วางยา
บนรถ…
“รถคุณเปรมสวยจังเลยนะคะ หนูอยากมีวาสนาได้นั่งแบบนี้ทุกวันจังเลย” ฟางพูดด้วยน้ำเสียงระริกระรี้เมื่อได้ขึ้นมานั่งในรถของชายหนุ่ม
“ฟางอิจฉาคุณฝันจังเลยนะคะที่ได้คุณเปรมเป็นแฟน?”
“ทำมาเป็นพูดนะเราอ่ะ แล้วตอนนี้ฟางไม่มีแฟนหรอ?” ทอฝันยิ้มกว้างพร้อมถามกลับคนตัวเล็กที่นั่งอยู่ที่เบาะหลัง
“ไม่มีค่ะ”
“ล้อพี่เล่นหรือเปล่า เราหน้าตาน่ารักขนาดนี้ ไม่มีแฟนจริงหรอ?”
“ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าแฟนได้ไหม เราสองคนมีอะไรกันบ่อย แต่ก็ไม่ได้คบกัน” ฟางพูดก่อนจะมองไปยังชายหนุ่มที่กำลังขับรถอยู่ ในความคิดของเธอตอนนี้ มันไม่สามารถสลัดภาพตอนที่มีอะไรกันกับเขาออกได้เลย
“…..” ทอฝันหยุดชะงักหลังจากที่ได้ยินคำพูดของเด็กสาว ไม่ใช่แค่เธอแต่ชายหนุ่มก็หยุดนิ่งด้วยเช่นกัน เขาจ้องมองเด็กสาวผ่านกระจกมองหลังอย่างไม่ไว้ใจ
“แบบนี้ก็ได้หรอ มีอะไรกันแต่ไม่ได้คบกันเนี่ยนะ พิลึกจริง!”
“ใช่ค่ะคุณฝัน เขาคนนั้นทั้งหล่อทั้งรวย แถมยังลีลาเด็ดอีกด้วยนะคะ…หนูนี่ติดใจอยากจะมีอะไรกับเขาทุกวันเลยค่ะ”
“เอ่อ…” หญิงสาวถึงกับเลิ่กลั่กทำอะไรไม่ถูกเมื่อได้ยินเรื่องบนเตียงที่ฟางนั้นเล่าให้ฟัง มันเหนือความคาดหมายที่เธอคิดไว้มาก
“เรามีอะไรกันบ่อยมากเลยค่ะ เผลอๆ เขาอาจจะแอบมาเอากับหนูบ่อยมากกว่าที่เขาเอากับเมียอีกนะคะ”
เอี๊ยดดดดด เสียงเสียดสีของล้อยางกับพื้นถนนคอนกรีตดังลั่นสนั่นไปทั่วบริเวณ เมื่อชายหนุ่มเหยียบเบรคกระทันหัน จนทำให้ฟางถึงกลับหัวขมำหน้าคว่ำลงในทันที
รถเมอร์เซเดสสีบรอนซ์เงินของชายหนุ่ม หักหลบเข้าจอดข้างทาง ท่ามกลางความงุนงงของทุกคนที่อยู่ภายในรถ
“ลงไปได้แล้วไป ฉันส่งเธอแค่นี้แหละ”
“แต่ยังไม่ถึงบ้านหนูเลยนะคะ” ฟางถามด้วยน้ำเสียงเลิ่กลั่ก เมื่อจู่ๆ ก็ถูกชายหนุ่มไล่ตะเพิดลงจากรถแบบไม่ทันได้ตั้งตัว
“ฉันกับคุณฝันมีธุระต่อ คงส่งเธอได้แค่นี้”
“…..” ทอฝันมองหน้าแฟนหนุ่มด้วยความไม่เข้าใจแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ
“รีบๆ ลงไปซะสิ” ชายหนุ่มพูดย้ำขึ้นอีกครั้งเมื่อเห็นว่าเด็กสาวเอาแต่นั่งเฉย
“ค่ะคุณเปรม”
“…..”
“ถ้างั้นหนูลานะคะ” ฟางยกมือไหว้ลาคนทั้งสอง ก่อนจะเปิดประตูลงจากรถด้วยท่าทางที่ไม่ค่อยสบอารมณ์มากนัก จะมีก็แต่ทอฝันที่ยอมรับไหว้เธอ
“…..”
“เดี๋ยวนี้เขากล้าพูดเรื่องบนเตียงกันโจ่งแจ้งขนาดนี้แล้วหรอคะ?” ทอฝันบ่นพึมพำหลังจากที่ฟางนั้นออกไปแล้ว คำพูดของฟางยังดังอยู่ในความคิดของเธอ
“มันเป็นเรื่องปกติของคนสมัยนี้นะ ผมว่าคุณควรเปิดหูเปิดตาตามโลกให้ทันได้แล้ว”
“ก็อาจจะใช่มั้งคะ สงสัยฝันคงหัวโบราณเหมือนที่เปรมว่าจริงๆ”
“…..”
คลับ…
“คุณโอเคไหม?” เปรมเอ่ยถามแฟนสาวด้วยความเป็นห่วงในระหว่างที่กำลังเดินเข้ามาในคลับ เพราะเขารู้ว่าเธอไม่ค่อยชอบสถานที่อโคจรแบบนี้สักเท่าไหร่
“ฝันโอเคค่ะ เปรมไม่ต้องเป็นห่วง” ร่างบางตอบกลับ เพราะไม่อยากให้เขาคิดมากและเป็นกังวลกับเธอจนเกินไป
“เดินระวังนะครับ ทางตรงนี้มันค่อนข้างจะมืด” พูดจบชายหนุ่มก็เลื่อนมือไปทางด้านหลังเพื่อโอบเอวหญิงสาวเอาไว้แน่นเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ
“ไม่ต้องกอดฝันแน่นขนาดนี้ก็ได้มั้งคะ ฝันไม่ใช่เด็กแล้วนะ”
“ก็ผมเป็นห่วง”
“…..” ริมฝีปากบางยิ้มกว้างด้วยความเขินอาย พร้อมกับพวงแก้มที่ค่อยๆ แดงขึ้นเรื่อยๆ
“นั่นไงไอ้เธนส์ พวกมันนั่งอยู่ตรงนั้น” เปรมเอ่ยเมื่อสายตาเหลือบไปเห็นกลุ่มเพื่อนชายที่นั่งอยู่ในมุมมืดสลัวของคลับ
“รีบไปกันเถอะค่ะ เดี๋ยวเพื่อนคุณจะรอนาน”
“…..” ชายหนุ่มพนักหน้ารับ ก่อนจะประคองแฟนสาวเดินตรงไปหาพวกเพื่อนชายที่นั่งรออยู่
“สวัสดีคุณเธนส์ ไม่เจอกันนานเลยนะคะ” ทอฝันเอ่ยทักทายเจ้าของวันเกิดด้วยความสนิทสนม
“สวัสดีครับฝัน ดูเหมือนว่าฝันจะสวยขึ้นนะ” เธนส์เอ่ย ก่อนจะเดินเข้าไปทักทายหญิงสาวที่ยืนอยู่ต่อหน้าด้วยสีหน้ายิ้มแย้มไม่แพ้กัน
“คุณเธนส์นี่ยังปากหวานเหมือนเดิมเลยนะคะ”
“เจอคนสวยๆอย่างคุณฝัน ก็ต้องมีบ้างแหละครับ”
“…..” ใบหน้าแสนหวานถึงกลับเห่อร้อนขึ้นมา เมื่อได้เห็นสายตาหวาดหยดย้อยของเพื่อนชายที่มองมา เขาช่างดูเพอร์เฟคไปซะทุกอย่างจริงๆ
“ให้มันน้อยๆ หน่อย นี่มันเมียกู!” เปรมที่ยืนเงียบอยู่นานโพล่งขึ้นทก่อนจะจ้องไปยังเพื่อนชายด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยพอใจ
“ยังไม่เลิกสันดานขี้หวงอีกหรอมึงอ่ะ” เธนส์ถึงกลับหัวเราะออกมา เมื่อเห็นท่าทีของเพื่อนชาย ความจริงเขาแค่คิดจะแกล้งชายหนุ่มเท่านั้น
“มีเมียสวยขนาดนี้ ก็ต้องหวงเป็นธรรมดา จริงไหมครับที่รัก” ไม่พูดเปล่าแต่เปรมยังหันไปมองหน้าทอฝันที่กำลังยืนอยู่ ก่อนจะดึงเธอมาหอมแก้มฟ่อดใหญ่คล้ายกับหยอกล้อ
“อย่าค่ะเปรม คนอยู่เยอะแยะ อายเขา” ร่างบางเอ็ดเสียงดุเมื่อแฟนหนุ่มคลอเคลียมาที่ร่าง
กายของเธอไม่หยุด
“พอก็ได้ ไม่เห็นจะต้องดุ” เปรมหยุดการกระทำเมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กเริ่มไม่พอใจ เขารู้ดีว่าเธอไม่ชอบให้ทำแบบนี้ต่อที่สาธารณะ แต่เขาก็อดไม่ได้อยู่ดี
“เชิญนั่งดีกว่า จะได้สั่งอะไรมาทานกัน” เธนส์เอ่ย
“…..” ทอฝันหยุดชะงักไปชั่วขณะเมื่อสายตาเหลือบไปเห็นบุคคลที่คุ้นเคยนั่งหลบอยู่ในมุมมืด
“แล้วมึงเป็นเหี้ยอะไรไอ้กาย จู่ๆ ถึงได้เงียบไป” เธนส์เอ่ยถามเพื่อนชายอีกคน ที่ได้มานั่งรออยู่ก่อนหน้านั้นแล้ว กายคือคนที่แอบชอบทอฝันมานาน เพื่อนในกลุ่มทุกคนต่างรู้ดี เขากับเปรมเคยแข่งขันตามจีบทอฝันตั้งแต่สมัยตอนเรียนมหาลัย แต่สุดท้ายเธอก็เลือกตกลงปลงใจคบกับเปรม
“บรรยากาศเริ่มไม่ดี กูขอตัวออกไปสูบบุหรี่แป๊บ” กายหยัดตัวลุกขึ้นก่อนจะเดินออกไป ท่ามกลางความงุนงงของทุกคน
“…..”
“เป็นอะไรไปฝัน?” เปรมเอ่ยถามแฟนสาว เมื่อเห็นว่าเธอมีสีหน้าที่เริ่มเปลี่ยนไป
“ที่กายพูดมันหมายถึงฝันหรือเปล่า?”
“อย่าคิดมากสิฝัน ไอ้กายมันก็เป็นแบบนี้แหละ” เธนส์พูดสมทบ
“แต่ฝันไม่สบายใจที่เห็น…”
“ผมเคยบอกแล้วใช่ไหม ว่าอยู่กับผมอย่าคิดเรื่องคนอื่น!” เปรมพูดด้วยน้ำเสียงที่เริ่มหงุด
หงิด พลางมองหน้าทอฝันด้วยความไม่พอใจที่เห็นว่าเธอเริ่มสนใจคนอื่นมากกว่าเขา โดยเฉพาะผู้ชายที่เคยแอบชอบเธอ
“ฝันกำลังทำให้ผมหงุดหงิดอยู่นะ”
“ขอโทษค่ะเปรม”
“ช่างมันเถอะ เรามาดื่มฉลองให้ไอ้เธนส์กันดีกว่า” ชายหนุ่มเลือกที่จะไม่ใส่ใจต่อ ก่อนจะคว้าแก้วเหล้าที่อยู่ตรงหน้าขึ้นมาดื่ม โดยที่มีทอฝันนั่งร่วมวงอยู่ข้างๆ
เวลาผ่านไปร่วมชั่วโมงที่ทุกคนต่างพากันดื่มสังสรรค์จนเมามาย ไม่เว้นแม้กระทั่งชายหนุ่มที่เริ่มจะประคองสติของตัวเองไม่อยู่ จะมีก็เพียงทอฝันที่ยังคงนั่งเฝ้าแฟนหนุ่มไม่ไปไหน เธอจะได้ดื่มก็แค่น้ำผลไม้ที่เคยชายหนุ่มนั้นสั่งมาให้กับอาหารทานเล่นอีกแค่ไม่กี่อย่าง
“คุณจะทานอะไรเพิ่มอีกไหม เดี๋ยวผมสั่งให้”
“ไม่ดีกว่าค่ะ พอดีฝันอิ่มแล้ว”
“ถ้าอยากกลับบ้านก็บอกนะ” ริมฝีปากหนาเลื่อนเข้าไปกระซิบใกล้ๆ ข้างหูของหญิงสาว พร้อมกับกลิ่นแอลกอฮอล์ที่คละคลุ้งออกมาจากลมหายใจ
“ยังค่ะ เปรมสนุกกับเพื่อนต่อเถอะ”
“เมียผมน่ารักที่สุด อยากแต่งงานจะแย่อยู่แล้ว เมื่อไหร่จะยอมสักที” ไม่พูดเปล่าแต่ชายหนุ่มยังเอนใบหน้าคมคายซบลงบนบ่าของแฟนสาวพร้อมกับท่าทางออดอ้อน
“มันก็อยู่ที่เปรมว่าทำตัวดีแค่ไหน” ทอฝันดึงมือของแฟนหนุ่มมาจับ ก่อนจุมพิตลงบนหลังมือของเขาเบาๆ ทำเอาคนที่โดนกระทำถึงกลับไปไม่เป็น
“…..”
