ตอนที่ 3 เสียตัวแล้ว?
ร่างสง่างามของตี้จิ่งเหยียนหายเข้าไปในลิฟท์โดยสารพิเศษเฉพาะท่ามกลางสายตาของผู้ใต้บังคับบัญชา
ทุกคนต่างคิดไปในทางเดียวกันว่า ในที่สุดเจ้านายของพวกเขาก็ค้นพบโลกอีกใบแล้ว
ที่ชั้นบนสุด ทันทีที่ประตูห้องของเขาเปิดออกตี้จิ่งเหยียนก็วางอวิ๋นเหยาเหยาลงและจูบที่ริมฝีปากของเธออีกครั้งอย่างเร่าร้อนฝ่ามือใหญ่เคลื่อนเข้าไปในเสื้อผ้าของเธอ
เขาจูบเธอจนเธอรู้สึกไร้เรียวแรง ร่างทั้งร่างเปล่าเปลือยในพริบตามือหนากอบกุมอกสีชมพูเต่งตึงของเธอแล้วบีบเคล้นจากนั้นริมฝีปากบางก็เคลื่อนลงมาดูดกลืนอย่างหิวกระหาย
คืนนี้ห้องชุดชั้นบนสุดโรงแรมเอ็มของท่านประธาน มีเพียงเสียงหอบของผู้ชายและเสียงที่มีเสน่ห์ของผู้หญิงปะปนกันและในที่สุดมันก็หายไปในตอนเช้าตรู่
วันรุ่งขึ้นอวิ๋นเหยาเหยาถูกปลุกด้วยเสียงของโทรศัพท์มือถือที่ดังขึ้นในห้องที่เงียบสงบ ดับฝันอันแสนหวาน
อวิ๋นเหยาๆขมวดคิ้วและเอื้อมมือไปหาด้วยความงุนงงจากหัวเตียง คลำอยู่ตั้งนานก็ยังหาไม่เจอ มือไปกระทบเข้ากับนาฬิกาเรือนหนึ่ง
นาฬิกาข้อมือ
นาฬิกาของเธอไม่ได้ใหญ่ขนาดนี้นะและเป็นเซรามิกด้วยแต่นี้มันเป็นโลหะชัดๆ
หรือว่าจะเป็นของเธอ
อวิ๋นเหยาเหยาลุกขึ้นจากเตียงด้วยความเจ็บปวด ผ้าไหมบนร่างกายของเธอไหลลงและหน้าอกของเธอเย็นวาบขึ้นอวิ๋นเหยาเหยาก้มมองลงไปเมื่อเห็นสภาพของตัวเองเธอก็ต้องตกใจ
ตายแล้ว! เธอไม่เพียงแต่ไม่สวมเสื้อผ้าเท่านั้น แต่ร่างกายเธอก็เต็มไปด้วยรอยจูบ ไม่ต้องคิดก็รู้ว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง
อรุณสวัสดิ์เสียงทุ้มดังแผ่วเบา
ชายคนนั้นถือกาแฟและยืนอยู่ที่ด้านหน้าของหน้าต่างทักทายเธอ นอกหน้าต่างแสงยามเช้าสีทองกระทบด้านหลังเขาใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาปรากฏขึ้นท่ามกลางแสงและเงาทำให้เขาดูหล่อเหลาเอาการ
ผู้ชายคนนี้รสนิยมดีจริงๆ
แต่งตัวเรียบง่ายเมื่อเทียบกับสภาพที่ยุ่งเหยิงของเธอ ท่าทางเขาดูเหมือนนักธุรกิจหนุ่มหล่อ
อวิ๋นเหยาเหยามองไปที่เขาอย่างว่างเปล่าและกินเวลานานในการเรียกสติกลับมา เมื่อคืนเหมือนบางภาพฉายเข้ามาในความคิดของเธอซ้ำไปๆ มาๆ
นี่มัน…..ผู้ชายคนนี้ ไม่ใช่คนที่รั่วซูพูดถึงว่าเป็นตัวท๊อปเมื่อคืนหรอ ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อคืนเธอเมาแล้วไปนอนกับเขาแล้วหรอ?
แต่เดี๋ยวนี้เด็กนั่งดริ้งงานดีขนาดนี้เลยหรอ ถ้าไม่รู้มาก่อน เธอก็คงคิดว่าเขาเป็นนักธุรกิจชั้นแนวหน้าที่ประสบความสำเร็จเลยล่ะ
" คือฉันเมื่อคืนเมาน่ะ " อวิ๋นเหยาเหยาใช้เวลานานกว่าจะหาเสียงตัวเองเจอ เหลือบมองไปที่ชายคนนั้นและพบกับดวงตาที่ยิ้มแย้มของเขาเธอหันหน้าหนีด้วยแก้มที่ร้อนผ่าวหลังจากมองอยู่นานเธอก็พบกระเป๋าสตางค์ของเธอและพูดว่า "เอ่อ คุณ..คืนละเท่าไหร่? "
"ผมให้ฟรี" ตี้จิ่งเหยียนจิบกาแฟแล้วมองไปที่เธอ "เมื่อคืนพวกเราตกลงกันแล้วว่าฟรี"
ฟรีหรอ? อวิ๋นเหยาเหยาพยายามอย่างมากที่จะนึกสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน แต่ในที่สุดเธอก็จำได้แต่จูบที่เร่าร้อนระหว่างเธอกับผู้ชายคนนั้น
"โอเคไหม?"
แม้ว่าเธอจะไม่มีประสบการณ์ในด้านนี้ แต่ทักษะการจูบของผู้ชายคนนี้ก็ยอดเยี่ยมมาก
เดี๋ยวก่อนสิ กี่โมงแล้วเนี่ย มัวแต่คิดอะไรอยู่?อวิ๋นเหยาเหยาแทบอยากจะตบหน้าผากตัวเองซักสองที
"ธุรกิจก็คือธุรกิจ ไหนๆ นายก็ทำงานแบบนี้แล้ว ฉันจะจ่ายไม่ให้ขาดซักสตางค์เดียว "
เธอหยิบเงินจำนวนหนึ่งออกมาจากกระเป๋าเงินของเธอและมองไปที่เขา “เท่านี้พอไหม”
ตี้จิ่งเหยียนเลิกคิ้วด้วยรอยยิ้ม
"ไม่พอหรอ ขอโทษที ฉันไม่ค่อยเข้าใจในวงการนี้ซักเท่าไหร่ " อวิ๋นเหยาเหยาหยิบเงินในกระเป๋าสตางค์ออกมาและวางไว้ข้างเตียง "ฉันมีเท่านี้แหละ"
พูดจบปิดกระเป๋าสตางค์และโยนลงในกระเป๋า เธอนึกอะไรบางอย่างออกร่างที่ห่อด้วยผ้าห่มก็เดินไปที่ฟ่อนเงินนั้นแล้วหยิบแบงค์ออกมาใบนึง “ขอเหลือไว้ใบนึงไว้เป็นค่ารถนะ นายคงไม่ว่าใช่ไหม”
ชายคนนั้นสอดมือข้างหนึ่งไว้ในกระเป๋ากางเกงพร้อมกล่าวว่า "อื้อ ตามสบาย"
ช่างเป็นคนพูดง่ายจริงๆ
อวิ๋นเหยาเหยาคิดพลางมองหาเสื้อผ้าไปพลาง มุมปากเหยเกตอนที่หยิบกระดุมเสื้อหลายเม็ดที่หลุดออกมาจากใต้เตียง
“คุณ เอ่อ….ป่าเถื่อนเกินไปหน่อยนะ แบบนี้ฉันร้องเรียนคุณได้นะ "
"แน่ใจเหรอว่าคนที่ป่าเถื่อนคือผม"ชายคนนั้นวางกาแฟลงและเดินมาหาเธอ นิ้วยาวค่อยๆ เปิดกระดุมเม็ดที่สามและสี่ของเสื้อออก
ผู้ชายคนนี้อย่างที่รั่วซูพูดไม่ผิด หล่อจริงๆ เป็นเด็กดริ้งอะไรหล่อบาดใจขนาดนี้
“คุณดูความป่าเถื่อนของคุณให้ดี” เขาเข้าไปใกล้เอนตัวจับมือเธอแล้วล้วงเข้าไปในเสื้อเชิ้ตที่ปลดกระดุมสี่เม็ดของเขา
อวิ๋นเหยาเหยาสะดุ้งรู้สึกว่าฝ่ามือของเธอร้อนผ่าวเธอจึงดึงมือออก "ดูเฉยๆ ไม่ต้องแตะก็ได้"
แต่ผู้ชายคนนี้กล้ามเป็นมัดๆ ดีจะตาย
เขาเลิกคิ้วพร้อมรอยยิ้ม "เมื่อคืนคุณคลำไปทั่วแล้วนิ"
อวิ๋นเหยาเหยารู้สึกอายมากจนอยากจะเอาดินกลบหน้า
เมื่อเห็นรอยจูบสีม่วงบนหน้าอกของเขาและรอยกัดที่คอของเขาเธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเป็นฝีมือของตัวเอง ดวงตาโตกระพริบตาเอ่ยถามอย่างแผ่วเบา "ฉันทำหรอ?"
เขาพยักหน้า “คุณมีรสนิยมแบบนี้หรอ?”
เธอมีที่ไหนกันเล่าอวิ๋นเหยาเหยายิ้มแห้ง ๆ "ฉันขอโทษฉันเมาน่ะ บางทีอาจจะคออ่อน"
เขาขำ ไม่ใช่อาจจะคออ่อน แต่โคตรคออ่อนเลยแหละ เมื่อคืนเขาไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากถูกเธอแมวป่าตัวน้อยกัดทั้งคืน
อวิ๋นเหยาเหยาขบเม้มริมฝีปาก "แล้วฉันจะใส่อะไรกลับล่ะทีนี้?" หญิงสาวนั่งกัดริมฝีปากล่างอย่างใช้ความคิด
ติ๊ง ต่อง..อวิ๋นเหยาเหยาตื่นจากภวังค์หันไปมองชายหนุ่ม เขาเดินไปเปิดประตูเห็นแค่ถุงใส่ผ้าเขายื่นมัให้เธอ
เธอรับมาเป็นดูก็เห็นเดรสสีฟ้าคอลเลคชั่นล่าสุดของแบรนด์ดังคู่แข่งของเธอ เวลานี้ไม่ใช่เวลาจะมาหยิ่งยโส ในเมื่อชามาในตอนนี้ก็ถูกตระกูลโจวฮุบไปแล้ว
หลังจากที่เธอหอบเข้าห้องน้ำไม่นานร่างสูงเพรียวในชุดเดรสสั้นเสมอเข่าเข้ารูปก็ออกมา เธอขบเม้มริมฝีปากอย่างเก้อเขิน "ชุดนี้เดี๋ยวฉันจ่ายให้คุณ.."
"ไม่ต้องหรอก ผมแถมให้เนื่องจากความพึงพอใจส่วนตัว!"
อวิ๋นเหยาเหยาแก้มแดง "ถ้างั้นก็แล้วแต่คุณแล้วกันฉันไปล่ะ!" เธอไม่อยากจะสนทนากับผู้ชายคนนี้อีกแล้ว เธอเก็บของเสร็จในที่สุดอวิ๋นเหยาเหยาก็หนีออกมาจากเขาได้
โทรศัพท์ยังคงดังอยู่ตลอดเธอกดรับ
“เหยาเหยาเมื่อคืนขอโทษนะ พี่ชายลากฉันกลับ " รั่วซูเป็นคนโทรมา
"ซูซูเธอเป็นเพื่อนที่ดีจริงจริง" อวิ๋นเหยาเหยากัดฟัน
เป็นอะไรไป โกรธเป็นฟืนเป็นไฟแต่เช้า อวิ๋นเหยาเหยากำกระโปรงของเธอ "เมื่อคืนฉันเสียตัว เธอว่าฉันจะไม่โกรธได้ไง"
เสียตัวก็เสียตัวนะ แต่เธอกลับไม่ได้รู้สึกเจ็บด้านล่าง หรือว่าเพราะเมื่อคืนผู้ชายคนนั้นทำแบบนิ่มนวล
แต่เขาไม่เหมือนคนอ่อนโยน อ่อนโยนแบบไหนกัน ที่สามารถฉีกเสื้อผ้าเธอได้
จางรั่วซูร้องเสียหลง “เธอ…..เสียตัวให้โจวซั่วเลวนั่นหรอ ฉันบอกแล้วไม่ใช่เหรอเหยาเหยาที่รักของฉัน เธอเสียความบริสุทธิ์ให้กับเด็กดริ้งที่ร้านนั้นดีกว่าเสียตัวให้โจวซั่วนะ
“ไม่ใช่โจวซั่ว” เมื่อเทียบกับเสียงกรีดร้องของจางรั่วซูแล้วเหยาเหยาเงียบมาโดยตลอด ในความเงียบมันยากที่จะซ่อนความเหงาไว้เล็กน้อย
เธอกับโจวซั่วคบหากันมาสามปี เขาไม่เคยแม้แต่จะหอมแก้มเธอ จับมือโอบเอวเป็นบางครั้งเท่านั้น เธอจึงอดรู้สึกไม่ได้ว่าที่ผ่านมาเขาไม่เคยรักเธอจริงๆเลยสักนิดเขายังคงรอคอยสวีหวานโหรวมาโดยตลอด
จนในที่สุดในวันที่แบรนด์ชามาของเธอมีชื่อเสียงและเป็นที่ชื่นชอบของเหล่าดาราคนดังชนชั้นสูงเขาก็พาคนรักของเขากลับมาบอกว่าแบรนด์ชามาของเธอเป็นสมบัติของตรกูลโจว
เพื่อบีบให้เธอสุดทางตันแต่ไม่เป็นไร. เธอไม่คิดว่านี่จะเป็นการเริ่มต้นที่แย่นัก บางทีมันอาจจะเป็นจุดจบที่ดีก็เป็นได้ เธออายุ 26 เองไม่ใช่เหรอคิดได้ดังนั้นอวิ๋นเหยาเหยาก็เงยหน้าขึ้นอย่างทะนงตัวและกดความเจ็บปวดลง
จางรั่วซูร้องอุทานอีกครั้ง "ไม่ใช่โจวซั่วแล้วคนนั้นเป็นใคร? เธอรักกันแล้วหรอ ทำไมฉันไม่ได้ยินเธอพูดถึงเลย "
"ไม่รู้จัก."
“ไม่รู้จักหรอ งั้นเธอไปหามาจากไหน "
"ฉันซื้อมา"
“ซื้อมางั้นหรอ” มุมปากของจางรั่วซูเลิกขึ้น พี่เหยาเธอเปิดเผยแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ "เธอซื้อจากที่ไหน "
"คลับพี่ชายเธอไง."
"คลับพี่ชายของฉัน พี่สาว…..คนที่เธอซื้อเมื่อวานไม่ใช่คนที่ฉันพูดกับเธอว่าสุดหล่อตัวท๊อปใช่ไหม "
"ยินดีด้วย ตอบถูกแล้ว"
โอ้! พระเจ้า! " จางรั่วซูล้มลงบนเตียง