ความทุกข์ใจของหญิงสาว
“ส่วนเรื่องของผู้หญิงคนนั้น ผมจะจัดการเอง พ่อไม่ต้องห่วง...ยังไงผมก็จะไม่ยอมให้เรื่องนี้ มีผลต่อธุรกิจของเราอย่างแน่นอน”
“แกจะจัดการยังไง”
“ให้เงินเธอไปสักก้อน ทุกอย่างก็คงจบ”
“แต่พ่อตงิดใจบอกไม่ถูก พ่อกลัวว่าลูกในท้องผู้หญิงคนนั้น จะเป็นหลานของพ่อจริง ๆ อย่างน้อยคิดจะทำอะไร ก็ควรไตร่ตรองให้ดีก่อน พ่อว่า...รอตรวจดีเอ็นเอเด็กก่อนจะดีกว่าไหม ถ้าไม่ใช่หลานของพ่อ แกจะทำอะไรก็ทำไป” หิรัญทอดสายตามองบิดาครู่หนึ่ง แม้จะมั่นใจว่าเด็กในท้อง ไม่ใช่เลือดเนื้อของเขา หากแต่สายตากังวลของบิดา ทำให้หิรัญยอมอ่อนลง
“ถ้าตรวจแล้วพ่อสบายใจ ก็เอาแบบนั้นก็ได้ ผมตามใจพ่อละกัน” เขาพูดจบเตรียมลุกขึ้น ก่อนที่เสียงชายกลางคนจะเอ่ยขึ้น
“ส่วนเรื่องผู้หญิง ก็เบา ๆ ลงบ้าง แกจะซื้อกินแบบนี้ไปตลอดไม่ได้หรอกนะ สุดท้ายแล้วปัญหาพวกนี้ก็จะตามมาไม่หยุดหย่อน อะไร ๆ แกก็ทำได้ดีมาเสมอ จะมาพังเพราะผู้หญิงแบบนี้ไม่ได้”
“ผมไม่ได้จริงจังกับใครนี่ครับ ผู้หญิงที่ผมจะแต่งงานด้วย ต้องมีคุณสมบัติครบถ้วนเหมาะสมกับผมเท่านั้น แต่ผมจะเบาให้ละกัน” ชายหนุ่มตอบหน้าตาย พลันเบี่ยงตัวเดินจากไป
สองเท้าของฝนทิพย์เดินเข้าซอยมาในชุมชนเล็ก ๆ ที่มีสภาพแวดล้อมไม่ดีเท่าไหร่นัก หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าจนสุด แล้วปรับสีหน้าให้เป็นปกติ พลางหยิบเสื้อแขนยาวออกมาใส่เพื่อปกปิดหน้าท้องที่เริ่มจะนูนขึ้น ฝนทิพย์กลืนน้ำลายอึกใหญ่ กลั้นใจเดินเข้าไปในบ้าน พบกับยายนั่งกวนขนมด้วยท่าทางไม่แข็งแรงเท่าไหร่นัก หญิงสาวยืนมองด้วยน้ำตาไหลพราก ความฝันของเธอคือเรียนให้จบมหาวิทยาลัยแล้วรีบหางานดี ๆ ทำเพื่อเลี้ยงดูยายในบั้นปลายชีวิต แต่ตอนนี้ความฝันของเธอพังทลายหมดสิ้นแล้ว สิ่งที่เธอเคยกลัว มันได้เกิดขึ้นแล้ว เหตุการณ์ในอดีตกลับมาซ้ำรอยเก่าให้ยายต้องเจ็บปวดเป็นครั้งที่สอง
“อ้าว! ฝน ร้องไห้ทำไมลูก” หญิงชราหันมาเห็นจึงชะงักนิ่ง แล้วรีบเดินเข้ามาหาหลานสาว ด้วยความตกใจเมื่อเห็นน้ำตาของเธอ
“เข้ามานั่งก่อน...เป็นอะไร ทำไมร้องไห้น้ำตาอาบแก้มแบบนั้นล่ะ มีอะไรหรือเปล่า บอกยายได้นะ” น้ำเสียงแหบพร่าเอ่ยขึ้นอย่างเป็นห่วง ทำให้หญิงสาวยิ่งรู้สึกผิด เธอส่ายศีรษะไปมาแล้วรวบมือยายเข้ามากุมไว้แน่น
“ยายจ๋า...หนูรักยายนะ ยายต้องอยู่กับหนูนาน ๆ นะ”
“โถ..กลัวยายตายว่างั้น..ไม่เอา ไม่ร้องไห้นะลูก นั่นไปกินข้าวก่อน ยายทำต้มจืดไว้” ว่าแล้วฝนทิพย์ก็หันไปยังโต๊ะอาหารที่มีกับข้าวตั้งหราอยู่ไม่กี่อย่าง เธอเลื่อนสายตามองบ้านเช่าหลังเก่าซอมซ่อ ก่อนหญิงชราจะยกมือลูบศีรษะหลานสาวด้วยความรัก
