บท
ตั้งค่า

บทที่ 1 ตอนที่ 3

ยามค่ำมาเยือน ความมืดมิดปกคลุมไปทั่ว แม้กระทั่งหัวใจก็ยังเต็มตื้นไปด้วยความดำทมิฬไม่ต่างกัน ราวกับมีหมอกหนามาบดบังทุกให้มองไม่เห็นซึ่งความสดใสอย่างเช่นวันวานอีกแล้ว

สาวน้อยร่างเล็กนอนสะอื้นสั่นระริกอยู่บนเตียงขนาดพอเหมาะกับตัวเอง ในอ้อมกอดรัดแน่นตุ๊กตาตัวใหญ่ซึ่งหวงแหนหนักหนาเอาไว้ ปล่อยน้ำตาให้รินไหลโดยมิอาจหักห้าม แม้จะพยายามสักเพียงใดก็ตาม

"แม่จ๋า...แม่จากไปแล้วโมบายจะอยู่กับใครละจ๊ะ แม่จ๋าโมบายคิดถึงแม่เหลือเกิน" คำเดิมๆ ซ้ำๆ ที่เธอเอื้อนเอ่ยถึงผู้เป็นที่รักนักหนามันคือความรู้สึกทั้งหมดของหัวใจที่ครวญคร่ำเพรียกหา

ตั้งแต่ขาดพ่อผู้ให้กำเนิดเธอกับแม่ก็มีกันและกันเสมอ เมื่อวันนี้ต้องโดดเดี่ยว ความว้าเหว่จึงเกาะกินและไม่รู้เลยว่าต้องดำเนินชีวิตต่อไปได้เช่นไร ...เสียงเคาะประตูดังขึ้น ทำให้เธอรู้สึกตัวและเช็ดน้ำตาที่นองหน้า ก่อนจะรวบรวมกำลังน้อยนิดลุกขึ้นไปเปิดต้อนรับผู้มาเยือน

"พี่โฮป...มีอะไรหรือเปล่าคะ"

หญิงสาวสูดน้ำมูกเช็ดน้ำตาซ้ำอีกครั้งก่อนจะเอ่ยปากถามชายหนุ่มซึ่งมีสีหน้าเศร้าสลดไม่แพ้กัน ทั้งที่ความเป็นจริงทั้งคู่ไม่ใคร่จะกินเส้นกันเท่าไหร่หากอยู่ในสถานการณ์ปกติ ออกจะขัดแย้งกันอยู่บ่อยๆ ด้วยซ้ำ

"มาตามไปกินข้าว" ชายหนุ่มตัวโตในชุดดำกล่าว เขาจ้องสาวน้อยแสนโศกไม่วางตา รู้สึกสะเทือนใจไปกับอาการที่เธอเป็นอยู่ไม่น้อย เพราะก็เคยผ่านช่วงเวลานี้มา แถมยังอยู่ในวัยอันอ่อนเยาว์กว่าเป็นหลายเท่า ความทรงจำอันผูกพันเลือนราง ไม่ได้ชัดเจนแน่นแฟ้นอย่างที่เธอมีต่อแม่

"ไม่หิวค่ะ พี่โฮปกับคุณเฮิรตซ์ทานกันไปก่อนนะคะ ฉันปวดหัวมากขอตัวนอนค่ะ" สาวน้อยไม่ได้ยี่หระกับความปรารถนาดี จิตใจเธออ่อนล้าตรอมตรมเกินกว่าจะฝืนทำอะไรนอกเหนือจากการปล่อยตัวเองให้จมอยู่กับความทุกข์จากการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่

"พ่อรออยู่..." ไม่พูดพร่ำทำเพลงชายหนุ่มดึงข้อมือเล็กแล้วหันหลังเดินดึงให้เธอถลาตามไปทันที

