EP.6 หัวใจเต้นรัว เพราะไม่สบายรึเปล่า
EP.6
หัวใจเต้นรัว เพราะไม่สบายรึเปล่า
หลังกลับมาจากคลาสเรียนนอกสถานที่ เดย์ก็รีบโทรหามีนทันที
เดย์: อยู่ไหนแล้วแก
มีน : ยังไม่กลับกันเลย พวกฉันได้ โจทย์ภูเขา อาจารย์ก็พามาซะไกล ทางวนไปมาจนจะอ้วกอยู่แล้ว
เดย์ : อีกนานแค่ไหนกว่าแกจะกลับมา ให้ฉันรอที่มหาลัยมั้ย เผื่อแกอยากกลับบ้านด้วยกัน
มีน : คงอีกพักใหญ่ ๆ เลย แกไม่ต้องรอฉัน กลับก่อนได้เลย แต่รบกวนนิดหนึ่ง ช่วยแวะซื้อกล้วยทอดหน้าปากซอยบ้านพักเราที ร้านเจ๊วรรณี
เดย์ : อืมเดี๋ยวแวะซื้อให้
มีน : งั้นแค่นี้ก่อนนะ ไว้เจอกันที่บ้าน
เดย์ : เคร
หลังจากที่เดย์วางสายจากมีน เธอก็ลุกเก็บของและอุปกรณ์กล้องของเธอใส่เป้
วันนี้เธอมีเรียนแค่วิชาเดียวเท่านั้น และกลุ่มของเธอก็กลับมาถึงมหาวิทยาลัยเป็นกลุ่มแรกเนื่องจากพื้นที่ที่ได้รับนั้นอยู่ใกล้ที่สุด
"เพื่อนๆ ฉันกลับก่อนนะ" เดย์หันไปโบกมือให้เพื่อนๆ อีก 9 คนที่ยังนั่งอยู่ในห้อง
"กลับแล้วเหรอ ไม่ออกไปทานข้าวด้วยกันก่อนล่ะ นี่ก็เที่ยงกว่า ๆ แล้ว" เพื่อนในห้องทักท้วงเธอกันระงม
จริงๆ แล้ว เธอเป็นที่รักของคนในห้องมาก เมื่อไม่กี่วันก่อนที่เธอเข้า โรงพยาบาล เพื่อนในห้องต่างรับรู้และทักข้อความหากันทั้งนั้น แต่เพราะมือถือเธอพังทำให้เธอไม่ได้อ่านข้อความเหล่านั้นเลย
แม้จะมีข่าวลือเรื่องการเลิกรา ระหว่างเธอกับแบงค์ และมีคนจากคณะอื่นๆ พูดสาเหตุกันไปต่าง ๆ นา ๆ ล้านแปด เพื่อน ๆ ในห้องก็ปกป้องเธอสุดฤทธิ์ จนทำให้เรื่องข่าวลือต่าง ๆ ซาลงอย่างรวดเร็ว
"ฉันอยากรีบไปปรับรูปส่งอาจารย์นะสิ ขาดเรียนไป 2 วันต้องขยันหน่อย เดี๋ยวพวกแกเป็นห่วงฉันอีก" เดย์ยิ้มให้เพื่อนในห้องเช่นเคย และพวกเขาก็รู้จักนิสัยของเธอเป็นอย่างดี
"กลับดี ๆ ล่ะ รู้สึกไม่สบายตรงไหนก็ทักข้อความมานะ" เพื่อนทุกคนหันมายิ้มให้พลางโบกมือ
"ฉันหายดีแล้ว แข็งแรงสุด ๆ พวกแกไม่ต้องเป็นห่วง ฉันไปล่ะ" เธอยืนโบกมือแล้วจึงเดินออกมา
เธอแบกเป้เดินออกมาจากห้องเรียน ในขณะที่มือก็กุมท้องเริ่มออกอาการว่าหิวโหย เธอจึงรีบเดินออกมาขึ้นแท็กซี่หน้ามหาวิทยาลัย แม้จะรับรู้ได้ว่ามีสายตาบางส่วนที่จ้องมองมาเพราะเรื่องของเธอกับแบงค์ รวมไปถึงข่าวการหมั้นนั้นก็เป็นที่พูดถึงไม่น้อย แต่เพราะมีเพื่อน ๆ ไปทักท้วง และกระจายข้อเท็จจริง จึงทำให้สายตาเหล่านั้นไม่ได้มองด้วยความหยามเยียด แต่กลับเป็นสายตาที่เห็นใจซะมากกว่า
"เดี๋ยวมันก็ผ่านพ้นไปล่ะนะ" เธอก้มหน้าบ่นพึมพำ จากสถานการณ์รอบข้างที่เป็นอยู่ และก้าวเท้าให้เร็วขึ้น
เธอนั่งแท็กซี่ จนมาถึงหน้าปากซอย เธอไม่ลืมที่จะแวะซื้อกล้วยทอดเจ๊วรรณี ให้เพื่อนอย่างมีนไว้ ก่อนที่จะเดินเข้าบ้านพัก ซึ่งประตูรั้วหน้าบ้านล็อกอยู่ นั่นแสดงว่าตอนนี้ไม่มีคนอยู่ในบ้านสักคน แต่คุณป้าได้มอบกุญแจทั้งประตูรั้ว กุญแจบ้านไว้ให้สมาชิกบ้านทุกคน จึงไม่จำเป็นต้องกังวลอะไร
วันนี้งานเธอค่อนข้างล้นมือ นอกจากต้องคัดหารูปพร้อมปรับแต่งรูปเพื่อนส่งอาจารย์แล้วนั้น เธอยังต้องนำไฟล์ภาพที่มีคุณวินมาปรับแต่งก่อนส่งให้เขาค่ำคืนนี้ ดังนั้นตอนนี้เธอจึงเดินไปที่ครัว หยิบแซนด์วิช 1 ชิ้นในตู้เย็นแล้วยัดเข้าปากไปบรรเทาความหิว แล้วเดินขึ้นไปบนห้องของตนเพื่อทำงานต่อ
เธอนั่งหลังแข็งหน้าจอคอมพิวเตอร์ เลือกภาพรำไทเก็ก แก้ไขภาพ ไปสักระยะ แต่กลับไม่มีรูปไหนถูกใจเธอ 100% เลย เมื่องานขาดความเพอร์เฟคไปนั้นก็ทำให้เธอไม่มีกะจิตกะใจที่จะทำต่อไป เธอทิ้งมือทั้งสองข้างจากเมาส์และคีย์บอร์ด แหงนหน้ามองฝ้าเพดานที่ขาวนวล
"ทำไมเหนื่อยจัง" เธอแน่นิ่งหายใจเข้าลึก ๆ ไป 2-3 ที ก็กลับมานั่งหลังตรงมองจอคอมอีกครั้ง เธอไล่ดูรูปไปเรื่อย ๆ จวบจนมาถึงเซตรูปภาพของคุณวินที่เธอเผลอถ่ายกดชัตเตอร์รัว ๆ และมันมากมายยิ่งกว่าเซตของกลุ่มคนรำไทเก๊กซะอีก
เธอเลื่อนมองดูรูปแล้วรูปเล่าอย่างช้า ๆ ปรับแก้ไปทีละใบ เพ่งพิจารณาทุกรูปกลับพบว่า มันดูดีไปหมดทุกรูปทั้งแสง สี และคน
"ไม่รู้ว่าฉันถ่ายรูปออกมาดี หรือนายแบบหน้าตาดีกันแน่นะ รูปถึงได้ดูดีขนาดนี้" เธอมองรูปด้วยสายตาลุ่มลึกทำไมกันนะ แค่มองดูผ่านจอ หัวใจของเธอกลับเต้นเร็วเป็นจังหวะ เธอเอามือกุมหน้าอกข้างซ้ายก็พบว่ามันเต้นราวกับจะระเบิด เธอไม่เคยรู้สึกแบบนี้
"ให้ตายเถอะ ฉันต้องไม่สบายแน่ ๆ เป็นเพราะฉันหิวข้าวรึเปล่าหัวใจถึงเต้นเร็วแบบนี้ ต้องใช่แน่ ๆ ต้องเพราะสาเหตุนี้แน่ ๆ" เธอกุมหน้าอกพลางมองไม่ละออกจากรูปภาพในหน้าจอคอมพิวเตอร์ เธอลุกขึ้นยืนสงบนิ่ง
"ร้อนทำไมฉันร้อนขนาดนี้ แอร์ก็เปิดแล้วนิ"
"ไม่สบายต้องไม่สบายแน่ ๆ อาบน้ำเย็น ๆ ดีกว่า"
เดย์ที่รู้สึกกระสับกระส่าย ได้ปลดเปลื้องเสื้อผ้าออก คว้าผ้าเช็ดตัวผืนเล็กที่ไม่อาจปิดได้มิดชิด เดินเข้าไปห้องน้ำทันที น้ำเย็นจากฝักบัวที่ไหลผ่านตั้งแต่หัว จรดเท้า ไม่ได้ทำให้ร่างกายของเธอหายจากอาการรุ่มร้อนแต่อย่างใด หัวใจเธอยังคงเต้นตึกตัก แบบไม่เคยเป็นอย่างนี้มาก่อน แม้กับแฟนที่คบกันมา 2 ปี
"แย่แล้ว ฉันตกหลุมรักเขาเหรอ ไม่นะ" เธอเอาผ้าเช็ดตัวขยี้ผมอย่างแรง เพื่อเรียกสติกลับมา จวบจนเดินออกจากห้องน้ำแต่งตัว เป่าผมแล้วนั้น ก็ยังไม่สามารถสลัดความคิดบ้า ๆ นี้ได้
"ฉันจำเป็นต้องนอน" เธอหยิบยาแก้ปวด เมื่อรู้สึกไม่สบายคั่นเนื้อครั่นตัว จากนั้นจึงได้ข่มตานอนหลับไปทั้งอย่างนั้น เพื่อให้หลุดจากความคิดบ้า ๆ เหล่านี้ไปให้หมด
