บทย่อ
เขาเป็นองครักษ์วังหลวงรูปหล่อ ที่ย้อนเวลามาอย่างไม่ตั้งใจ เธอเป็นลูกสาวร้านทำขนม ที่ได้พบเขาโดยบังเอิญ ความรักที่ย้อนเวลามาพบกันของคนทั้งคู่ เป็นโชคชะตาหรือความบังเอิญกันนะ พวกเขาจะได้อยู่ด้วยกันไหม ความรักครั้งนี้จะเป็นไปได้หรือเปล่า...
บทนำ
ปีพ.ศ.2164 ในปลายรัชสมัยของพระเจ้าทรงธรรม แห่งแผ่นดินกรุงศรีอยุธยา
ค่ำคืนในยามวิกาล ชายชุดดำกลุ่มหนึ่ง บุกเข้าวังหลวงอย่างไม่ประสงค์ดี พวกมันล้วนมีฝีมือเก่งกล้า กว่าจะฝ่ามาถึงพระตำหนักชั้นในได้ พวกมันสังหารทหารไปไม่น้อย เหล่าทหารวังวิ่งกันวุ่นวาย มีเสียงดังตะโกนก้องบริเวณนั้น
"มีคนร้าย...รีบอารักขาพ่ออยู่หัว"
ชายชุดดำกระจายกันล้อมพระตำหนัก ทหารวังสู้ไม่ได้ ถูกสังหารไปหลายคน พวกมันบุกมาถึงหน้าพระตำหนักโดยไม่มีผู้ใดขัดขวาง ชายชุดดำคนหนึ่งเอื้อมมือจะผลักประตู แต่ประตูถูกเปิดออกอย่างแรง ชายคนที่เอื้อมมือจะมาเปิดประตู ถูกคนเปิดประตูถีบจนกระเด็นหงาย
"พวกเจ้าบังอาจนัก..."
ชายหนุ่มร่างสูงหน้าตาคมเข้มหล่อเหลา ดวงตาแข็งกร้าว จ้องมองพวกชายชุดดำอย่างเย็นชา
"เจ้า...กล้าขวางทางพวกเรารึ"
"ไยมิกล้า...เศษสวะเช่นพวกเจ้า หาได้อยู่ในสายตาข้าไม่"
ชายชุดดำ 3 คน ฟันดาบเข้าใส่ชายหนุ่ม เขาเบี่ยงตัวหลบ ชักดาบสองมือที่สะพายหลังออกมาและฟันกลับไป ฟันเพียงครั้งเดียวก็สังหารชายชุดดำไปถึงสองคน
"เจ้า...เจ้าคือผู้ใดกัน"
"หลวงณรงค์ฤทธิ์ หัวหน้ากององครักษ์แห่งวังหลวง"
ชายชุดดำมองหน้ากัน ไม่คิดว่าชายหนุ่มรูปงามอายุน้อยคนนี้จะเป็นถึงหัวหน้ากององครักษ์ ผู้เป็นศิษย์เอกสำนักพุทไธสวรรย์และมีฝีมือเลื่องลือ แม้จะหวาดหวั่น แต่ก็จำต้องทำใจกล้า เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย
"มิว่าเจ้าจะเป็นผู้ใด ข้าหาหวั่นเกรงไม่ แม้นคิดขวางทาง ข้าก็จักมิไว้ชีวิตเจ้า"
"เช่นนั้นหรือ...ก็เข้ามาสิ"
หลวงณรงค์ฤทธิ์ถือดาบสองมือกระชับในมือมั่น ประกายตาคมกล้า จ้องมองพวกมันอย่างแน่วแน่ ชายชุดดำถาโถมเข้าฟันดาบใส่ เขาเอาดาบต้านทั้งซ้ายและขวา ขาถีบคนหน้าจนล้มคว่ำ ตวัดดาบเป็นรูปกากบาท บั่นคอชายชุดดำจนขาดกระเด็น
คนที่เหลือก็ถาโถมเข้ามาหวังจะสังหารเขา แต่ฝีมือดาบของเขา ไม่มีใครสามารถเข้าถึงตัวได้ พวกชายชุดดำจึงต้องตายดุจใบไม้ร่วง
"พี่พฤกษ์...ข้ามาช่วยแล้ว"
ชายหนุ่มคนหนึ่งพาทหารวังมาช่วยอีกหลายคน แต่กว่าจะมาได้ ชายชุดดำก็ตายเกือบหมด เหลือแค่ไม่กี่คนที่ถูกจับ
"กว่าจักมาได้นะออแสง"
"ข้าเพิ่งรู้ หาไม่...คงมาเสียนานแล้ว นี่พวกมันตายหมดหรือไม่"
"ไม่ดอก..ยังพอมีเหลือให้เจ้าจับ"
หลวงณรงค์ฤทธิ์เอาดาบเสียบคืนสู่ฝัก
"พ่ออยู่หัวเล่าพี่"
"พระองค์ประทับอยู่หอพระตะวันออก มิได้ประทับอยู่ที่นี้ดอก "
"เออ...โล่งใจไปที"
"วันรุ่งจักทรงเสด็จไปไหว้รอยพระพุทธบาท พวกมันคงรู้...จึงมาจู่โจมหวังลอบปลงพระชนม์ ออแสง... คืนนี้เจ้าจงวางเวรยามให้แน่นหนา อย่าได้ผิดพลาดแม้แต่น้อย"
"จ้ะ...พี่พฤกษ์"
หลวงณรงค์ฤทธิ์ตบไหล่ออแสง แล้วเดินจากไป ออกแสงให้ทหารคุมตัวชายชุดดำที่เหลือไปคุมขังรอการไต่สวน
หลวงณรงค์ฤทธิ์เดินเข้าไปในห้องพัก เขาปลดดาบที่สะพายหลัง และนั่งลงบนพื้น ภายนอกมีเสียงฟ้าดังเปรี้ยงปร้าง
"คืนนี้จักมีฝนตกหรือนี่"
หลวงณรงค์ฤทธิ์ลุกมาเปิดหน้าต่างมอง สายฟ้าแลบแปลบปลาบดูน่ากลัว
"ประหลาดนัก นี่มิใช่วสันตฤดู ไยจึงมีฝนฟ้าเยี่ยงนี้ เกิดฝนฟ้าวิปริตแปรปรวนหรือไร คืนนี้มีคราสด้วยรึ"
ดวงจันทร์กำลังจะเกิดจันทคราส ท้องฟ้ามืดทะมึน หลวงณรงค์ฤทธิ์เดินกลับเข้ามาในห้อง
"เปรี้ยงงงง"
เสียงฟ้าผ่าเสียงดัง ตามด้วยเสียงดังโวยวายฟังไม่ได้ศัพท์ เขาลุกไปดูที่หน้าต่างอีก ก็เห็นแสงเพลิงลุกโชติช่วงอยู่ไม่ไกล ด้วยหน้าที่...เขาเอาดาบคู่ใจสะพายหลัง แล้ววิ่งออกไปดูตรงที่ไฟไหม้
"พี่พฤกษ์...พี่พฤกษ์"
ออแสงเรียกเขาแต่ไกล
"ออแสง...ไฟไหม้ที่ใดรึ"
"ไฟไหม้ใกล้ที่ประทับจ้ะพี่ เรือนของชาวบ้านไหม้ไปหลายหลังเทียว"
"ให้คนไปช่วยชาวบ้านดับไฟด้วย ข้าจักไปเฝ้าพ่ออยู่หัว"
ออแสงรับคำ รีบสั่งทหารไปช่วยชาวบ้านดับไฟ หลวงณรงค์ฤทธิ์รีบวิ่งมุ่งหน้าไปยังหอพระตะวันออก ข้างหน้าของเขาปรากฏอุโมงค์ประหลาด ในขณะที่ท้องฟ้าแปรปรวน ฟ้าแลบฟ้าร้องเสียงดัง
หลวงณรงค์ฤทธิ์พะวงแต่พ่ออยู่หัวในที่ประทับ จึงไม่รู้ตัวว่าตนได้วิ่งเข้าหาอุโมงค์ประหลาด ออแสงหันมาดูหลวงณรงค์ฤทธิ์ ก็ทันเห็นเขากำลังวิ่งเข้าหาอุโมงค์ประหลาด
"พี่พฤกษ์...กลับมา อย่าได้วิ่งไปทางนั้น...พี่พฤกษ์"
ออแสงตะโกนเสียงดัง แต่สายไปเสียแล้ว หลวงณรงค์ฤทธิ์ถูกดูดเข้าไปในอุโมงค์ และหายไปอย่างไร้ร่องรอย พอร่างของหลวงณรงค์ฤทธิ์ถูกดูดเข้าไป อุโมงค์ประหลาดก็ปิดตัวลง ราวกับไม่มีสิ่งใดเคยเกิดขึ้น
"พี่พฤกษ์...พี่พฤกษ์"
ออแสงหมดแรง นั่งพับลงกับพื้น ทหารหลายคนที่ตามมาด้วย ล้วนยืนตะลึงพรึงเพริด ต่างก็ทำตัวไม่ถูก ไม่รู้จะช่วยยังไง หลวงณรงค์ฤทธิ์หายไปต่อหน้าต่อตา และหายไปไหนก็ไม่รู้