"พี่โฮป! ปล่อยค่ะอย่ามาทำนิสัยแบบนี้นะ" หญิงสาวสะบัดมือออกจากพันธนาการ ก้าวถอยกลับ สีหน้าเปลี่ยนจากซึมเศร้าเป็นแฝงไว้ด้วยความขุ่นเคืองอย่างเห็นได้ชัด

"เสียใจก็ส่วนเสียใจ จะทำร้ายตัวเองทำไม"

"ไม่ได้ทำร้ายตัวเองค่ะ แต่ไม่หิว กินไม่ลง" เขาหันกลับมาทำเสียงเคร่งขรึมใส่ ยืนเท้าสะเอวแสดงความไม่พอใจบ้าง "คุณบัวคงไม่ดีใจหรอกถ้ารู้ว่าเธอเป็นแบบนี้" "..." คำนั้นทำเอาน้ำตาที่กลั้นกลืนไว้พรั่งพรูออกมาอีกครั้ง เขามีสิทธิ์อะไรเอาแม่เธอมาข่มขู่ในเมื่อเธอไม่มีความรู้สึกหิวโหยอะไรเลยจริงๆ ไม่ใช่ปฏิเสธไปเพราะอารมณ์ที่ร้อนรุ่มหรือมีอคติส่วนตัว

"โมบาย..." จากสะอื้นเบาๆ เป็นเสียงร้องไห้โฮ สองมือเล็กยกปิดหน้าสั่นเทิ้มตัวโยนจนคนเอ็ดเริ่มทำอะไรไม่ถูก เขาตั้งใจมาชวนเธอไปรับประทานอาหารเพราะความเป็นห่วง ไม่ใช่หาเรื่องทะเลาะในช่วงเวลาเหตุการณ์เลวร้ายเช่นนี้

"พี่ขอโทษ อย่าร้องไห้เลยนะ" มือใหญ่เอื้อมไปจับร่างสั่นสะท้านเอาไว้ ชายหนุ่มลอบกลืนน้ำลายลงคอด้วยความเจ็บฝืดกับอาการของคนตรงหน้า ก่อนจะรั้งเข้ามากอดเอาไว้ เธอเอาแต่ร้องไม่ได้ขัดขืน หรืออาจไม่มีแรงพอก็เป็นไปได้...

"พี่รู้ว่าเสียใจ โมบายรู้ไหมพี่ก็เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน พี่รู้ดี...ว่ามันเจ็บแค่ไหน"

เธอกะพริบตาถี่อยู่ในอ้อมกอดหลวมๆ ของเขา แปลกใจอยู่ไม่น้อยที่ทั้งการกระทำและคำพูดที่ได้รับจากคนคนนี้ เธอไม่เคยรู้ว่าเขามีมุมมองในแง่เจริญหูเจริญกับเขาด้วย

หญิงสาวรีบผลักคนตัวใหญ่กว่าให้ออกห่าง เช็ดน้ำตาและตั้งสติไม่เขวไปกับท่าทีแปลกประหลาดของเขา

"ฉันอยากนอนค่ะ ปวดหัว..." ถือเป็นการกล่าวราตรีสวัสดิ์ เธอหันหลังให้ในทันทีเพื่อกลับไปจมจ่มอยู่กับอารมณ์ตัวเองบนที่นอนดั่งเดิม

"โมบาย" แต่แล้วร่างเล็กก็ต้องชะงัก... คนด้านหลังสาวเท้าตามเธอมาและรวบกอดจากทางด้านหลังโดยไม่ทันได้ตั้งตัว เธอสับสน...และทำอะไรไม่ถูกกับสัมผัสนั้น "จำไว้นะว่ายังมีพี่กับพ่ออยู่ข้างๆ เสมอ เธอไม่ได้โดดเดี่ยวอย่างที่กำลังคิด เราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วเราจะไม่ทิ้งเธอ...พี่สัญญาจะดูแลเธอแทนคุณบัวเอง" กลายเป็นเขาที่ผละห่างจากร่างเล็กแบบบางทันทีเมื่อพูดจบ ปล่อยให้หญิงสาวงงงันอยู่อย่างนั้น จนกระทั่งได้ยินเสียงประตูปิดลงนั่นแหละจึงรู้สึกตัว

บัวบงกชที่แสนจะอ่อนแรงเอื้อมตัวไปนั่งบนที่นอน นับตั้งแต่วันที่มารดาจากไปเธอร้องไห้ไม่หยุดสักนาทีเดียว เว้นแต่ช่วงเวลาที่เผลอหลับเท่านั้น ซึ่งก็น้อยมากในช่วงเจ็ดวันที่ผ่านมา เธอไม่เคยรู้สึกว่าปลอดภัยเมื่อไม่มีแม่ มีแต่ความโดดเดี่ยวอ้างว้างและหวาดกลัวว่าจะใช้ชีวิตอยู่ต่อไปเช่นไร...

ในเมื่อ...เธอไม่มีครอบครัวและไม่มีที่ให้อยู่อาศัยอีกแล้ว บ้านหลังนี้เป็นขององศาพ่อบุญธรรมคนใหม่ซึ่งเพิ่งก้าวเข้ามาในชีวิตเมื่อสองปีก่อน หลังจากที่บิดาตีห่างหายไปมีผู้หญิงคนอื่น แม่ของเธอตรอมใจและเจ็บป่วยจนอาการกำเริบหนักมาตั้งแต่ตอนนั้น ก็ได้องศานี่แหละที่ช่วยดูแลไม่เคยรังเกียจรังงอน ทำหน้าที่สามีได้อย่างสมบูรณ์แบบอย่างน่าทึ่ง

แต่อย่างไรเสียเธอก็ไม่อาจเปิดรับพวกเขาสองพ่อลูกว่าเป็นครอบครัวเดียวกันได้อย่างสนิทใจสักที เธอมักรักษาระยะห่างเอาไว้เสมอและไม่เคยรู้สึกผูกพันอะไรมากมาย พยายามหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าจนกระทั่งมาถึง...วันนี้

ราเชนทร์กับองศาเองก็เช่นกัน ทั้งคู่แสดงความห่างเหินชัดเจน อาจเพราะเธอเป็นผู้หญิงด้วยกระมัง พวกเขาคงไม่อยากเป็นขี้ปากใคร หากต้องมาสนิทสนมกันเกินควร อีกอย่างต่อให้อยู่บ้านเดียวกัน แต่ก็ใช่ว่าใช้ชีวิตร่วมกันมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย ความคุ้นเคยจึงมีขอบเขตของมันอยู่เสมอ

"แม่จ๋า....หนูต้องอยู่ที่นี่ต่อไปใช่ไหมจ๊ะ" เธอวอนถามอย่างไร้ความหวังในคำตอบ...

เพราะไม่รู้จริงๆ ว่าหากขาดมารดาไปแล้วจะต้องไปซุกซอกหัวนอน ณ ที่แห่งไหน สองพ่อลูกจะเมตตาให้พักพิงอยู่ต่อหรืออาจจะขับไสไล่ส่งเพราะไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กันแล้ว แม้เมื่อครู่ราเชนทร์จะเข้ามาปลอบใจแต่ก็ไม่ได้หมายว่าเธอจะอยู่ในการอุปการะ ให้พวกเขารับผิดชอบในทุกๆ เรื่อง

เรียนก็ยังเรียนไม่จบ...ไม่มีงานทำ ไม่มีที่อยู่ ไร้ญาติขาดมิตร มันคือภาระใหญ่พอสมควรหากใครสักคนจะเข้ามาอุปถัมภ์เด็กกำพร้าที่มีแต่ตัว ความหวั่นใจเหว่ว้าประดังเข้ามาทำให้ร่างเล็กขดงอคู้กอดตัวเองเอาไว้อย่างน่าสงสาร

เธอไม่เหลืออะไรอีกแล้ว...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel