วพิมพ์หาแฟนหนุ่มด้วยรอยยิ้มอ่อน
“ฝนถึงแล้วนะ ให้ฝนไปรอให้ห้องเลยใช่ไหมคะ”
“ใช่ แต่ถ้าง่วงก็ปิดไฟนอนได้เลยนะ พี่อาจจะกลับดึกหน่อย ขอบคุณนะฝน ที่ยอมมาหาพี่ในคืนนี้ พี่คิดว่าฝนจะไม่ยอมมาแล้วซะอีก”
“ฝนรักพี่นะคะ แล้วเจอกันค่ะ” ฝนทิพย์พิมพ์ทิ้งท้าย ก่อนจะก้าวเท้าเข้าไปรับคีย์การ์ดจากพนักงาน แล้วขึ้นไปรอบนห้องตามที่แฟนหนุ่มบอก
เพียงเปิดประตูเข้าไปเท่านั้น ฝนทิพย์ถึงกับเบิกตากว้าง ภายในห้องใหญ่โตกว้างขวางเป็นระเบียบ แสดงถึงความใส่ใจของผู้อยู่อาศัยเป็นอย่างมาก แต่ถึงอย่างนั้นเธอไม่แน่ใจนักว่าภูดิศหาเงินจำนวนมากมาซื้อคอนโดฯ หรูแบบนี้ได้ยังไง ก่อนจะเดินไปยังหน้าต่างกระจก แล้วทอดสายตาไปยังเบื้องล่าง เห็นรถคันเล็กวิ่งไปมา
“สวยจัง” หญิงสาวเผลออุทานออกมา พร้อมรอยยิ้มหวานมีความหวัง อีกสามปีเธอก็จะเรียนจบ มีเงินเดือนมากพอที่จะซื้อรถ ซื้อบ้านให้ยายอยู่อย่างไม่ลำบาก ก่อนเสียงมือถือของเธอจะดังขึ้น
“ว่าไงเขม”
“เธออยู่ที่ไหน ได้ไปหาพี่บอลหรือเปล่า”
“อื้ม...ฉันตัดสินใจมาหาเขา” ปลายฝนพูดพร้อมใบหน้าแดงระเรื่ออย่างเขินอาย ก่อนจะเบี่ยงตัวไปนั่งยังเก้าอี้สีขาวที่อยู่ด้านข้าง
“เขม...ฉันทำแบบนี้เหมือน..ฉันกำลังทำผิดต่อยายเลย”
“ไม่ต้องคิดมากนะ ชีวิตเป็นของเราไม่ใช่เหรอ เธอไม่เด็กอายุสิบห้าแล้วนะ พวกเราล้วนต้องมีชีวิตเป็นของตัวเองทั้งนั้น ยังไงซะ ฉันก็เชื่อว่าเธอจะไม่มีวันพลาดเหมือนแม่ของเธอเด็ดขาด เธอก็เห็นไม่ใช่เหรอ ว่าพี่บอลเขารักเธอขนาดไหน เธอเองก็รักเขา ต่างคนต่างรักกัน...ก็ไม่เห็นแปลกตรงไหนที่จะมอบความรักให้กัน” ดวงตากลมของฝนทิพย์หลุบต่ำลง
“ขอบใจนะ ที่ช่วยพูดให้ฉันตัดสินใจอะไรง่ายขึ้น”
“ไม่ต้องขอบใจฉันหรอก ก็เราเป็นเพื่อนกันนี่นา เธอเองก็เป็นเพื่อนรักของฉัน อย่าลืมสิ ว่าพวกเราผ่านอะไรกันมาตั้งมากมาย”
“ฉันรักเธอนะ” ฝนทิพย์ซาบซึ้งน้ำใจของอีกฝ่ายด้วยความจริงใจ หลังจากวางสายเพื่อนรักแล้ว ปลายฝนก็เดินสำรวจรอบ ๆ ห้องด้วยสายตาเป็นประกาย ก่อนจะแปลกใจเมื่อเห็นกรอบรูปปริศนาวางเด่นหราอยู่ มือบางค่อย ๆ เอื้อมไปหยิบขึ้นมา
“รูปใครกัน ทำไมพี่บอลถึงเอามาวางไว้ตรงนี้” ใบหน้าแสนใสซื่อทอดมองคนในรูป ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาหล่อเหลาเกินกว่าจะเห็นในชีวิตประจำวัน
“อาจจะเป็นญาติของพี่บอลก็ได้มั้ง” เธอคิดเช่นนั้น จึงค่อย ๆ วางรูปกลับไว้ที่เดิม แล้วละความสนใจทั้งหมดทิ้งไป
หญิงสาวอดทนรอแฟนหนุ่มจนเวลาผ่านพ้นไปนับจากสามทุ่ม เลื่อนเป็นห้าทุ่ม ยังไม่มีท่าทีว่าแฟนหนุ่มของเธอจะกลับ นาฬิกาวนเวียนเปลี่ยนไปจนถึงตีหนึ่ง ฝนทิพย์เริ่มมีอาการง่วง เธอนั่งสัปหงกหลายครั้ง ในที่สุดไม่อาจทนความง่วงได้ จึงเดินไปปิดไฟ แล้วเอนกายนอนลงบนเตียงสีทึบนั้นด้วยความอ่อนเพลีย
รู้ตัวอีกที ร่างของชายหนุ่มก็โอบรัดกายเธอแน่น พร้อมกับรุกล้ำเข้ามายังเรือนร่างอันบอบบาง ฝนทิพย์สะดุ้งตื่นก่อนจะดันกายชายหนุ่มออกท่ามกลางความมืดมิด ก่อนจะนึกได้ว่าเธอตั้งใจมอบรักนี้ให้เขา จึงยอมทำตามโดยไม่ขัดขืน...ร่างกายกำยำของอีกฝ่ายไล่ดูดดื่มเธอทั่วร่าง พร้อมกับเสียงหอบดังลอดมาเป็นระยะ หญิงสาวหลับตาเคลิ้มกับสิ่งที่เขาทำให้เพราะความรัก และความอ่อนโยนจากอีกฝ่าย ทำให้หญิงสาวปล่อยร่างกายไปตามอารมณ์
“ฝนรักพี่นะคะ” คำบอกรักของเธอ ไม่ถูกตอบกลับ ทว่าหญิงสาวค่อย ๆ เอื้อมมือไปโอบกอดแฟนหนุ่มแน่น ไม่รู้ทำไมเธอรู้สึกว่ารักเขามากกว่าเดิม นับจากนี้ทั้งร่างกายและหัวใจได้มอบให้กับภูดิศหมดแล้ว ไม่เหลือพื้นที่อื่นใดให้ใครอีก
ท่ามกลางคืนมืดมิดผ่านพ้นไป แสงสว่างอ่อน ๆ ลอดผ้าม่านเข้ามา ฝนทิพย์ลืมตาขึ้นแล้วปล่อยยิ้มกว้างออกมา ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองคนรัก เพียงสายตาหวานเลื่อนมองตรงไปเท่านั้น ฝนทิพย์ถึงกับเบิกตากว้างตกใจอย่างถึงที่สุด เมื่อคนที่นอนข้างกายทั้งคืนไม่ใช่แฟนหนุ่ม แต่กลับเป็นใครอีกคนที่เธอไม่รู้จัก
