รักเร่าร้อนของประธานตี้

85.0K · ยังไม่จบ
weiwei
37
บท
7.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เพราะเมาถึงได้นอนกับผู้ชายลึกลับคนหนึ่งอย่างไม่ได้ตั้งใจเธอคิดว่าเขาเป็นผู้ชายโฮส พบกันอีกครั้งเธอถึงได้พบว่าผู้ชายคนนี้ ไม่ใช่คนธรรมดา

ประธานโรแมนติกดีไซเนอร์รักหวานๆผู้ชายอบอุ่นแต่งงานสายฟ้าแลบนิยายรักโรแมนติกฟินๆเศรษฐี18+

ตอนที่ 1 โสดไปด้วยกัน

เมืองลั่วเฉิงเป็นเมืองหลวงที่มีความเจริญรุ่งเรืองเป็นอันดับต้นๆของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นจุดศูนย์กลางของธุรกิจ การบันเทิง การโรงแรม ส่งออกนำเข้าผู้คนล้วนนึกถึงเมืองนี้เป็นเมืองแรก

ในค่ำคืนที่ภายในเมืองต่างวุ่นวายไปด้วยการสัญจร ผู้คน จราจรที่ติดขัด ที่มุมหนึ่งของเมืองหลวงภายในรถ BMW เต็มไปด้วยความเงียบสงบ

อวิ๋นเหยาเหยานั่งอยู่ตรงหน้าพวงมาลัยรถด้วยความหมดอาลัยตายอยาก วันนี้ช่างเป็นวันที่หนักหนาสาหัสจริงๆสำหรับเธอ

ครืด! ครืด! ทันใดนั้นหน้าจอโทรศัพท์ก็สว่างวาบขึ้น เป็นสายจากรั่วซูเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวในเมืองนี้ของเธอโทรเข้ามา "เหยาเหยาเธออยู่ไหนมาหาฉันที่คลับพี่ชายฉันหน่อย"

คลับพี่ชายของรั่วซูเป็นคลับหรูชื่อดังของเมืองหลวง โดยมีพี่ชายของรั่วซูอยู่เบื้องหลัง

เหยาเหยายืดตัวขึ้นเคาะพวงมาลัยรถด้วยนิ้วที่สวยงามพลางเอ่ยถาม "ไปทำอะไรอีกล่ะ?"

“มาแล้วก็จะรู้เองน่าเร็วๆสิฉันกำลังรออยู่ที่นี่ " คิ้วเรียวสวยของเหยาเหยาขมวด รั่วซูทำให้เธออยากรู้เพิ่มขึ้น

หลังจากนั้นไม่นานเธอก็รับคำในลำคออย่างขี้เกียจและวางสายโทรศัพท์

เหยาเหยาขับเคลื่อนรถบีเอ็มดับเบิ้ลยูสีขาวขับตามถนนที่ค่อนข้างโล่ง และยี่สิบนาทีต่อมาเธอก็ค่อยๆชลอรถในช่อง

ร่างสูงในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวกระโปรงรัดรูปสั้นเลยเข่า ก้าวขาลง ทั้นทีที่เธอก้าวขาลงจากรถก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น

“เหยาเหยาทางนี้เร็วเข้า” รั่วซูโบกมือให้เธอจากระยะไกล

เหยาเหยาเดินตามเข้าไปทั้งคู่นั่งลงบนโซฟาหรูมุมหนึ่งบนชั้นสอง เหยาเหยาวางกระเป๋าไว้ข้างๆ แล้วรินไวน์ให้ตัวเอง หลังจากจิบหนึ่งคำหนึ่งแล้วก็พูดว่า "ว่าไง?"

"เธอดูนั่นสุดยอดจริงๆนะ! หล่อขั้นสุดจริงๆ นะ! " รั่วซูพูดพลางชี้นิ้วไปที่บาร์ที่อยู่ไม่ไกลใบหน้าเล็กๆ ของเธอเปล่งออร่าด้วยความตื่นเต้น "ดูตรงนั้นสิ! หล่อจนหุบขาไม่ลง! "

ที่แท้ก็แค่ผู้ชาย!

จางรั่วซูเป็นพวกบ้าผู้ชาย เธอรู้ตั้งนานแล้ว แต่เพื่อไม่เป็นการขัดใจเธอจึงหันหน้าร่วมด้วยซักหน่อย

เหยาเหยายอมรับว่าตัวเองได้เห็นหนุ่มหล่อมามากมาย รวมถึงโจวซั่วก็ใช้ของความหล่อของตัวเองหลอกให้เธอตายใจ อย่างไรก็ตามความหล่อเหลาของโจวซั่วถ้าเทียบกับผู้ชายคนนี้ก็คงจะเสียศูนย์ไปบ้าง

แสงไฟแสดงให้เห็นใบหน้าที่ไร้ที่ติของชายคนนั้นเขารูปร่างสูงโปร่งนั่งดื่มด่ำหลงใหลกับแก้วไวน์และรอบกายของเขาเต็มไปด้วยกลิ่นอายที่ไม่สามารถอธิบายได้

เหมือนกับรู้ถึงการจ้องมองของเธอชายคนนั้นก็เงยหน้าขึ้น อวิ๋นเหยาเหยาถึงกับผงะก่อนที่จะละสายตาและชนเข้ากับเขา

นัยน์ตาที่ลึกลับของเขาใครก็ไม่อาจหยั่งรู้ได้ มันเหมือนวังวนที่ทำให้มึนเมาซึ่งทำให้เข้าหาได้อย่างง่ายดาย

อวิ๋นเหยาเหยาหัวใจเต้นราวกับว่าเธอถูกจับได้ว่าแอบทำเรื่องไม่ดี หน้าของเธอร้อนผ่าว

“เหยาเหยาเขากำลังมองเธอหน่ะ” จางรั่วซูเขย่าแขนของเธอ

ดูออกหมดแล้วเหยาเหยาแกล้งทำเป็นมองไปรอบ ๆ หลบสายตาที่จ้องมองจิบไวน์อีกครั้งและลูบไล้ลำคอที่ร้อนระอุ

“ครั้งนี้ฉันไม่ได้พูดเวอร์ใช่ไหมล่ะ หล่อมากเลยใช่ไหม? "

“……ก็พอถูๆ ไถๆ แหละ"

“ปากแข็ง! หน้าตาดีกว่าโจวซั่วของเธอมั้ง "

พอพูดถึงผู้ชายคนนั้นอวิ๋นเหยาเหยาก็รู้สึกโมโหเธอยกแก้วไวน์ขึ้นดื่มสามแก้วติดก่อนจะพูดขึ้นว่า

"ฉันเลิกกับโจวซั่วแล้ว!"

"อะไรนะ?" จางรั่วซูเหมือนกับได้ยินข่าวดีในรอบสามปี เธอเบิกตากว้างแล้วเอ่ยถามอีกครั้ง

"เหยาเหยา นี่เธอพูดจริงเหรอ เธอเลิกกับโจวซั่วนั่นแล้วจริงๆเหรอ?"

อวิ๋นเหยาเหยาวางแก้วไวน์ลง "อืม..พรุ่งนี้ฉันจะไปลาออกจากงานด้วย" 

"ห๊ะ? ได้ยังไงแล้วแบรนด์ชามาของเธอล่ะ นั่นน้ำพักน้ำแรงของเธอนะ?"

วันนี้เมื่อเข้าประตูบริษัทเหยาเหยาได้ยินพนักงานชายกลุ่มหนึ่งพึมพำ

“ผมเพิ่งได้พบกับรองผู้อำนวยการแผนกออกแบบแบรนด์ชามาที่มาใหม่ข้างล่าง เป็นผู้หญิง"

"ฉันได้ยินว่าเป็นสาวสวยยังไม่ได้แต่งงานด้วย จริงหรือเปล่า"

"ใช่ สวยมากจริงๆ รูปร่างหน้าตานั้น"

"ท่านประธานนี้ให้สวัสดิการแก่หนุ่มโสดอย่างพวกเราด้วยล่ะ"

"คุณคิดมากเกินไปแล้ว ฉันได้ยินมาว่ารองผู้อำนวยการคนใหม่นี้ได้รับการการันตีจากประธานโจวและคุณท่านโจวแล้ว นางฟ้ามาโปรดชัดๆ คุณรู้ไหมว่ามันหมายถึงอะไร? "

แสดงว่า….คนนี้อาจเป็นแฟนตัวจริงของประธานโจวหรือเปล่า"

แฟนตัวจริง แล้วทุกวันนี้ทุกคนคิดว่าฉันเป็นอะไร?