“ยายยังอยู่อีกนาน ยังไงยายจะต้องดูความสำเร็จของหลานสาว ที่ฝนเคยบอกว่าเราจะอยู่ที่นี่กันอีกแค่สามปี ถ้าฝนมีรายได้ เราจะย้ายออกทันทีจำได้ไหม” ฝนทิพย์ ตั้งใจฟังคำพูดอ่อนโยนของยายด้วยความรู้สึกผิด
“ไม่ต้องกลัวว่ายายจะเป็นอะไรไปก่อน ตอนนี้ฝนมีหน้าที่เรียน ก็ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด เข้าใจไหม” คำพูดของหญิงชราทำให้ฝนทิพย์น้ำตาไหลพรากลงมา เธอมืดแปดด้าน ไม่รู้ว่าควรจัดการกับชีวิตที่เหลือต่อไปอย่างไร ก่อนจะรีบกลับเข้าห้องมาหลังจากกินข้าวเสร็จ
ฝนทิพย์ทิ้งตัวลงนั่ง พลันก้มมองท้องน้อยของตัวเองอย่างหมดหวัง
“ทำไมชีวิตของฝน ต้องเป็นเหมือนแม่ด้วย ฝนไม่อยากให้ลูกเกิดมาแล้วรู้สึกขาดความรักเหมือนที่ฝนเป็น ทำไมสวรรค์ต้องเล่นตลกกับฝนแบบนี้ด้วย” ปลายฝนก้มหน้าร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจ หลังจากเธอไปหาหิรัญในวันนี้ ก็ยิ่งมั่นใจว่าเขาไม่มีวันรับผิดชอบเด็กในท้องอย่างเด็ดขาด
หญิงสาวหวนนึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้าพร้อมคาบน้ำตาที่ยังไม่จางหายไป หลังจากเธอตัดสินใจว่าจะไปหาแฟนหนุ่มเพื่อปรับความเข้าใจกันในคืนนั้น อยู่ ๆ ไลน์ของภูดิศก็เด้งขึ้นมาอย่างกะทันหัน ใจความด้านในทำให้หญิงสาวขมวดคิ้วแปลกใจ
“ถ้าฝนเปลี่ยนใจมาหาพี่ ก็มาตามที่อยู่นี้ละกัน ห้อง 4401 พี่ฝากคีย์การ์ดไว้ที่ด้านล่าง ไปรอพี่ที่ห้องนั้นได้เลย อ่อ..ตอนนี้พี่ดื่มเหล้าอยู่กับเพื่อน อาจจะกลับดึกหน่อย ฝนหลับก่อนก็ได้” หญิงสาวอ่านข้อความไลน์ พร้อมปลายนิ้วพิมพ์ตอบกลับไปในทันที
“ตามที่อยู่นี้ เป็นคอนโดฯ ใหม่ของพี่เหรอคะ” เธอเอ่ยถามหลังจากเขาเคยเปรยว่ากำลังซื้อคอนโดฯ ใหม่
“พี่จะรอนะ ถ้าคืนนี้ฝนไม่มา พี่จะได้ทบทวนตัวเองว่าพี่คงไม่ดีพอสำหรับฝน” ฝนทิพย์อ่านจบหัวใจเธอหล่นวูบลง ด้วยความรู้สึกผิด พลันรีบโบกแท็กซี่ที่กำลังผ่านมา แล้วรุดไปยังคอนโดฯ ตามที่ภูดิศให้ไว้ ระหว่างนั่งรถเธอทบทวนสิ่งต่าง ๆ พร้อมคำเตือนจากยายว่าให้เธอรักนวลสงวนตัว ไม่อยากให้เดินตามรอยแม่ แต่สำหรับภูดิศ เธอรู้สึกสงสารเขาจับใจ เขาเป็นแฟนที่ดีไม่เคยนอกใจให้เธอต้องเสียใจสักครั้ง ความดีของเขามากมายเกินกว่าเธอจะปิดกั้นต่อไปได้ และหากเธอท้องกับเขาจริง คนอย่างภูดิศจะรับผิดชอบไม่ทอดทิ้ง ให้เธอต้องตกอยู่ในสภาพเดียวกับแม่ ความมั่นใจนี้ทำให้หญิงสาวปล่อยยิ้มออกมาอย่างมีความสุข
