18 ผมอยากดูแลแฟน
แม้จะเป็นวันเสาร์แต่วันนี้เมญาวีก็ตื่นนอนแต่เช้า เธอชงกาแฟทานกับคุกกี้เป็นอาหารเช้า จากนั้นก็เริ่มเก็บของลงกล่องอย่างรวดเร็ว เพราะไม่อยากให้เวหาต้องมาเหนื่อยไปกับตัวเองด้วยอีกคน
เมื่อเห็นว่าใกล้เวลาที่เวหาบอกว่าจะเข้ามา หญิงสาวก็รีบอาบน้ำสระผมล้างคราบเหงื่อไคลที่ทำงานหนักมาตั้งแต่เช้า
คิดเอาไว้ว่าหลังจากทานอาหารแล้วจะชวนเขาออกไปดูหอพัก เพราะมีเหลือเวลาอีกเพียงสองวันที่เธอจะต้องหาที่อยู่ใหม่ให้ได้ เนื่องจากหญิงสาวไม่อยากไปนอนที่โรงแรมไม่ใช่เพราะเสียดายเงิน แต่เพราะเธอกลัวการนอนโรงแรมคนเดียวมากกว่า
เวหามาถึงก่อนเที่ยงเล็กน้อย เขาแวะซื้ออาหารญี่ปุ่นที่จัดเป็นเซ็ตเข้ามาด้วย เพราะคิดว่าเมญาวีคงจะยุ่งกับการเก็บของ
“มีอะไรให้ผมช่วยบ้างครับ ผมมาช้าไปหรือเปล่า ทำไมดูเหมือนคุณเก็บของเสร็จแล้ว”
“ไม่ช้าหรอกค่ะ ใช้เวลากเก็บนิดเดียวก็เรียบร้อยแล้วค่ะ”
“หิวไหมครับ ทานข้าวก่อนไหม”
“ก็ดีเหมือนกันค่ะ ขอบคุณนะคะ”
หลังทานอาหารเมญาวีก็ขอให้เวหาพาเธอไปหาพอพักที่ใหม่
ไม่มีหอพักไหนว่างเลยในรัศมี 5 กิโลเมตรจากหอพักเดิมที่เธออยู่
“ถ้าพักไกลออกไปกว่านี้ผมว่าเมยจะเดินทางลำบาก”
“ค่ะ เมยก็คิดอย่างนั้น คุณเวย์เหนื่อยหรือยังคะ”
“ผมต้องถามคุณมากกว่า นี่เราเดินหากันมานานแล้วนะครับ ดื่มน้ำหน่อยไหมดูสิเหงื่อเต็มหน้าไปหมดแล้ว”
“ขอบคุณค่ะ” เมญาวีรับน้ำที่เวหาเป็นคนไปซื้อมาให้จากร้านสะดวกซื้อที่ผ่านมาเมื่อครู่
“เมย”
“มีอะไรหรือเปล่าคะ”
“คุณหาแต่หอพัก ไม่คิดจะหาคอนโดบ้างเหรอครับ”
“คอนโดพวกนั้นส่วนใหญ่จะมีเจ้าของแล้วทั้งนั้นค่ะ เมยเคยไปถามก่อนที่จะมาเช่าที่นี่ อีกอย่างค่าเช่าก็แพงกว่าเท่าตัวเลยนะคะ” หญิงสาวให้เหตุผล
“แต่ผมว่ามันน่าจะปลอดภัยกว่า ผมรู้จักอยู่ที่หนึ่งคุณสนใจจะไปดูไหม ส่วนเรื่องค่าเช่าเดี๋ยวผมคุยกับเจ้าของให้”
“ลองดูก็ได้ค่ะ” เมญาวีเห็นถึงความตั้งใจของเวหาที่พยายามจะช่วย เธอเลยยอมไปดูคอนโดตามที่เขาบอก
คอนโดที่ชายหนุ่มพามาดูเป็นคอนโดขนาดกลาง มีสองห้องนอนสองห้องน้ำ ภายในห้องนอนใหญ่มีห้องน้ำและอ่างอาบน้ำ ตรงกลางห้องเป็นโซฟารับแขกตัวใหญ่สีเบจทำให้ห้องดูสว่างขึ้น อีกด้านเป็นส่วนของห้องครัว มีไอส์แลนด์ลายหินอ่อนอยู่ตรงกลาง ถัดมาเป็นโต๊ะเล็ก ๆ สำหรับนั่งรับประทาน นอกจากนี้ยังมีระบบรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด อีกทั้งยังอยู่ใกล้ที่ทำงานมากว่าหอพักเดิมของเธออีกด้วย