เธอและโจวซั่วรู้จักกันตอนที่เธอมาเมืองลั่วเฉิงตอนนั้นเธอเข้าไปเสนอการออกแบบชุดแฟชั่น และหลังจากนั้นเขาก็ขอคบเธอเป็นแฟน

จากนั้นหนึ่งปีเธอขอเปิดสตูดิโอแบรนด์ชามาภายใต้เครือโจวกรุ๊ป สองปีมานี้แบรนด์ของเธอโด่งดังเป็นอย่างมาก เป็นที่รู้จักของวงการบันเทิงคบกันมาสามปีแล้วและเขาไม่เคยพาผู้หญิงคนไหนมาบริษัทอย่างเป็นทางการแบบนี้ ผู้หญิงคนนี้คือใคร?

หลังจากที่เหยาเหยาเดินไปที่ห้องทำงานของเขาไม่เคาะประตูแต่เธอผลักประตูเข้าไปทีเดียวภาพที่ ปรากฏต่อหน้าเธอคือโจวซั่วกำลังพูดคุยกับรองผู้อำนวยการคนนั้นอย่างสนิทสนมในมือของรองผู้อำนวยการยัง ถือเอกสารไว้ในมือท่าทางของพวกเขาสนิทสนมและใกล้ชิดจนทำให้คนสงสัยไม่รู้ว่าพวกเขากำลังคุยเรื่อง งานหรือเรื่องส่วนตัวกันแน่

ทั้งโจวซั่วและรองผู้อำนวยการคนใหม่ดูตกใจมากที่เห็นเหยาเหยาผลักประตูเข้ามาอย่างกระทันหันพวกเขาสองคนเงยหน้าขึ้นมามองอวิ๋นเหยาเหยาอย่างตกอกตกใจ

"ฉันได้ยินว่าบริษัทเรามีรองผู้อำนวยการคนใหม่เข้ามา ทำงานกับเราฉันจึงตั้งใจมาดู"  อวิ๋นเหยาเหยาจ้องหน้าพวกเขาอย่างไม่เกรงใจ

โจวซั่วได้สติเขาลุกขึ้นมาพูดกับเหยาเหยาว่า "เหยาเหยาฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเธอจะเป็นคนไร้มารยาทเช่นนี้" ถึงแม้จะพูดด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มแต่คำพูดนี้ก็ ซ่อนคำประชดประชันอย่างเห็นได้ชัด

อวิ๋นเหยาเหยาเดินเข้าไปลากเก้าอี้มานั่งต่อหน้าพวกเขาทั้งสองคน เธอจ้องหน้าโจวซั่วแล้วพูดว่า "ใช่หรืองั้นถือว่า ฉันผิดเองหรือถือว่าเธอตาถั่วเองคบกันมาตั้งสามปี เธอยังไม่รู้จักฉันว่าฉันเป็นคนอย่างไร?"

โจวซั่วจนคำพูด เขาไม่กล้าสู้สายตาของอวิ๋นเหยาเหยาต่อไป

รองผู้จัดการคนใหม่เหมือนจะรู้ว่าเขาสองคนกำลังจะปล่อยระเบิดใส่กันเธอรีบลุกขึ้นมาจากที่นั่งและเข้าไปยื่นมือทักทายกับอวิ๋นเหยาเหยาว่า

"ไม่เจอกันนานเลยนะคะ" 

อวิ๋นเหยาเหยาจ้องมองเธอจากนั้นก็ก้มหน้าลงสวีหว่านโหรว

อวิ๋นเหยาเหยาขมวดคิ้วไม่จับมือกับเธอเหยาเหยายกยิ้มเย้ยหยันและพูดกับเธอว่า "ความจำฉันไม่ดีเองหรือคุณรองผู้จัดการเข้าใจผิดฉันไม่รู้จริงๆว่าคุณรองผู้จัดการกับฉันเราไปรู้จักกันตั้งแต่เมื่อไหร่?"

คำพูดของเหยาเหยาทำให้สวีหว่านโหรวนิ่งค้างไปเธอหันไปมองดูอวิ๋นเหยาเหยาด้วยความกระอักกระอ่วนไม่รู้จะพูดอย่างไร

โจวซั่วที่ยืนอยู่ข้างๆ ทนดูไม่ได้ จึงหันไปพูดกับอวิ๋นเหยาเหยาว่า "เหยาเหยา หว่านโหรวแค่อยากจะนับถือคุณแต่คุณทำแบบนี้มันเกินไปแล้ว!"

อวิ๋นเหยาเหยาหัวเราะในลำคอ มองไปทางโจวซัาวแล้วพูดขึ้น "ฉันทำเกินไปงั้นหรอ?แบรนด์ชามาเป็นน้ำพักน้ำแรงของฉัน อะไรคืออยากจะแต่งตั้งใครก็ได้เข้ามามีส่วนร่วมในของของฉันโดยไม่ปรึกษาหารือฉันก่อน!"

คำพูดและน้ำเสียงนั้นดู ไม่พอใจเป็นอย่างมาก เหยาเหยาแค่นเสียงขึ้นอีกว่า "หรือเพราะคุณลืมเธอไม่ลง? ให้คนรักเก่าเข้ามามีส่วนร่วมในของของฉันคืออะไร?"

โจวซั่วขมวดคิ้ว "อวิ๋นเหยาเหยาคุณอย่า——"

"โจวซั่ว.." สวีหวานโหรวจับมือของเขาเอาไว้ เธอส่ายหน้าไปมา จากนั้นก็หันไปมองอวิ๋นเหยาเหยา หัวเราะแล้วพูดขึ้น "ไม่ใช่ความผิดของโจวซั่วฉันเพียงอยากมีส่วนร่วมกับแบรนด์ที่อยู่ภายใต้เครือตระกูลโจว ฉันผิดเองที่ไม่ทันคิด"

โจวซั่วดึงสวีหวานโหรวไปด้านข้าง เขาหันมามองอวิ๋นเหยาเหยา "ใช่หว่านโหรวเป็นรักแรกของฉัน ตอนนี้เธอเพียงต้องการหาประสบการณ์ในการออกแบบแฟชั่น ฉันเห็นว่าชามาไม่เลวก็เลยชวนเธอมา

อวิ๋นเหยาเหยาแบรนด์ชามาก็เป็นของผมครึ่งหนึ่ง เป็นแบรนด์ที่อยู่ภายใต้เครือตระกูลโจว ผมมีสิทธิ์ผูกขาดที่จะทำอะไรกับมันก็ได้!"

อวิ๋นเหยาเหยายิ้มเยาะ "คุณจงใจทำอย่างนี้เพื่อต้องการยกสตูดิโอของฉันให้เธอเหรอ?"

"ไม่ใช่ ผมเพียงจะบอกว่า ชามาผมและตระกูลโจวมีสิทธิ์ผูกขาด หากจะพูดให้ถูกที่คุณได้ส่วนแบ่งในแต่ละเดือนก็มากพอแล้ว ชามาจะเป็นของคุณนั้นเป็นไปไม่ได้"

ในที่สุดอวิ๋นเหยาเหยาก็เข้าใจ ที่ผ่านมาเขาทำทุกอย่างร่วมกับเธอก็เพราะหวังว่าวันหนึ่งจะเป็นเช่นนี้ อวิ๋นเหยาเหยาปรายตามองเธอไม่ได้รู้สึกเสียใจแม้แต่น้อยกับท่าทางนั้นของเขา

ลุกขึ้นยืนแล้วหันไปมองเขา"โจวซั่ว ที่ผ่านมาคุณก็แค่เพียงหลอกใช้ฉันสินะ พอวันนี้ชามาโด่งดังคุณก็พาคนของคุณเข้ามา และสุดท้ายพวกคุณก็คงจะฮุบน้ำพักน้ำแรงของฉันไปสินะ

โจวซั่วถ้าคุณอยากให้ฉันไป คุณสามารถพูดตรงๆ กับฉัน ฉันไม่มีวันหน้าด้านอยู่ที่นี่ต่อ คุณไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้กับฉัน ฉันอวิ๋นเหยาเหยาไม่ใช่คนที่ยึดติดกับสิ่งของ อีกห้านาทีต่อจากนี้ฉันจะยื่นใบลาออกให้คุณ" พูดจบเธอก็เดินออกไปจากห้องทำงานในทันที

และก็มีอารมณ์ที่ดิ่งสุดจนเมื่อรั่วซูโทรหาเธอนั่นเอง เล่าเรื่องราวคร่าวๆจบก็พบว่าไวน์หมดขวดไปแล้ว 

"ไอ้เลวโจวซั่วนั่นฉันก็บอกตั้งแต่แรกแล้วว่าเป็นพวกเห็นแก่ตัว แต่ก็ดีเธอโสดเป็นเพื่อนของฉันแล้วนะ " 

...