ไม่เอาผัว
@ปัจจุบัน
#บนโต๊ะอาหาร
“ไม่แต่ง!! ยังไงน้ำก็ไม่แต่งงานเด็ดขาด”เวรเถอะ วันนี้เป็นวันซวยอะไรของฉัน ตื่นแหกตาขึ้นมาก็ถูกยัดเยียดให้มีผัวเฉย เคยเจอกันไหมก็ไม่เคยเจอ หน้าตาเป็นยังไงฉันเองก็ไม่เคยเห็น นิสัยใจคอเป็นยังไงฉันก็ไม่รู้
แล้วอยู่ๆจะให้ฉันไปแต่งงานกับคนที่ไม่เคยเห็นหน้าไม่เคยรู้จักกันมาก่อนแบบนี้เนี่ยนะ จะไม่ให้ฉันโวยวายได้งั้น
“แต่แกต้องแต่ง แกอย่าลืมสิ!แกเป็นคนบอกฉันเองว่าเรียนจบจากนอก แล้วจะยอมแต่งงานตามที่ฉันขอ แกจำไม่ได้แล้วหรือไงยัยน้ำ! ฉันอุตส่าห์ยอมให้แกไปเรียนต่อเมืองนอกตั้งสองปี เพราะฉะนั้นแกต้องแต่งงานตามที่สัญญากับฉัันไว้ แล้วที่สำคัญ ฉันกับม๊าของแกได้ตกลงกับผู้ใหญ่ฝั่งนั้นไว้แล้ว แกอย่าทำให้ฉันต้องเสียหน้านะยัยน้ำ "
“ถ้าป๊าอยากแต่ง ก็แต่งเองเลยสิ จะมาบังคับน้ำทำไม ยังไงน้ำก็ไม่แต่ง จะนอนยันนั่งยันยืนยันยังไงน้ำก็ไม่แต่งเด็ดขาด"
ฉันอุตส่าห์หนีไปเรียนต่อที่ประเทศตั้งสองปี ฉันก็คิดว่าไอ้ผู้ชายคนนั้นจะแต่งงานกับคนอื่นแล้วซะอีก!ยังจะคอยเป็นเจ้ากรรมนายเวรฉันอีก!
“งั้นแกก็เลือกเอา ระหว่างอยู่แบบสบายมีเงินใช้ตลอดชาติโดยที่แกไม่ต้องเหนื่อยหาเองสักบาท ช้อปกินเที่ยวตามใจอยากได้อะไรก็แค่กระดิกนิ้วเรียกก็ได้มา ”
"___"
“แต่ถ้าแกไม่ยอมแต่งงาน ฉันจะตัดห่างแกปล่อยวัด เงินทุกบาททุกสตางค์ฉันก็จะไม่ให้ รวมถึงบัตรทุกอย่างที่ฉันให้แกไปฉันจะตัดให้หมด รวมถึงรถกับคอนโดที่ฉันซื้อให้ ฉันก็จะยึดคืนหมด!เลือกเอา แกจะใช้ชีวิตแบบไหน จะสุขหรือทุกข์ มันก็ขึ้นอยู่ที่แก..ยัยน้ำ"
"__" ฉันยืนอ้าปากค้างพลางกะพริบตาถี่รัวๆอะไรกัน แค่ฉันไม่ยอมแต่งงาน ทำอย่างกับว่าฉันติดหนี้ไฟแนนซ์มาเป็นชาติ ยึดทุกอย่างแบบนี้ เเล้วฉันจะใช้ชีวิตอยู่ยังไง
“ว่ายังไง ฉันมีทางให้แกเลือกแค่สองทาง” ผู้เป็นพ่อเอ่ยถามฉันอีกครั้ง พร้อมใบหน้าที่เคร่งขรึมกับแววตาดุที่จ้องหน้า
พอฉันตวัดสายตามองไปทางม๊า ก็เอาแต่นั่งเงียบไม่ยอมช่วยอะไรฉันเลย แถมเอาแต่พยักหน้าให้ฉันเหมือนอยากให้ฉันยอมๆป๊าไปเถอะ ประมาณนี้..
ซึ่งทำให้ฉันต้องก้มหน้าถอนหายใจออกมาอย่างหนัก!พร้อมมือสองข้างที่กำหมัดไว้แน่น
“แม้แต่ม๊าเอง ก็ยังเห็นดีเห็นงามกับงานแต่งบ้าๆนี้ด้วย?..หนูขอถามหน่อยเถอะ ยังเห็นหนูเป็นลูกของพวกคุณอยู่ไหมห๊ะ!"
ปัง!!
ฉันพูดตะคอกเสียงออกไปอย่างเสียงดังพร้อมลุกขึ้นยืนเอากำปั้นทุบลงที่โต๊ะแบบแรง จนจานข้าวที่อยู่บนโต๊ะมันสะเทือนและม๊าที่สะดุ้งตกใจพร้อมมือทาบที่อกและมองหน้าฉันแบบไม่เชื่อสายตาตัวเองว่าฉันจะก้าวร้าวแบบนี้
“น้ำ! ทำไมลูกถึงเป็นคนแบบนี้ ม๊าไม่เคยสอนเราให้ก้าวร้าวแบบนี้เลยนะ ”
“แล้วม๊าไม่ได้ยินที่น้ำบอกเหรอ ว่าน้ำไม่แต่งไม่แต่งไม่แต่งไม่แต่ง!ไม่แต่งได้ยินไหมว่าน้ำไม่เอาผัว!!!!”
