บทที่ 3 มีแฟนหรือยัง
นรภัทรมองการกระทำแสนอ่อนโยนของสาวตรงหน้า กำลังทายาให้ตนเองอย่างแผ่วเบา
“เสร็จแล้วค่ะ” เธอพูดขึ้นเงยหน้าจากแขนกำยำมองสบตาเขาก่อนจะเบือนหน้าไปทางอื่น
“มีแฟนแล้วหรือยัง”
“ว่าไงนะคะ” เธอถามอย่างตกตะลึง
“ผมถามว่าคุณมีแฟนแล้วหรือยัง”
“ยังค่ะ” เธอตอบเสียงเบา
“ที่ผมถามเพราะอยากให้คุณแบ่งเวลาให้ดี ไม่อยากให้มากระทบกับงาน คุณก็รู้ว่างานเลขาต้องเดินทางบ่อย”
“ค่ะ ดิฉันเข้าใจแล้ว” เหมือนจะร้องไห้ เขาเพียงแค่ห่วงเรื่องงานเท่านั้น ไม่ได้สนใจเธอเหมือนที่เธอกำลังรู้สึกตอนนี้
“กลับไปทำงานได้แล้ว ผมมีอีกหลายอย่างต้องเรียนรู้ หวังว่าคุณจะเต็มที่กับมัน”
“ค่ะ”
หลังจากวันนั้นผ่านมานานถึงหนึ่งสัปดาห์ หญิงสาวต้องคอยสอนงานแก่ชายหนุ่มตลอดแทบไม่มีเวลาว่าง แต่โชคดีเขาเป็นคนหัวไวจึงเรียนรู้งานได้เร็ว
“ปลายฟ้าเดี๋ยวจะมีแขกมาพบผม รบกวนคุณช่วยเตรียมอาหารว่างให้หน่อยสองที่”
“ได้ค่ะ” เธอตอบรับมองตามหลังชายหนุ่มเดินกลับไปในห้อง
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น
“เชิญเข้ามา” เสียงทุ้มตะโกนบอกแก่คนหน้าห้อง
“ขอโทษด้วยนะคะที่รบกวน ดิฉันนำอาหารว่างมาเสิร์ฟ” เธอผลักประตูเข้ามาในห้องก่อนจะนำอาหารว่างวางบนโต๊ะกระจกที่มีพวกเขานั่ง
“คุณปลายฟ้าใช่ไหมครับ” เสียงทุ้มของใครคนหนึ่งเอ่ยขึ้น
“ใช่ค่ะ” หญิงสาวเงยหน้าขึ้นส่งยิ้มหวานแก่ชายหนุ่มอีกคน
“ไม่ว่าจะผ่านมากี่ปี คุณปลายฟ้าก็ยังน่ารักเหมือนเดิมนะครับ”
“คะ” เธอมองหน้าชายหนุ่มคนดังกล่าว คิ้วสวยขมวดเข้าหากัน แปลกใจกับคำพูดของเขา
“อ๋อ...ผมแค่หมายถึงว่าคุณปลายฟ้าหน้าเด็กจังเลย”
“ค่ะ” เธอยิ้มแก้เขิน รู้สึกทะแมง ๆ ในคำพูดเขา
“กลับไปทำงานได้แล้ว” เสียงดุของนรภัทรเอ่ยขึ้น
“ค่ะ” หญิงสาวหุบยิ้มลง ค่อย ๆ ถอยหลังออกจากห้อง
“เฮ้ย…ไม่นึกเลยว่าผู้หญิงคนนั้นที่ลากมึงออกจากผับกูคืนนั้น คือคุณปลายฟ้า” เสียงทุ้มของคิมหันต์กล่าวกับนรภัทร
คิมหันต์หรือคิมเจ้าของผับชื่อดังแห่งหนึ่ง ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์คืนนั้น มองเพื่อนโดนสาวสวยอย่างปลายฟ้าลากออกจากผับตนเอง
“ใช่ปลายฟ้า กว่ากูจะตามหาเจอ”
“แล้วมึงจะเอายังไงต่อวะ มึงได้บอกคุณปลายฟ้าไปยัง”
“ยัง”
“มึงรออะไรอีกวะ”
“ยังไม่ถึงเวลา”
“มัวแต่ชักช้าระวังจะมีหมาคาบไปก่อนล่ะ”
