ตอนที่3 จับคู่
รักอันตรายของมาเฟียร้าย
ตอนที่3
จับคู่
ประเทศไทย
ครืดด ครืดด
เสียงโทรศัพท์มือถือเครื่องหรูที่ดังขึ้นทำให้ร่างบางของหลินหลินที่เดินลงมาจากคอนโดและกำลังจะเดินไปที่รถต้องหยุดชะงัก
มือบางรีบล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าสะพายเพื่อหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาก่อนจะรีบกดรับโทรศัพท์ทันทีเมื่อเห็นว่าเบอร์ของแวววิไลผู้เป็นมารดาโทรเข้ามา
"หลินหลิน : "ฮัลโหลค่ะแม่"
(แวววิไล : "ฮัลโหลหลินหลินนี่แกอยู่ไหนแล้วเนี่ยคงไม่ได้ลืมนัดที่จะมากินข้าวกับแม่กับเตี่ยใช่ไหม?")
"หลินหลิน : "เปล่าซะหน่อยแม่หลินไม่ได้ลืมกำลังจะออกจากคอนโดแล้วเนี่ยแต่แม่ก็โทรมาก่อน"
(แวววิไล : "อย่างงั้นก็แล้วไปแม่ก็นึกว่าแกจะลืมรีบมาล่ะเตี่ยรอพบหน้าลูกสาวอย่างแกอยู่")
"หลินหลิน : "โอเคๆเดี๋ยวหลินจะรีบไปให้เร็วที่สุดเลยถ้าอย่างงั้นแค่นี้ก่อนนะแม่เดี๋ยวหลินจะขับรถแล้ว"
(แวววิไล : "อืม ขับรถดีๆล่ะ")
"หลินหลิน : "โอเคค่า"หลินหลินบอกกับผู้เป็นแม่เสร็จก็รีบกดวางโทรศัพท์ทันทีและเดินตรงไปยังรถที่จอดอยู่แต่ในขณะที่หลินหลินกำลังจะเปิดประตูรถเธอก็รู้สึกได้เหมือนกับว่ากำลังมีคนจ้องมองเธออยู่
หลินหลินจึงรีบหันไปมองรอบๆเพื่อดูว่ามีใครหรือเปล่าแต่ก็ไม่เห็นมีใครสักคน
"ก็ไม่เห็นมีใครนี่หรือว่าเราจะคิดมากไปเอง"หลินหลินส่ายศีรษะไปมาพร้อมกับพึมพำกับตัวเองเบาๆและมองไปรอบๆอีกครั้งเมื่อไม่เห็นว่ามีใครจริงๆหลินหลินจึงรีบขึ้นรถและขับรถออกจากคอนโดไปทันทีเพราะไม่อยากให้ที่บ้านรอนานเพราะว่าวันนี้หลินหลินมีนัดทานข้าวกับครอบครัวที่บ้านของเธอ
หลินหลินขับรถออกไปโดยที่ไม่รู้เลยว่ามีสายตาคมของใครบางคนจ้องมองเธอไปจนสุดสายตา
บ้านเมฆภูดินันท์
หลินหลินขับรถเข้ามาในบ้านพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัยเมื่อเห็นมีรถยนต์คันหนึ่งที่ไม่คุ้นตาจอดอยู่ภายในบ้านของเธอ
"แม่กับเตี่ยชวนใครมากินข้าวที่บ้านด้วยแน่ๆถึงว่ารีบเร่งเราจังหวังว่าแม่คงไม่ได้เรียกใครมาจับคู่ให้เรานะ"หลินหลินได้แต่ภาวนาในใจหวังว่าการกลับมาทานข้าวกับที่บ้านจะไม่มีอะไรแอบแฝง
ขาเรียวยาวของหลินหลินเดินเข้ามาในบ้านก่อนที่แม่บ้านจะเดินมาทักทายพร้อมกับช่วยหลินหลินถือกระเป๋า
"สวัสดีค่ะคุณหนู"
"แม่กับเตี่ยล่ะอยู่ไหน?"หลินหลินถามหาผู้เป็นมารดาและบิดาทันที