“เป็นไงครับ พออยู่ได้ไหม”
“ค่ะ เมยว่ามันใกล้ที่ทำงานมาก ไม่คิดว่าจะยังว่างอยู่ แต่มันกว้างไปหน่อยสำหรับการอยู่คนเดียว”
“ผมเข้าใจครับ แต่ถ้าอยู่สองคนผมว่ากำลังพอดีเลยนะครับ”
“ค่ะ เมยคงต้องหารูมเมทใช่ไหมคะ”
“ผมไม่ได้บอกให้หารูมเมทสักหน่อย”
“ถ้าให้อยู่คนเดียวเมยคงจ่ายค่าเช่าไม่ไหวหรอกค่ะ” เธอต้องพูดกับเขาตรง ๆ เพราะถ้าอย่างนั้นมีหวังเงินในแต่ละเดือนไม่เหลือแน่ ๆ
“ผมคิดค่าเช่าไม่แพงครับ”
“คุณเวย์พูดว่าอะไรนะคะ”
“ผมบอกกว่าคิดค่าเช่าไม่แพงครับ ห้องนี้เป็นของผมเอง ซื้อไว้ตั้งแต่ก่อนไปเรียน พอกลับมาก็ไม่ได้มาอยู่ ทิ้งไวเฉย ๆ ก็ไม่มีประโยชน์ คุณจ่ายค่าเช่าเท่าเดิมที่เคยจ่ายนั่นแหละครับ อย่าคิดมากเลย”
“แต่เมยว่ามัยไม่เหมาะกับเมยเท่าไหร่”
“คุณคิดเองว่าไม่เหมาะ แต่ผมว่ามันสะดวกดีนะครับ ใกล้ที่ทำงานปลอดภัย ค่าเช่าก็ไม่แพง หรือคุณกังวลเรื่องทำความสะอาด ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ผมจ้างแม่บ้านไว้แล้ว เขาจะเข้ามาทำความสะอาดทุกวันพุธ แต่ถ้าคุณมาอยู่ผมจะบอกให้เขามาทำเพิ่มอีกสัปดาห์ละวันดีไหมครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะ เรื่องทำความสะอาดสำหรับเมยไม่ใช่ปัญหา ส่วนเรื่องค่าจ้างแม่บ้านเมยขอจ่ายเองได้ไหมคะ”
“เห็นทีจะไม่ได้ครับเพราะนี่ก็ห้องผมเหมือนกัน”
“งั้นเมยไม่ตกลงค่ะ”
“โธ่ เมยครับ ให้ผมดูแลคุณบ้างได้ไหม เราเป็นแฟนกันแล้วนะครับ ที่ผมให้คุณมาอยู่ไม่ใช่เพราะดูถูกคุณหรือคิดเป็นอื่นนะครับ ที่นี่มันปลอดภัยสำหรับผู้หญิงตัวคนเดียวอย่างคุณ ผมเป็นห่วงคุณ”
เมญาวีคิดตาม มันก็จริงอย่างที่เขาพูดเพราะที่นี่ทั้งสะดวกและปลอดภัย
“ถ้าคนอื่นรู้คงคิดว่าเมยเอาเปรียบคุณ”
“เอาเปรียบที่ไหน ผมก็คิดค่าเช่านะครับ ไม่ได้ให้อยู่ฟรีสักหน่อย นะครับเมย”
กว่าจะตกลงกันได้เวหาก็เหงื่อตก ในที่สุดเมญาวีก็ยอมเช่าคอนโดที่เขาเป็นเจ้าของ แต่หญิงสาวเลือกที่จะนอนห้องเล็ก เวหาก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะแค่เธอยอมย้ายมาอยู่ที่นี่เขาก็ดีใจมากแล้ว
“พรุ่งนี้เก็บของมาเลยนะครับ แล้วอย่าลืมโทรบอกคุณรินว่าคุณได้ที่อยู่แล้ว เธอจะได้เที่ยวอย่างสบายใจ”
“ไหนว่าไม่ได้ยินเมยคุยกับเพื่อนไงคะ”
“ได้ยินแว่ว ๆ เองครับ”เวหารีบแก้ตัวทันควัน
หลังจากตกลงกันได้แล้วทั้งสองก็ลงมาทานอาหารที่ร้านเล็ก ๆ ซึ่งอยู่ติดกับคอนโด
“มื้อนี้เมยขอเลี้ยงคุณเวย์นะคะ”
“แต่ผมเป็นผู้ชายนะครับ”
“จะผู้หญิงหรือผู้ชายก็เหมือนกันค่ะ วันนี้คุณทำอะไรเพื่อเมยตั้งมากมายนะคะ ให้เมยได้ตอบแทนคุณบ้าง”
“ผมอยากได้อย่างอื่นมากกว่า”
“อยากได้อะไรคะ”
“อยากให้เมยเรียกผมว่าพี่ นะครับ
เมญาวีพยักหน้าเพราะมันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร
“แต่เมยขอเรียกแค่อยู่กันสองคนนะคะ ถ้าในที่ทำงานขอเรียกเหมือนเดิม”
“ครับ”
ตลอดมื้ออาหารเวหาเอาใจเมญาวีมากกว่าทุกครั้ง เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ทั้งสองทานอาหารนอกบ้านด้วยกันหลังจากตกลงคบกันเป็นแฟนเมื่อวาน
“ยิ้มอะไรคะ”
“มันตลกดีนะ เมยว่าไหม”
“อะไรตลกคะ”
“ก็มื้อนี้เป็นมื้อแรกที่เรากินข้าวนอกบ้านด้วยกันในฐานะแฟน แทนที่พี่จะเป็นคนเลี้ยง แต่กลับเป็นเมย”
“อย่าคิดมากเลยนะคะ ผลัดกันจ่าย เมยไม่อยากเอาเปรียบ ที่ผ่านมาพี่ก็เวย์ก็จ่ายมาตลอด”
“ก็ตอนนั้นพี่เป็นเจ้านายก็ต้องจ่ายให้ลูกน้อง แต่ตอนนี้เป็นแฟนแล้วก็อยากดูแลดี ๆ”
“ยังมีเวลาอีกเยอะ ไม่ต้องรีบหรอกนะคะ”
“นั่นสิ พี่มีเวลาดูแลเมยทั้งชีวิตเลยนะครับ” เวหากุมมือแฟนสาวพร้อมกับทำตาเป็นประกาย เขาจ้องหน้าเมญาวีจนเธอรีบหลบเพราะยังไม่ชินกับสถานะของตัวเอง
วันรุ่งขึ้นเมญาวีก็เรียกใช้บริษัทที่บริการขนย้ายสิ่งของ ส่วนตัวเธอนั้นก็นั่งรถตามมาที่คอนโดกับเวหา กว่าจะจัดของเสร็จก็ใช้เวลาเกือบทั้งวัน เวหาสั่งอาหารขึ้นมาทานบนห้องเพราะไม่อยากเสียเวลาออกไปทานที่อื่น
“ขอบคุณมากนะคะ ถ้าเมยจัดเองคงยังไม่เสร็จ”
“ยินดีครับ มีอะไรขาดเหลือไหมครับ”
“ไม่น่าจะมีนะคะ พี่เวย์เหนื่อยไหม ดื่มน้ำก่อนนะคะ”
“ไม่เหนื่อยเลยครับ พี่ว่าพรุ่งนี้เย็นเลิกงานแล้วไปซื้อของมาใส่ตู้เย็นหน่อยดีไหม”
“ก็ดีเหมือนกันค่ะ เมยจะได้หาของสดมาติดไว้ด้วย ที่นี่ใกล้ที่ทำงานมาก คงมีเวลาทำอะไรง่าย ๆ ก่อนไปทำงาน”
“พี่ขอฝากท้องตอนเช้าด้วยได้ไหม ยังไงก็ทางผ่านอยู่แล้ว จะได้ไปทำงานพร้อมกันเหมือนเดิม”
“แต่เมยทำกับข้าวไม่เป็นะคะ ที่ทำได้ก็แค่ไส้กรอก ไข่ดาวแล้วก็พวกแซนด์วิชแค่นั้นเองค่ะ” เพราะเธออยู่หอมาตั้งแต่เรียนชั้นมัธยมปลายจึงไม่เคยได้เข้าครัวเหมือนกับคนอื่น ๆ ที่อยู่บ้าน
“พี่กินง่ายครับ”
“งั้นก็ไม่มีปัญหาค่ะ”
เวหากลับไปแล้ว เมญาวีก็โทรศัพท์ไปหามารดาเพื่อบอกว่าตัวเองนั้นย้ายที่พักแล้ว
“เมย แม่ขอวิดีโอคอลหน่อยได้ไหมลูก”
หญิงสาวรู้ว่ามารดาเป็นห่วงเธอจึงยอมวิดีโอคอลคุยกับท่าน พอคุณเพชรลดาเห็นที่พักของลูกสาวแล้วก็อุ่นใจ เพราะดูแล้วมันน่าจะปลอดภัยกว่าพอพักเดิมที่หญิงสาวเคยอยู่
“ค่าเช่าแพงไหมลูก เงินเดือนพอใช้หรือเปล่า” เธอถามอย่างเป็นห่วง แม้จะอยากให้ลูกสาวกลับมาทำงานใกล้บ้าน แต่เมื่อเห็นว่าเมญาวีทำงานอย่างมีความสุขตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาเธอก็เลิกคิดเรื่องนั้น
“ค่าเช่าไม่แพงค่า บริษัทช่วยจ่ายด้วยนิดหน่อยค่ะ แม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ ที่นี่อยู่ใกล้ที่ทำงานมาก เมยประหยัดค่ารถไปได้อีกเยอะเลยค่ะ” เธอรีบบอกซึ่งอันที่จริงแทบไม่ได้ค่อยได้นั่งรถไปทำงานเลย เพราะเจ้านายใจดีมารับมาส่งตลอด
“บริษัทนี้สวัสดิการดีเหมือนกันนะ แล้วลูกเคยเจอเจ้าของบริษัทไหม”
“ยังไม่เคยเจอค่ะ อีกอย่างตำแหน่งอย่างเมยคงไม่มีโอกาสได้เจอหรอกค่ะ แต่ก็ดีเหมือนกันนะคะ ถ้าเจอก็ไม่รู้จะทำตัวยังไง”
“แม่ก็เป็นห่วงเรื่องนี้เมยยังเด็ก ถ้าต้องเจอคนที่ตำแหน่งใหญ่โตแม่ก็กลัวจะทำเรื่องขายหน้าเดี๋ยวเขาจะเลิกจ้างเอานะ”
“นั่นสิคะ แม่ค่ะ แต่เมยโตแล้วนะคะไม่ใช่เด็ก ๆ แล้ว”
“ยังไงก็ยังเด็กสำหรับแม่อยู่ดีนั่นแหละ แล้วที่บริษัทมีหนุ่มมาจีบบ้างไหมล่ะ”
“ไม่มีเลยค่ะ”
“ถ้ามีใครมาจีบเมยต้องดูดี ๆ นะลูกว่าเขามีครอบครัวหรือยัง แม่ไม่อยากเมยเป็นเหมือนแม่”
ในอดีตเพชรลดาเคยคบหากับผู้ชายอยู่คนหนึ่ง เขามีครอบครัวอยู่แล้ว แต่บอกเธอว่ากำลังมีปัญหาและกำลังจะหย่าจากกัน เธอจึงยอมคบกันถึง แต่เขาก็ไม่ทำอย่างที่พูด เธอเลยตัดขาดจากเขาและไม่บอกเรื่องลูก
จากนั้นเธอก็ดูแลเมญาวีคนเดียวมาตลอดและได้พบกับทิวัตถ์สามีคนใหม่ ที่เข้ามาคอยช่วยเหลือเธออยู่นาน กว่าเธอจะยอมใจอ่อนและตอบตกลงจดทะเบียนสมรสและย้ายไปอยู่กับเขาที่ไร่
“ค่ะ แม่เมยจะดูดี ๆ ถ้ามีคนมาจีบเมยจะรีบจ้างนักสืบเลยดีไหมคะ จะได้รู้ว่าเขาซุกลูกเมียไว้ที่ไหนบ้างหรือเปล่า”
“ไม่ต้องประชดแม่เลย ที่แม่พูดก็เพราะเป็นห่วง อยู่ตัวคนเดียวแบบนั้นเดี๋ยวก็โดนใครเขาหลอกเอา”
“ค่ะ แม่เมยจะดูแลตัวเองดี ๆ”
“แม่รักเมยนะลูก”
“เมยก็รักแม่นะคะ เมยฝากบอกลุงวัตถ์ด้วยว่าเมยคิดถึง”
“แล้วแม่จะบอกให้นะลูก”
“บ๊ายบายค่ะแม่”