“หึ!! กูไม่มีทางให้เกิดเรื่องแบบนั้นแน่” ต่อให้มีใครที่ไหนกล้ามายุ่งกับคนของตนเอง มันผู้นั้นต้องได้เห็นดี
“เออ...แล้วกูจะคอยดู” คิมหันต์มองหน้าอย่างท้าทาย
ช่วงเวลาพักเที่ยงปลายฟ้าไม่ได้ออกไปรับประทานอาหาร เนื่องจากความเหนื่อยล้า หญิงสาวเผลอนอนหลับลงคาโต๊ะทำงาน
“น้องฟ้าครับ”
“อื้อ พี่เอกเหรอคะ” เธอลืมตาขึ้นมองดูบุคคลตรงหน้า
“เป็นอะไรหรือเปล่าครับ” เอกชัยเดินอ้อมโต๊ะทำงานไปหาหญิงสาว
“เปล่าค่ะ” เธอตอบขณะที่ศีรษะยังคงแนบโต๊ะ
“น้องฟ้าหน้าซีดนะครับ ไม่สบายหรือเปล่า” เขาเอื้อมมือไปแตะหน้าผากมนคนตัวเล็ก ก่อนจะรับรู้ไอร้อนจากกายหญิงสาว
“ฟ้าไม่เป็นอะไรคะ”
“น้องฟ้าตัวร้อนมาเลยนะครับ เดี๋ยวพี่พาไปโรงพยาบาล” เอกชัยไม่ฟังคำทัดทานหญิงสาว รีบอุ้มเธอเข้าสู่อ้อมกอดทันที
“พวกคุณจะทำอะไรกัน” เสียงเข้มของนรภัทรดังมาแต่ไกล ได้เห็นคนที่ตนเองหวงแหนตกอยู่ในอ้อมกอดชายอื่น
“ผมขออนุญาตพาฟ้าไปโรงพยาบาล เธอไม่สบายมาก” เอกชัยพูดตามความจริง
“ปลายฟ้าไม่สบายเหรอ” นรภัทรถามขึ้นด้วยความห่วงใย มองร่างบางในอ้อมกอดของเอกชัย ซึ่งใบหน้างามบัดนี้แดงซ่านด้วยพิษไข้
“ครับ ผมขออนุญาตคุณนรภัทรด้วย”
“เดี๋ยวผมพาปลายฟ้าไปโรงพยาบาลเอง คุณกลับไปทำงานเถอะ” นรภัทรเข้าไปแย่งหญิงสาวจากอ้อมกอดเอกชัย แล้วรีบพาหญิงสาวไปยังรถทันที
เอกชัยมองตามหลังร่างคนทั้งสองเดินจากไปอย่างไม่เข้าใจ
“ฟ้า คุณอย่าเป็นอะไรนะ” เขาพูดขึ้นหลังจากพาเธอมานั่งในรถเรียบร้อย ตนเองก็เดินอ้อมไปนั่งประจำคนขับ
สิ่งที่ปลายฟ้าได้ยินเมื่อสักครู่ เธอแทบไม่อยากจะเชื่อหูตนเอง น้ำเสียงที่เขาพูดกับเธอช่างอ่อนโยนเหลือเกิน ทั้งสรรพนามเรียกขานราวกับคนสนิท
ชายหนุ่มไม่ได้พาหญิงสาวไปยังโรงพยาบาลอย่างที่บอกแก่เอกชัย เขาขับรถพาเธอมายังคอนโดตนเอง เพราะเป็นสถานที่ใกล้ที่สุด
เขารีบช้อนร่างบางเข้าสู่อ้อมกอด พามายังห้องนอนตนเองวางเธอลงบนเตียงขนาดใหญ่อย่างแผ่วเบา
นรภัทรล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงหยิบโทรศัพท์เครื่องหรู ต่อสายถึงเบอร์ปลายทาง
“ช่วยพาหมอมาคอนโดฉัน”
(คุณภีมเป็นอะไรหรือเปล่าครับ)
“ฉันไม่ได้เป็นอะไร อย่าถามมากทำตามคำสั่งฉันพอ”
(ได้ครับ ผมจะรีบจัดการให้ทันที)
หลังจากวางสายลูกน้องคนสนิทอย่างลีโอ เขาก็เดินไปหาร่างบางบนเตียงขนาดคิงไซต์
“ทำไมถึงปล่อยให้ตัวเองป่วยกันนะ” มือหนาลูบแก้มนวลด้วยความห่วงใยมากมาย
ติ๊งต่อง.