"คุณท่านทั้งสองและคุณลอนอยู่ที่ห้องรับแขกค่ะวันที่บ้านมีแขกมาค่ะคุณหนู"แม่บ้านเอ่ยบอก
"ใครมาระ..."หลินหลินกำลังจะอ้าปากถามกับแม่บ้านแต่ผู้เป็นมารดาของเธอก็เดินมาเสียก่อน
"หลินหลินแกมาแล้วเหรอแม่กำลังจะโทรตามอยู่พอดีเลย"แวววิไลเดินมาหาลูกสาวพร้อมกับโบกมือให้แม่ออกไป
"วันนี้บ้านเรามีแขกเหรอแม่ ไม่เห็นบอกหลินเลยว่าวันนี้จะมีแขก?"หลินหลินถามขึ้น
"จะบอกตอนไหนก็ไม่สำคัญหรอกเพราะสุดท้ายแกมาถึงก็เจออยู่ดี"แวววิไลเอ่ยบอกพร้อมกับส่งยิ้มให้ลูกสาว
"รอยยิ้มของแม่กำลังทำให้หลินไม่ไว้ใจนะรู้ไหม?"หลินหลินพอจะเดาออกแล้วว่าที่แม่เธอรีบเรียกให้เธอกลับมาบ้านเร็วๆมันเป็นเพราะอะไรกัน
"เอ๊ะ! ยัยหลินหลินแม่เป็นแม่แกนะแกจะมาไม่ไว้ใจได้อย่างไงกันพูดอะไรก็ไม่รู้"
"แม่พาใครมาบ้านบอกหลินมานะ นี่แม่จะจับคู่ให้หลินไปถึงไหนเนี่ย?"หลินหลินอยากจะบ้าตายแม่เธอเอาอีกแล้วหาจับคู่ให้เธออีกแล้ว
"เอาน่าลองดูก่อนคนนี้แม่ว่าผ่านแกต้องชอบแน่นอน"แวววิไลเอ่ยบอกกับลูกสาวอย่างอารมณ์ดีเพราะเธอมั่นใจว่าลูกสาวเธอจะต้องชอบลูกชายของเพื่อนเธอแน่นนอน
"แม่หลินบอกกี่ครั้งแล้วว่าอยากจับคู่ให้หลิน หลินไม่ชอบ"
"อย่าบ่นมากที่แม่เลือกก็มีแต่สิ่งดีๆให้แกทั้งนั้นแหละหลินหลิน"แวววิไลทำเสียงดุใส่ลูกสาวเล็กน้อยก่อนที่ล้อมเดชผู้เป็นบิดาจะเดินออกมาจากห้องรับแขก
"หลินหลินมาแล้วเหรอลูก?"ล้อมเดชอ้าแขนออกก่อนที่หลินหลินลูกสาวของเขาจะเดินเข้ามากอด
"หลินคิดถึงเตี่ยจังเลยค่ะ"หลินหลินเอ่ยบอกพร้อมกับกอดบิดาไว้แน่น
ครอบครัวหลินหลินฝั่งพ่อเป็นครอบครัวคนจีนส่วนฝั่งแม่เป็นคนไทยหลินหลินเธอก็เลยเรียกผู้เป็นบิดาว่าเตี่ยส่วนผู้เป็นมารดาก็เรียกว่าแม่ปกติและการที่ฝั่งครอบครัวของฝั่งเตี่ยหลินหลินเป็นคนจีนหลินหลินจึงพูดภาษาจีนได้ตั้งแต่เด็กๆเพราะญาติฝั่งเตี่ยเธอมักจะชอบพูดภาษาจีนใส่กันเวลาตอนรวมญาติหรือเจอกันตามเทศกาล
"เตี่ยก็คิดถึงหลินหลินของเตี่ยเหมือนกัน"ล้อมเดชเอ่ยบอกกับลูกสาวพร้อมกับลูบหัวลูกสาวด้วยความรักเบาๆ
"สองคนนี้เลิกกอดกันก่อนได้ไหมเนี่ย เฮียแล้วออกมาจากห้องรับแขกทำไมเนี่ยมันดูไม่ดีเลยนะทิ้งแขกแล้วเดินออกมา"แวววิไลหันไปบอกกับสามี
"ไม่เป็นไรหรอกลอนก็นั่งอยู่อีกอย่างที่เฮียเดินออกมาก็จะมาตามเธอเนี่ยแหละเห็นหายมานานแล้ว"ล้อมเดชเอ่ยบอกกับภรรยาและผละกอดออกจากลูกสาว
"แววก็ว่าจะมาโทรหาลูกสาวของเฮียเนี่ยแหละแต่มาพอดีถ้างั้นอย่าเสียเวลาเลยเรารีบกลับเข้าไปในห้องรับแขกดีกว่าเดี๋ยวแขกจะรอนานมันจะดูไม่ดีเอา"แวววิไลพูดจบก็เดินนำกลับเข้าไปในห้องรับแขกทันที
"หน้าบึ้งเลยลูกสาวเตี่ย"ล้อมเดชเห็นหน้าลูกสาวที่บึ้งตึงก็รู้ได้ทันทีว่าลูกสาวกำลังไม่พอใจอยู่
"หลินไม่ชอบที่แม่ทำแบบนี้เลยเตี่ย ทำไมแม่ถึงชอบจับคู่ให้หลินอยู่ได้ก็ไม่รู้"
"อย่าโกรธแม่เขาเลยนะที่แม่เขาทำก็เพราะหวังดีกับหลินหลินแต่ถ้าหลินหลินของเตี่ยไม่ชอบหลินหลินก็ไม่ต้องสานสัมพันธ์เหมือนกับที่ผ่านมาก็แค่นั้นเอง"
"ค่ะเตี่ย"หลินหลินมองหน้าผู้เป็นบิดาก่อนที่จะพยักหน้าอย่างเข้าใจ
"ถ้างั้นเรารีบเข้าไปกันอย่าปล่อยให้แขกรอนานมันดูไม่ดีเอา"
"ค่าเตี่ย"หลินหลินพยักหน้าก่อนที่จะเดินเข้าไปในห้องรับแขกพร้อมกับผู้เป็นบิดา
ฮ่องกง
THE RICH CLUB
ลี่หยางเดินเข้ามาในคลับหรูพร้อมกับไฉหรือเหริน ไฉ เพื่อนสนิทเจ้าของคลับหรูใจกลางฮ่องกงอย่างTHE RICH CLUBก่อนจะเดินตรงไปยังห้องVIP ที่ตอนนี้คาร์ลหรือเหยา อวี่หานเพื่อนสนิทของพวกเขาอีกคนที่พึ่งบินกลับมาจากประเทศไทยกำลังนั่งรออยู่
แกร๊ก
เสียงประตูห้องVIPถูกเปิดเข้ามาพร้อมกับร่างสูงของลี่หยางและไฉที่เดินเข้ามาในห้องก่อนที่ทั้งคู่จะเดินไปนั่งลงที่โซฟาฝั่งตรงข้ามกับคาร์ล
คาร์ลไม่ได้สนใจเพื่อนสนิททั้งสองคนที่เดินเข้ามานั่งสิ่งเขาสนใจตอนนี้คือขวดวิสกี้ที่วางอยู่ตรงหน้า คาร์ลยกขวดวิสกี้ขึ้นมาแล้วเทลงแก้วก่อนจะยกมันขึ้นมาดื่มจนหมดแก้ว
"คืนนี้สินค้าของเราจะถูกส่งไปที่ไทยมึงบอกให้ลูกน้องของมึงเตรียมรับสินค้าให้ดีๆด้วยล็อตนี้เป็นล็อตใหญ่ต้องระวังหน่อย"ไฉบอกขึ้นก่อนที่จะหยิบขวดไวน์ที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาเทใส่แก้วทรงสูงสองแก้วและเลื่อนมันไปให้กับลี่หยางแก้วหนึ่งส่วนอีกแก้วคือของเขาเอง
ลี่หยางกับไฉมักจะชอบดื่มไวน์แดงมากกว่าวิสกี้ส่วนคาร์ลมักจะชอบดื่มวิสกี้หรือไม่ก็พวกเหล้าแรงมากกว่าไวน์
ตอนนี้พวกเขาทั้งสามคนกำลังขยายธุรกิจสีดำไปยังประเทศไทยและมีคาร์ลรับผิดชอบอยู่ที่ประเทศไทยและคาร์ลก็เพื่อนของพวกเขาก็มีธุรกิจที่ไทยอีกด้วย
"อืม...เดี๋ยวจัดการให้"คาร์ลเอ่ยบอกพร้อมกับเทวิสกี้ลงในแก้วอีกครั้งแล้วยกมันขึ้นมากระดกดื่มจนหมดแก้วก่อนที่เทวิสกี้ลงแก้วอีกรอบและยกมันขึ้นดื่มอีกเพื่อระงับอารมณ์ที่ร้อนรุ่มในใจ
"ไอ้คาร์ลมันไปหิวน้ำมาจากที่ไหนวะ?"ไฉหันไปพูดกับลี่หยางที่นั่งอยู่ข้างๆ
"ดูท่าคงจะหิวมากมันแดกวิสกี้เกือบหมดขวด"ลี่หยางเอ่ยบอกพร้อมกับมองคาร์ลไปด้วย
"เฮ้อไอ้คาร์ลใจเย็นๆเดี๋ยวก็ตับแข็งตายวันนี้พอดี"ไฉเอ่ยห้ามเมื่อเห็นว่าคาร์ลยกแก้วขึ้นดื่มอีกครั้งจนหมดแก้ว
"..."คาร์ลไม่ได้สนใจในคำพูดของไฉเขาเทวิสกี้ลงแก้วอีกครั้งแล้วยกมันขึ้นมาดื่มจนหมดแก้วก่อนที่จะเอนหลังพิงกับโซฟาและหลับตาลงความร้อนรุ่มภายในใจมันยังคงไม่หาย
"มีเรื่องอะไร?"ลี่หยางถามขึ้นเมื่อสังเกตเห็นท่าทางของคาร์ลเหมือนว่ากำลังคิดอะไรสักอย่าง
"เปล่า"คาร์ลตอบออกไปแต่ตาก็ยังคงหลับอยู่
"เชื่อตายล่ะเป็นอะไรบอกมา"ไฉพูดขึ้นก่อนจะยกแก้วไวน์ขึ้นมาดื่มท่าทางแบบนี้ดูก็รู้ว่าคาร์ลมีเรื่องอะไรอยู่ในใจ
"..."คาร์ลลืมตาขึ้นมามองลี่หยางกับไฉแต่ไม่ได้พูดอะไร
"ไม่อยากบอกก็ไม่ต้องบอกกูก็ไม่ได้อยากรู้ขนาดนั้น"ไฉยักไหล่เป็นเชิงว่าเขาก็ไม่ได้สนใจอะไร
พวกเขาทั้งสามคนมักจะเป็นแบบนี้เสมอถ้าต่างฝ่ายมีเรื่องอะไรที่ไม่อยากเล่าออกมาพวกเขาก็จะไม่ถามหรือเซ้าซี้ต่อ
"มึงจะต้องกลับไทยอีกหรือเปล่าหรือไม่ต้องแล้ว?"ลี่หยางถามขึ้น
"กลับกูยังมีเรื่องที่ต้องจัดการที่ไทย"คาร์ลตอบเสียงเรียบ
"แล้วจะกลับตอนไหน?"ลี่หยางถาม
"ยังคงไม่ใช่เร็วๆนี่กูว่าจะอยู่งานวันเกิดป๊าก่อนแล้วค่อยกลับ"คาร์ลตอบ
"กูจะไปประเทศไทย"ลี่หยางเอ่ยบอก
"ไปทำอะไร?"คาร์ลเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย
"เออมึงจะไปทำอะไรที่ไทยไอ้ลี่หยาง?"ไฉถามขึ้นอย่างสงสัย
"กูมีธุระที่ประเทศไทยต้องไปจัดการก็เลยว่าจะไปพร้อมมึงไอ้คาร์ล"ลี่หยางบอก
"อืม"คาร์ลรับคำในลำคออย่างเข้าใจ
"ธุระ...ธุระอะไรวะต้องไปถึงประเทศไทยเลย"ไฉก็ยังคงสงสัยปกติธุรกิจของลี่หยางไม่มีเกี่ยวอะไรกับประเทศไทยสักหน่อย
"ขอไม่บอกแล้วกันเพราะมันคือธุระส่วนตัว"ลี่หยางเอ่ยบอกพร้อมกับยกยิ้มอย่างยียวนใส่ไฉ
"อ้าว...ไอ้ลี่หยางมึงกำลังจะบอกว่ากูเสือกอย่างงั้นเหรอวะ?"ไฉถามขึ้นพร้อมกับวางแก้วไวน์ลงบนโต๊ะและมองหน้าลี่หยาง
"แล้วแต่มึงจะคิดเลยไฉ"ลี่หยางบอก
"ไอ้ลี่หยางมึงนี่มันกวนตีนจริงๆ"ไฉยกนิ้วขึ้นมาชี้หน้าลี่หยางอย่างเอาเรื่องแต่ก็ไม่ได้จริงจังนักก่อนที่ทั้งสามคนจะพูดคุยกันในเรื่องอื่นๆกันต่อ