“เดี๋ยวฝันขอตัวไปเข้าห้องน้ำสักครู่นะคะ”
“ไปสิ เดี๋ยวผมพาไป”
“ไม่ต้องหรอกค่ะเปรม ฝันไปเองได้ คุณอยู่ฉลองกับเพื่อนดีกว่า”
“เอางั้นหรอ?” ชายหนุ่มเอียงคอมองแฟนสาวด้วยความไม่ไว้ใจ
เขาไม่ได้ไม่ไว้ใจเธอ แต่…เขาไม่ไว้ใจพวกผู้ชายที่อยู่ในคลับนี้ต่างหาก
“ฝันดูแลตัวเองได้”
“ถ้าอีกสิบนาทีคุณไม่มา เดี๋ยวผมจะไปตาม”
“ค่ะเปรม” ร่างบางหยัดตัวลุกขึ้นก่อนจะเดินออกมาจากตรงนั้น พร้อมกับสายตาของเปรมที่มองตามจนสุดสายตา
“เด็กใหม่ที่เพิ่งเอามาเป็นไงบ้าง?” เธนส์กระซิบถามเพื่อนชาย พลางหันมองซ้ายขวาอย่างเลิ่กลั่ก ไม่ใช่ว่าเขาไม่ห้าม แต่ห้ามจนไม่รู้จะห้ามยังไง สุดท้ายเปรมก็ไม่ฟังเขาอยู่ดี
“ก็ดี” ชายหนุ่มเหยียดยิ้มตอบกลับ ก่อนจะคว้าแก้วเหล้าขึ้นมาดื่มอีกครั้ง
“ของใหม่ก็แบบนี้แหละ สดๆ ซิงๆ
เร้าใจฉิบหาย แต่มึงก็ระวังไว้หน่อยแล้วกัน ยัยเด็กฝึกงานนั่นดูแสบไม่เบา”
“กูระวังตัวอยู่”
“ขอฝันแต่งงานแต่ก็ยังเอาคนอื่นไม่หยุด เมื่อไหร่มึงจะเลิกสันดานแบบนี้สักที” กายที่นั่งเงียบอยู่นานโพล่งขึ้นแบบเหนื่อยหน่าย ถึงแม้ว่าจะผ่านมานานหลายปี แต่เขายอมรับว่าลึกๆ ในใจก็ยังคงชอบทอฝันอยู่
“กูชอบนะ มันดูตื่นเต้นเร้าใจดี”
“ถ้าฝันจับได้แล้วจะสนุกไม่ออก”
“ถ้ากูจะพลาดก็คงจะพลาดไปตั้งนานแล้ว”
“อย่ามั่นใจให้มาก อะไรก็เกิดขึ้นได้” กายพูดอย่างปลง เขารู้ว่าเพื่อนชายนั้นรักทอฝันมาก แต่ก็เลิกเจ้าชู้ไม่ได้
“…..”
“ดูเหมือนว่ามึงจะเสน่ห์แรงนะ มาถึงไม่ทันไร สาวๆ ก็ส่งสายตามาอ่อยซะแล้ว” เธนส์สะกิดบอกชายหนุ่มเมื่อเห็นว่ามีสาวสวยกลุ่มนึงที่นั่งอยู่โต๊ะถัดไป ส่งท่าทางยั่วยวนมาให้ท่าพวกเขาอยู่
“หึ!”
“ไม่สนใจลากไปกินสักคนสองคนหรอ?”
“ไม่อ่ะ”
“ไหนบอกว่าชอบความตื่นเต้น?”
“กูมีอะไรที่มันตื่นเต้นกว่านี้น่ะสิ” ริมฝีปากคลี่ยิ้มมุมปากพร้อมกับสายตาเจ้าเล่ห์
“อะไรของมึง?” เธนส์เอียงคอมองหน้าเพื่อนชายด้วยความไม่เข้าใจ
“นี่ไง! ของเล่นใหม่ของกู” ไม่พูดเปล่าแต่เปรมยังหยิบขวดยาสีชาขนาดเล็กออกจากกระเป๋ากางเกง ก่อนจะยื่นให้เพื่อนชายดู มันคือยากระตุ้นอารมณ์ความต้องการให้มีเพิ่มมากขึ้น
“ยาตัวแรงเลยนะมึง มึงจะเอาไว้ใช้กับใคร?”
“ทอฝัน”
“เอาจริงดิ!” เพื่อนทุกคนต่างหันขวับมามองหลังจากที่เปรมนั้นพูดจบ ท่าทางมึนเมาและสายตาของเพื่อนชาย บ่งบอกว่าทอฝันไม่มีทางรอดจากเงื้อมมือของเปรมแน่ๆ
“มันก็ต้องใช้ของกระตุ้นกันบ้าง ชีวิตจะได้มีสีสัน” ชายหนุ่มแค่นหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะหยดยาใส่ในแก้วน้ำผลไม้ของทอฝัน
“…..”