เสียงออดหน้าห้องดังขึ้น เรียกสติชายหนุ่มหันไปมอง
“คุณภีมเป็นอะไรครับ” ทันทีที่ประตูห้องเปิดออกมา ลีโอรีบถามเจ้านายหนุ่มด้วยความห่วงใย
“ไม่ใช่กู ไหนหมอล่ะ”
“นี่ครับ” ลีโอถอยห่างจากเจ้านายหนุ่ม เผยให้เห็นร่างของแพทย์
“คนไข้อยู่ไหนครับ”
“ทางนี้เลยครับ” นรภัทรเดินนำหน้าแพทย์พาไปยังห้องที่มีปลายฟ้านอนหลับอยู่
“คนไข้เป็นอะไรครับ” แพทย์เอ่ยขึ้นทันทีเมื่อเห็นร่างบางบนเตียงนอน
“ไม่สบายครับ”
“อืม” แพทย์คนดังกล่าวพยักหน้าตอบรับเพียงเท่านั้น แล้วหันมาสนใจปลายฟ้าต่อ
“ใครเหรอครับคุณภีม” ลีโอกระซิบถามข้างหูเจ้านายหนุ่ม
“ไม่ต้องยุ่ง!!”
“โธ่ คุณภีมแค่นี้ต้องดุด้วย” ลีโอทำเสียงน้อยใจเจ้านายหนุ่ม
“ถ้ามึงยังพูดมากอยู่อย่างนี้ มึงก็ออกไปจากห้องกูซะ!!” เขาเอ็ดลูกน้องครู่หนึ่ง ก่อนจะหันกลับไปสนใจดูแพทย์กำลังตรวจหญิงสาวต่อ
“ครับ” ลีโอตอบเสียงเบา
“เธอเป็นอย่างไรบ้างครับหมอ” นรภัทรรีบถามแพทย์ทันทีเมื่อเห็นเขาผละออกจากเตียงนอน
“คนไข้ไม่เป็นอะไรมากแล้วครับ เพียงแค่พักผ่อนไม่เพียงพอ ตอนนี้หมอฉีดยาให้คนไข้แล้วนะครับ”
“ขอบคุณหมอมากนะครับ”
“ด้วยความยินดีครับ อย่างไรก็เป็นหน้าที่หมออยู่แล้ว หมอขอตัวก่อนนะครับ”
“ลีโอไปส่งหมอด้วย”
“ได้ครับคุณภีม เชิญหมอ” ลีโอพาแพทย์ไปส่งตามคำสั่งเจ้านายหนุ่ม
ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบมีเพียงเขาและเธออยู่ภายในห้องด้วยกัน
“รีบฟื้นขึ้นมานะครับ ผมเป็นห่วง” มือหนากุมมือบางไว้ไม่ห่าง
ปลายฟ้ารู้สึกตัวตื่นขึ้นมาในช่วงเย็นของวัน เธอค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมองรอบห้องด้วยความแปลกตา ก่อนจะเห็นร่างกำยำของนรภัทรนอนกุมมือตนเองไม่ห่าง
“คุณนรภัทร!” เธอเอ่ยเสียงเบาพลางนึกถึงย้อนเหตุการณ์เรื่องเมื่อช่วงกลางวันที่เกิดขึ้น ก่อนจะค่อย ๆ ย่องลงจากเตียงไม่ให้ชายหนุ่มได้ยินเสียงตนเองจนตื่นขึ้นมา
“เฮ้อ...กว่าจะออกมาได้” เธอถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมาจากห้องสำเร็จ
คนไม่รู้ว่าหญิงสาวได้หนีออกจากห้องตนเองแล้ว รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาในช่วงเวลาหนึ่งทุ่ม เพราะได้ยินเสียงเรียกของลูกน้องคนสนิท
“ฟ้าไปไหน!!” เขารีบลุกขึ้นเดินไปถามลีโอ จับไหล่กว้างทั้งสองข้างเค้นคำตอบ
“ผมไม่ทราบครับ ตอนเข้ามาในห้องก็ไม่เห็นแล้ว เห็นแต่คุณภีมนอนอยู่ข้างเตียง”
“อืม” เขาปล่อยแขนหนาตนเองลงจากไหล่กว้างของลีโอ
“คุณภีมเป็นอะไรหรือเปล่า” ลีโอถามขึ้นเมื่อเห็นเจ้านายหนุ่มเงียบลง
“ไม่เป็นไร จะไปไหนก็ไปเถอะ”
“ครับ” ลีโอพยักหน้าแล้วเดินออกไปทันที ปล่อยให้เจ้านายหนุ่มอยู่ในห้องเพียงคนเดียว
“ทำไมชอบทิ้งผมอยู่เรื่อยเลย” เขาพูดด้วยอารมณ์น้อยใจที่ถูกเธอทิ้งครั้งแล้วครั้งเล่า โดยไม่เคยบอกลากันสักคำ