....เอาผัวแฮปปี้ดีออก
เสียงของใครบางคนเอ่ยขึ้นจากด้านหลังเลยทำให้ฉันต้องหันกลับไปมองและขมวดคิ้วทันทีที่ได้เห็นหน้าคนๆนัั้น
“วายุ!" ฉันเอ่ยเรียกชื่อคนที่เดินผ่านหน้าฉันเบาๆ
“สวัสดีครับ คุณลุงคุณป้า "
“หวัดดีจ๊ะ" ม๊าพูดขึ้นและเป็นป๊าที่พยักหน้าให้เขา...แล้วนายนั่นมาทำอะไรที่นี่
“ไง วายุ ไม่เจอกันซะนานหล่อขึ้นเยอะเลยนะเรา"
“ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ อาจจะเป็นที่เราไม่ได้เจอกันนาน ก็เลยดูผิดหูผิดตาไปบ้าง "
“นายมาทำอะไรที่นี่ " ฉันเอานิ้วไปสะกิดแขนเขาแล้วเอ่ยถามแบบสงสัย
“เอ่อ..เราสองคนรู้จักกันด้วยเหรอ " ม๊ากรอกสายตามองฉันสลับกับนายวายุไปมาอย่างสงสัย แต่ก็ยิ้มเหมือนดีใจที่เราสองคนรู้จักกัน
“น้ำรู้จักเขาผ่านชบาค่ะ แต่ไม่ได้สนิทอะไรกัน"
“ขนาดไม่สนิท ยังจูบ!มันส์ดีหวานติดปาก เธอว่าไหม"
เสียงนายวายุพูดกระซิบข้างหูฉันเบาๆแต่ก็ดูเหมือนว่าเขาจงใจอยากให้ป๊ากับม๊าได้ยิน ถึงเน้นคำว่าเสียงดังกว่าประโยคอื่น จึงทำให้ตาของฉันมันเบิกโพลงขึ้นและหันไปมองหน้าเขาในทันที แล้วมันก็ไม่ต่างอะไรจากม๊าที่ได้ยินคำนั้นแล้วจะไม่ตาลุกวาวขึ้นและหันไปสะกิดป๊าที่นั่งยิ้มมุมปากอยู่เงียบๆ
“นายพูดบ้าอะไรของนายห๊ะ! "ฉันกระซิบกลับไป
“ฉันพูดเรื่องจริง..แต่เธอใจร้ายมากเลยรู้ไหมเธอทำให้ฉันอารมณ์ค้างนานตั้งสองปี"
”ห๊ะ!...อุ๊บ" ฉันรีบเอามือปิดปากตัวเองทันทีที่เผลอเสียงดังออกไป จึงทำให้ป๊ากับม๊าพลอยตกใจไปด้วย “ข ขอโทษค่ะ”
ฉันชำเลืองตามองนายวายุที่ยิ้มมุมปากแล้วเอามือมาท้าวคางตัวเองและมองหน้าฉัน ไม่สิ! นายนั่นกำลังจ้องมาที่ปากฉันต่างหาก
อารมณ์ค้างงั้นเหรอ ผู้ชายอย่างเขาเนี่ยนะจะปล่อยให้อารมณ์แบบนั้นค้างเป็นปี คิดจะเก็บน้ำเชื้อไว้ชิงรางวัลออสการ์หรือไง ไม่โรคจิตก็ประสาท
“หึ! " อยู่ๆนายวายุก็แค่นหัวเราะอยู่ในลำคอแล้วยิ้มมุมปากแต่ก็ยังมองหน้าฉันอยู่
“อ่าวล่ะ ไหนๆก็ถือว่าทั้งคู่ก็ได้รู้จักกันมาก่อน งั้นคงไม่มีอะไรให้น่าเป็นห่วง ยังไงลุงก็ฝากยัยน้ำมันด้วยนะวายุ "
“เดี๋ยวๆนะป๊า นี่ป๊าพูดเรื่องอะไรกัน น้ำงงไปหมดแล้วนะ อีกอย่างป๊ากับม๊าไปรู้จักอิตานี่ได้ไง ทำไมน้ำไม่เห็นรู้เรื่องเลย "
ฉันถามออกไปแบบยาวเหยียด เพราะมันสงสัยนี่นาว่าป๊ากับม๊าไปรู้จักกับนายวายุได้ไง ที่สำคัญฉันไม่เคยได้ยินพวกเขาพูดถึงหรือรู้เกี่ยวกับนายนี่เลย ต่างจากปกติที่ค่อยแนะนำคนนั้นคนนี้ให้ฉันรู้จัก
“แกจำคุณยาคุชิหุ้นส่วนรายใหญ่ของเราได้ไหม คนที่สนิทกับป๊าที่เคยแนะนำให้แกรู้จักเมื่อหลายปีก่อน" ฉันพยักหน้าตอบแทนการพูด
“นี่แหละ ลูกชายของเขาแล้วเป็นผัวของเเกในอนาคต! ”
“ห๊ะ!! ผะ ผัวหนู!! ”
“หนีฉันไปหลายปี สงสัยงานนี้ต้องคุยกันยาว หึ!"
