บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 5

เคี่ยวน้ำตาลเสร็จก็ไปทำขนมต่อ กว่าจะเสร็จก็ปาไปบ่าย เหนียวตัวอยากอาบน้ำมากเลย เดี๋ยวก็ต้องเอาขนมไปส่งอีก

ฉันเดินกลับห้องมาอาบน้ำ ค่อยชื่นใจหายร้อนหน่อย ฉันได้ยินเสียงแปลก ๆ อยู่ข้างล่าง เลยเดินมาดูที่หน้าต่าง ก็เห็นนายพฤกษ์กำลังควงดาบสองมืออยู่คนเดียว ก็เลยยืนมอง

เขารำดาบสองมือได้สวยมาก ท่วงท่าดูองอาจ เหมือนเป็นทหารโบราณจริง ๆ เอ๊ะ!...หรือเขาจะย้อนเวลามาจริง ๆ หว่า หื้อ...คงไม่หรอกน่า อย่างมาก...เขาก็เป็นได้แค่หลวงมโนล่ะว๊า

ฉันก็ยืนดูเขาเพลินเลย เขารำอยู่ดี ๆ ก็เงยหน้าขึ้นมองมาที่ฉัน ฉันตกใจหลบแทบไม่ทัน

"บ้าจริง...เราจะหลบทำไมวะ ไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย แค่ดูเขาซ้อมดาบก็ไม่ได้เหรอ ช่างเถอะ...ไปส่งของดีกว่า"

ฉันยักไหล่ไม่สนใจ เดินลงมาข้างล่าง เจ้านิวกำลังยกของขึ้นรถ ฉันจะเดินไปช่วย แต่เห็นนายพฤกษ์ช่วยเจ้านิวขนของ เขามาตอนไหนนะ ทำไมเร็วจัง ฉันทำเป็นไม่เห็น ไม่อยากยุ่งด้วย

"พี่ตาล...ขนเสร็จแล้วจ้ะ"

"ขอบใจนะไอ้นิว"

ฉันเอากุญแจขึ้นนั่งที่คนขับ สตาร์ทเตรียมจะออกรถแล้ว

"ไอ้ตาล...รอพ่อพฤกษ์ก่อน"

ฉันขมวดคิ้วหันไปมองพ่อ

"รอทำไมล่ะพ่อ"

"แม่ไอ้นิวโทรมาตาม มันเลยจะไปหาแม่มัน พ่อเลยจะให้พ่อพฤกษ์ไปช่วยขนของแทน"

"ไม่ต้องก็ได้...แค่นี้เอง ตาลขนคนเดียวได้จ้ะพ่อ"

"เอาน่า...ยังไงพ่อพฤกษ์ก็เป็นผู้ชาย แล้วก็ตัวใหญ่กว่าเอ็ง มีอะไรก็ให้เขาช่วยสิ เอ็งจะได้เบาแรงไง"

"ของแค่นี้เองนะพ่อ ตาลไปคนเดียวก็ทำได้"

ฉันนึกเคืองพ่อที่จะให้นายพฤกษ์ไปกับฉันด้วย แต่ทำไงได้...ก็ยังดีกว่าอวดเก่งไปคนเดียวล่ะว๊า

"พ่อพฤกษ์...ไปส่งของเป็นเพื่อนไอ้ตาลทีเถอะ"

"ไอ้ตาลรึ...นางเป็นแม่หญิง ไยพ่อฉ่ำเรียกไอ้เล่า...หาควรไม่"

นายพฤกษ์เล่นพ่อฉันซะแล้ว ฉันเม้มปากกลั้นหัวเราะ ในขณะที่พ่อฉันทำหน้าเหมือนอมบอระเพ็ด

"มันเป็นลูกฉัน ฉันจะเรียกยังไงก็ได้ ใครจะทำไม"

นายพฤกษ์ส่ายหัว

"นางเป็นหญิง มิควรเรียกไอ้ ควรเรียกอีจึงจะถูก"

ฉันหันขวับมาจ้องเขาตาเขียว ลงจากรถมาซัดไปที่ต้นแขนของเขา แต่ฉันกลับต้องสะบัดมือด้วยความเจ็บ คนบ้าอะไร เนื้อแข็งอย่างกับหิน

"ลองเรียกฉันว่าอีสิ ฉันฆ่านายแน่ จะไปก็ขึ้นรถ"

ฉันบอกเขา ที่ยืนทำหน้าแปลก ๆ มองรถของฉัน

"มิมีม้าเทียม จักไปเยี่ยงไร"

"ก็นี่ไง...ม้าเหล็กล่ะ"

ฉันเปิดประตูข้างคนขับ แล้วดันหลังเขาให้ขึ้นรถ พ่อฉันเอาเท้าถีบประตูปิดให้ ฉันขึ้นมานั่งที่คนขับ แล้วจงใจเหยียบรถให้พุ่งไปข้างหน้า นายพฤกษ์ร้องลั่นรถ

"ไยม้าเหล็กเจ้าจึงพยศนัก"

"หารู้ไม่..."

ฉันพูดล้อเลียนเขา เขาหันมามองหน้าฉัน แต่ไม่พูดอะไร ฉันก็ไม่คุยกับเขาเหมือนกัน แต่แอบเห็นเขานั่งเกร็งเลยนึกขำ หวังว่าคงไม่ตกใจจนฉี่แตกเลอะรถฉันหรอกนะ

ฉันขับรถเอาขนมไปส่งลูกค้าจนถึงเจ้าสุดท้าย รับเงินเสร็จก็กลับ เขาก็ช่วยฉันยกขนมไปส่งโดยไม่อิดออด เบาแรงฉันไปเยอะเลย

ฉันเห็นเขาเหนื่อย มีเหงื่อท่วมตัว เลยซื้อเป๊บซี่เย็น ๆ ให้เขาขวดนึง เขามองแล้วส่ายหัวไม่ยอมรับ

"เอาสิ...ไม่หิวน้ำเหรอ"

"น้ำสกปรกสีดำเยี่ยงนี้ จักกินได้เยี่ยงไรเล่า แล้วไยเจ้าต้องซื้อน้ำด้วยเล่า ดื่มน้ำตามคลองก็ได้"

ฉันถอนใจ

"อย่าเรื่องมากได้ไหม ให้กินก็กินสิ ไม่ตายหรอกน่า น้ำคลองสมัยนี้กินไม่ได้แล้ว มันสกปรกจะตาย ดำกว่าไอ้น้ำในขวดนี้เสียอีก"

เขายังลังเล

"ไม่กินก็ตามใจ"

ฉันจะดึงขวดคืน แต่เขาไม่ยอม ฉันมองเขายกขวดขึ้นดื่ม แล้วทำหน้าเหยเก

"น้ำอันใดนี่ ช่างบาดคอแท้"

ฉันหัวเราะขำ นี่เขามาจากไหนกันแน่เนี่ย ถึงไม่รู้จักทีวี ไม่รู้จักเป๊บซี่ หรือเขาจะมาจากโลกอดีตจริง ๆ งั้นเหรอ น่าคิดแฮะ!... ตอนขากลับฉันจึงชวนเขาคุย

"เอ่อ...บ้านนายอยู่ตรงไหนของอยุธยาหรือ"

"บ้านข้าอยู่มิไกลจากวัดพระนางเชิงนัก"

"วัดไรนะ...พระนางเชิงเหรอ"

เขาพยักหน้า ฉันเกาหัวงง วัดอะไรหว่า...ไม่เคยได้ยิน มีวัดชื่อนี้ในอยุธยาด้วยเหรอ เคยได้ยินแต่วัดพนัญเชิง หรือจะเป็นวัดเดียวกันหว่า

"แล้ว...มีพี่น้องไหม"

"ข้ามีพี่ชาย 2 คน น้องสาวหนึ่งคน พวกเขาล้วนออกเรือนสิ้นแล้ว"

ฉันปรายตามองเขาค้อน ๆ หวังว่าคงไม่ได้พูดกระแทกฉันนะ

"แล้วนายจะทำยังไงต่อไป"

"หารู้ไม่...ที่นี่มิเหมือนบ้านข้า ข้าอยากกลับบ้าน แต่มิรู้จักกลับเยี่ยงไร สงสารแต่แม่...ท่านคงคิดถึงข้านัก"

เขาพูดแล้วทำหน้าเศร้า ฉันไม่รู้ว่าขาพูดจริงไหม ก็ไม่รู้ว่า...จริง ๆ แล้วเขามาจากไหนกันแน่ แต่ฉันยังไม่ปักใจเชื่อว่าเขามาจากอดีตหรอกนะ แม้จะมีอะไรแปลก ๆ หลายอย่างก็ตาม

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel