บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 16 ยิ่งห้ามยิ่งหวั่นไหว…

EP16

.

.

.

“ช่วยถอยออกไปด้วยค่ะ…”

“โอเค กลับกัน”

“หนูจะไปทำธุระต่อค่ะ ปล่อยมือด้วย”

“ธุระอะไร?” ชายหนุ่มขมวดคิ้วพันกันด้วยความสงสัย เขายอมถอยห่างออกมาจากร่างเล็ก มือหนาคว้าหมับเข้าที่มือเธอหวังจะกลับบ้านพร้อมกัน

“ธุระส่วนตัวค่ะ”

“เธอกำลังทำตัวให้ฉันสงสัย กล้ามีความลับกับฉันงั้นหรอ?” เพิร์ธดันเด็กสาวติดกับมุมเสาอีกครั้ง ทำให้กระถินเกิดอาการหวาดหวั่นกับสายตาของคนรอบข้างที่มองมา ทวาคนตรงหน้ากลับไม่แคร์ยังคงจ้องใบหน้าจิ้มลิ้มเพื่อเอาคำตอบ

“หนูจะลองไปสมัครงานที่อื่น”

“…” ใบหน้าคมคายเอียงคอมองเธอด้วยท่าทีไม่เชื่อใจนัก

“…ถ้าหนูหนี พี่เอมกับยายก็จะไม่ปลอดภัย หนูไม่โง่ทำอะไรสิ้นคิดแบบนั้นหรอก”

“ก็ใช่…”

“เพิร์ธ มากับใครหรอคะ?” ในขณะที่เขาพยักหน้าเข้าใจกับคำพูดของกระถิน เสียงของใครบางคนก็สอดแทรกเข้ามา ทำให้ร่างหนารีบผละออกแล้วฉีกยิ้มให้อันนา

“บังเอิญเจอคนรู้จักเลยทักทายกันนิดหน่อย”

“งั้น เราไปทานข้าวด้วยกันดีไหมนายคงหมดธุระแล้ว”

“ได้ดิ…กินข้าวเสร็จแล้วกินอะไรต่อดี?” รอยยิ้มร้ายกาจปรากฎขึ้นบนใบหน้า ชายหนุ่มเดินเข้าไปคล้องเอวขอดแล้วเดินเคียงข้างกันไปทำกับกระถินเป็นดั่งอากาศ เด็กสาวมองการกระทำของเขาพร้อมกับส่ายหัวเรือมระอา นึกย้อนไปทำไมพี่สาวเธอถึงเคยคบกับคนแบบนี้ไปได้ไม่สมเหตุสมผลเอาซะเลย

“เป็นไง สมัครงานได้รึเปล่า” ทันทีที่เห็นร่างของเด็กสาวเดินเข้ามาในโรงพยาบาลหมอจางก็เอ่ยทัก สายตามองคนตัวเล็กที่ฟุบหน้าลงบนโต๊ะอย่างคนกำลังท้อ “ไม่ได้ร้านนี้ อาจจะได้ร้านอื่นก็ได้นะ”

“ในห้างพนักงานเต็มทุกร้านแล้วค่ะ”

“ไว้เดี๋ยวหมอจะช่วยอีกแรง แล้วที่มาหาหมอตกลงอยากให้หมอช่วยแล้วใช่มั้ย”

“ค่ะ…หนูอยากให้คุณหมอช่วย ทำยังไงก็ได้ที่จะหาหลักฐานมายืนยันว่าเขาป่วย” กระถินเงยหน้าขึ้นสบตากับหมอจางที่กำลังนั่งอ่านข้อมูลคนไข้ในแฟ้มของผู้ป่วย เธอถอนหายใจออกมาแล้วหยิบข้อมูลที่ปริ้นออกมาเมื่อวานมาวางไว้บนโต๊ะ…

“มาถึงขนาดนี้แล้ว ช่วยเล่าให้หมอฟังได้ไหมว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับหนูกันแน่”

“หมอจางรับปากแล้วใช่มั้ยคะว่าจะช่วยหนู”

“หมอเป็นคนเสนอตัวเอง ก็ต้องรับปากสิ” กระถินตัดสินใจเล่าเรื่องทุกอย่างตั้งแต่ต้นให้หมอจางฟังจนจบว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง มือหนาจึงหยิบข้อมูลขึ้นมาเปิดอ่าน สรุปในใจว่ากระถินกำลังทำทุกอย่างเพื่อให้เพิร์ธได้รับผลกรรม…

“ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆหมอยินดีช่วยหนูทุกอย่างเลยนะ มันไม่ยุติธรรมกับคนที่เขาไม่ผิดอะไร…”

“ค่ะ ไม่ยุติธรรมเลย เขาไม่ควรเอาความแค้นส่วนตัวมาทำเรื่องแบบนี้ มันโหดเหี้ยมเกินไป”

“เราอย่าพึ่งสรุปอะไรเลยครับ ขนาดหลักฐานเขายังทำลายทุกอย่างให้ตัวเองรอด คงมีอีกหลายเรื่องที่เราคิดไม่ถึงบางทีสิ่งที่เห็นอาจจะไม่สิ่งที่คิด อะไรก็เกิดขึ้นได้”

“เพราะแบบนี้ไงละคะ เราถึงต้องมีคนช่วยอีกแรง”

“ใครหรอครับ?”

“เดี๋ยวก็รู้ค่ะ…”

“ไงเจ๊…” สิ้นเสียงของกระถินล็อตเต้ก็เดินเข้ามาในห้องส่วนตัวของหมอจางพร้อมกับยกมือทักทาย หมอจางไล่สายตามองเด็กหนุ่มสลับกับมองหน้ากระถิน

“คนนี้หรอครับ”

“ประมาณนั้น ทำไมหรอครับ ผมเด็กแต่ผมก็มีสมองนะ” ล็อตเต้เลิกคิ้วถามแล้วทิ้งตัวนั่งลงเก้าอี้ตัวข้างกายกับกระถิน เขายกกระป๋องโค้กดื่มพลางหมุนเก้าอี้ไปมาอย่างนึกสนุก

“ค่ะ…ถึงจะกวนไปหน่อยแต่ช่วยได้เยอะเลยนะ พี่ชายของน้องมันเคยเป็นหนึ่งในเหยื่อของผู้ชายคนนั้น เราบังเอิญเจอกันที่ร้านเน็ตเมื่อวานค่ะ”

“ติดเกมด้วยหรอ?”

“ครับ เล่นเกมส์เบื่อแล้วเลยอยากหาอะไรตื่นเต้นทำสักหน่อย” ล็อตเต้เอ่ยตอบทำให้หมอจางยกมือขึ้นนวดคลึงขมับเบาๆลำพังรักษาผู้ป่วยจิตวันละไม่กี่เคสก็แทบจะไม่ได้พักสมอง มาเจอเด็กท่าทางกวนช่วงล่างเขายิ่งปวดหัวมากกว่าเดิม

“ฉันคิดถูกหรือคิดผิดที่ชวนนายมากันแน่?”

“ผมแค่ล้อเล่นเอง ลุงกับเจ๊ก็อย่าซีเรียสสิครับ ผมรู้ว่ามันเสี่ยงแค่ไหนถ้าพวกเราถูกจับได้ แต่มันก็คุ้มไม่ใช่หรอที่เราจะหยุดฆ่าตกรโรคจิตแบบไอ้นั้นได้”

“ลุง?” หลิวจางเอียงคอมองราวกับคนที่ฟังไม่ค่อยชัด

“ก็ลุงไงครับ ว่าแต่ลุงชื่ออะไร”

“นี้นายเต้ เรียกพี่ก็พอมั้ง หมอจางยังไม่ได้แก่ขนาดนั้น”

“ช่างเขาเถอะ” หลิวจางบอกปัดๆแล้ววางข้อมูลลงบนโต๊ะเหมือนเดิม ล็อตเต้จึงหยิบขึ้นมาแล้วเปิดอ่านจนมาหยุดที่คดีการตายซึ่งมีผู้ชายของเขาระบุเป็นฆ่าตกร…

“นี้คือพี่ชายผม” เด็กหนุ่มทิ้งเอกสารลง ทำให้สายตาสองคู่เพ่งมองไปที่รูปของเขา “พี่ผมเคยติดคุกมาก่อนเคยมีคดีแอบขโมยเงินและของมีค่า แต่เขาก็ไม่ใช่คนที่จะฆ่าใครด้วยการทรมานแบบนี้ รู้อะไรไหม เหยื่อของมันจะมีอยู่สองรูปแบบ คือเหยื่อที่มันใช้ทรมานบำเรอความสุขตัวเอง ส่วนเหยื่อแบบที่สองคือคนที่ต้องรับผิดแทนมันด้วยการถูกประหารชีวิตทั้งที่เขาไม่ได้ทำอะไรเลยด้วยซ้ำ”

“ดูจากรูปคดี คงจะถูกเครื่องทรมานทารุณหลายรูปแบบคนปกติคงไม่มีใครทำกัน…”

“นายคนนี้ช่วยเราได้จริงๆค่ะ หมอจางเชื่อหนูรึยัง”

“ครับ” ใบหน้าหล่อเหลาพยักหน้าตอบแล้วเอนตัวพิงกับผนักเก้าอี้ พอได้มารู้แบบนี้เขายิ่งอยากหาทางพิสูจน์ให้เร็วที่สุด อยากให้เขาได้มารับการรักษาจะได้ส่งตัวให้ทางกฎหมายจัดการต่อ หากมีหลักฐานเพียงพอ ก่อนที่ทุกอย่างมันจะสายไป…

“ตกลงเราร่วมมือกันแล้วใช่มั้ย?”

“ใช่ ถ้านายมีอะไรก็ติดต่อมา ถ้าโทรตามก็อย่าอู้”

“ตามนั้นเลยเจ๊…”

.

.

.

-กระถิน-

หลังจากที่เราสามคนคุยกันและนัดหมายสำหรับสถานที่คุยงานเสร็จ ต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันกลับ เพราะหมอจางต้องทำงานต่อคุยนานกว่านี้จะเป็นการรบกวนเวลาของเขา ฉันเลยกลับมาที่บ้านและนั่งอยู่ริมลำธารเพียงลำพัง…

“เฮ้อ…”

ครืด~ ครืด~

ในตอนที่ฉันกำลังถอนหายใจออกมาเป็นรอบที่ร้อยของวันเสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น พอหยิบขึ้นมาดูรายชื่อก็เป็นเบอร์แปลกที่ไม่เคยโทรเข้ามา…

ตี้ด…!

“สวัสดีค่ะ กระถินพูดสาย ไม่ทราบว่าติดต่อมาจากไหนหรอคะ?”

( ติดต่อมาจากห้าง GK… นะคะ ดิฉันคือผู้จัดการร้าน ที่คุณเคยมาติดต่อไว้ค่ะ )

“หนู…ลืมของไว้หรอคะ”

( เปล่าค่ะ…ตอนนี้ทางร้านขาดพนักงานเสิร์ฟสองคนกะทันหันเลยโทรมาถามจากเบอร์ที่ให้ไว้ว่ายังสนใจอยู่รึเปล่าคะ )

“สนใจค่ะ…สนใจ”

( ถ้าอย่างงั้นเริ่มมาทำงานได้พรุ่งนี้เลยนะคะ ตารางทำงานเดี๋ยวจะส่งเข้าไปทางไลน์ )

“ได้ค่ะ”

( แล้วเจอกันนะคะ )

“เข้าใจแล้วค่ะ…ขอบคุณนะคะ”

ตู้ด!…

ฉันกดตัดสายแล้วฉีกยิ้มออกมา ใช้เวลานั่งคิดอะไรอยู่เรื่อยเปื่อยจนอากาศเริ่มรู้สึกเย็นขึ้นมานิดหน่อยก็ลุกขึ้นจากโขดหินริมลำธารเดินเข้ามาในบ้านด้วยใบหน้าระรื่น…

“ยิ้มกับเขาเป็นด้วยหรอ” เสียงของใครบางคนสอดแทรกเข้ามาในโซนประสาททำให้เด็กสาวหยุดเดินกะทันหัน ใบหน้าหวานหันกลับไปมองยังต้นเสียงก็สบตาเข้ากับเพิร์ธที่กำลังยกกระป๋องเบียร์ในมือขึ้นดื่ม

“หนูนึกว่าคุณจะไม่กลับซะอีก”

“นี้มันบ้านฉัน ฉันจะเข้าจะออกตอนไหนก็ได้” เขาตอบส่งๆแล้วเดินมาหย่อนตัวนั่งลงบนโซฟา มือหนากดทีวีขึ้นดู หางตาเหลือบมองคนตัวเล็กที่ยังทำหน้าตาสงสัยอะไรบางอย่างอยู่

“หนูก็ยังไม่ว่าอะไรเลยนิคะ เห็นไปกับแฟนนึกว่าจะไปต่อด้วยกันทั้งคืน”

“แฟน?”

“ค่ะ” กระถินพยักหน้าตอบ เตรียมก้าวเท้าจะเดินหนี

“จะไปไหน”

“หนูจะขึ้นห้อง”

“มานี้…” ใบหน้าคมคายหันไปส่งสายตาข่มขู่ให้ กระถินจึงยอมเดินไปหยุดอยู่หน้าคนตัวโตอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก

หมับ!…

“อ๊ะ!?” ในวินาทีต่อมาเอวขอดก็ถูกคว้าหมับนั่งลงบนตัก ท่อนแขนกำยำกอดรัดหน้าท้องแบนราบเอาไว้แน่นแล้วโน้มหน้าเข้าไปชิดเธอก่อนจะเอ่ยถามออกไป

“เธอคิดว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นแฟนฉันหรอ?”

“เห็นสนิทสนมกันดีนิคะ”

“ผู้หญิงกับผู้ชายสนิทกันต้องเป็นแฟนกันเสมอไปงั้นสิ…”

“…” กระถินไม่ได้ตอบอะไร เธอคว้ากระป๋องเบียร์ที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมากระดกเข้าปากแก้เก้อ ไม่อยากให้ชายหนุ่มรู้ว่าเธอแอบน้อยใจที่โดนทำเหมือนอากาศ เด็กสาวก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องน้อยใจผู้ชายเจ้าชู้แถมโรคจิตแบบเขาด้วย…

“ยัยนั้นไม่ใช่แฟนฉันหรอก ฉันโสด…อยากมีเหมือนกัน”

“แค่กๆ” กระถินสำลักเบียร์ในทันใด เธอยกหลังมือขึ้นมาเช็ดคราบเลอะบนริมฝีปากออกแล้ววางมันไว้ที่เดิม สายตาหันไปมองเจ้าของใบหน้าหล่อที่มองเธอด้วยสายตาทอประกาย… “อยากมีก็หาสิคะ หาคนที่จริงใจด้วย…”

“ก็ยังไม่เจอ…เธอสนใจมาเป็นให้ฉันมั้ย”

“หนูไม่คุยกับคุณแล้ว” คนตัวเล็กดิ้นต่อต้านหวังจะให้ชายหนุ่มปล่อย กลับไม่เป็นผลเมื่อเพิร์ธออกแรงกอดรัดเรือนร่างอรชรเอาไว้แน่นกว่าเดิมอย่างนึกสนุก…

“แต่ฉันยังคุยกับเธอไม่เสร็จ”

“คุยอะไรอีกคะ…”

“เธอจะบอกได้รึยังว่าที่ยิ้มเพราะอะไร?”

“ก็…ร้านที่หนูไปสมัครงาน อยู่ๆเขาก็โทรมาบอกว่าพนักงานในร้านลาออกกะทันหัน เขาเลยเรียกหนูไปแทน”

“อ่อ…แบบนี้นี่เอง” ชายหนุ่มพยักหน้าตอบพร้อมกับรอยยิ้มที่ผุดขึ้นบนใบหน้า กระถินที่ตอบคำถามเสร็จจึงหันมามองเขาด้วยสายตาไม่ค่อยพอใจ ที่เอาแต่กอดเธอไว้แบบนี้จนไม่ได้ไปไหนสักที…

“คุณรู้แล้ว จะปล่อยหนูได้รึยังคะ”

“ยัง แล้วถ้าสมมุติว่ามีซีอีโอของที่นั้นเป็นคนสั่งล่ะ เธอคิดว่าเขาเป็นคนยังไง?”

“เขาก็คงจะเป็นคนที่ให้โอกาสเด็ก ใจดี แล้วก็คงจะน่ารักมากๆด้วย…” กระถินเอ่ยตอบพร้อมกับวาดฝันไปด้วย แต่มันจะเป็นไปได้ยังไงกัน ซีอีโอของบริษัทจะเป็นคนสั่งได้ยังไง?

“แล้วถ้าเขาขอคบเธอ อยากลองคบดูมั้ย”

“เขาจะมาขอคบหนูทำไมคะ เราต่างกันขนาดนั้นหนูปล่อยให้เขาเจอคนที่คู่ควรกว่าหนูดีกว่า…”

“ทำไม…ความรักมันจำเป็นต้องแยกชนชั้นด้วยหรอ?”

“เปล่าหรอกค่ะ เพราะหนูไม่ได้รักซีอีโอคนนั้นไงคะ” คำตอบของเด็กสาว ทำเอาใบหน้าเขาเจื่อนลงอย่างเห็นได้ชัด ชายหนุ่มเหยียดยิ้มสมเพชตัวเองที่ถามอะไรออกไปโง่ๆถึงแม้เธอจะรู้หรือไม่รู้ต้วตนของเขา คำถามนี้ก็ไม่ควรถามกับผู้หญิงที่ชื่อกระถินไม่ใช่หรอ เผลอไปชอบร่างกายได้ แต่เรื่องหัวใจนี้สิมันจะห้ามยังไง…

“แล้วเธอชอบผู้ชายแบบไหน…”

“หนูเกลียดผู้ชายเจ้าชู้ บ้ากาม โรคจิต ใจร้าย โหดเหี้ยม นิสัยไม่ดี ถ้ามีหนึ่งในนี้หนูไม่ชอบ รู้แค่นี้ก็พอค่ะ”

“ใช่สิ…ใครมันจะไปดีเหมือนไอ้เหี้ยนั้นล่ะ”

.

.

.

Next....

“คืนนี้…อยู่กับฉันนะ”

“หนู…”

“เธอทำตามที่ฉันขอร้องสักข้อไม่ได้หรอกระถิน?”

ชายหนุ่มยื่นใบหน้าเข้าไปซุกที่ซอกคอหอมกรุ่น ทำเอาลมหายใจอุ่นร้อนเป่ารดผิวกายละเอียดอ่อน สร้างความกระสันให้ร่างกายจนเด็กสาวต้องหดคอหนีเล็กน้อย…

“ฉันแค่อยากกอดใครสักคน…”

“เสียใจด้วยค่ะ…คนๆนั้นคงไม่ใช่หนู หนูให้ผู้ชายที่ทำร้ายครอบครัวหนูกอดไม่ได้หรอก กอดของหนูมีไว้ให้แค่คนรักเท่านั้นค่ะ…”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel