ห่วงแม้ไม่มีสิทธิ์(2)
“หนึ่งไปดูพี่เปรมหน่อยดื่มเหล้าเมาอยู่ที่หน้าร้านน่ะ”
ดิวรีบวิ่งเข้ามาตามเพื่อนที่กำลังดูแลแขกคนอื่นอยู่เพราะตอนนี้เปรมธวัชได้มานั่งดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อยู่คนเดียวในส่วนของหน้าร้านซึ่งตอนนี้เขาก็เมามายจนไม่ได้สติ
“เมาแบบนี้แล้วจะกลับบ้านกันยังไง”
น้ำหนึ่งไม่รู้จะทำยังไงกับคนเมาเธอจึงทำได้เพียงพยายามห้ามไม่ให้เขาดื่มต่อ
“พี่ทำอะไรผิดทำไมพี่ต้องเป็นคนที่ถูกเธอทิ้ง”
เปรมธวัชยังคงถามคำถามเดิมซ้ำไปซ้ำมาทั้งที่จริง ๆ เขาควรจะยุติเรื่องนี้ได้แล้วในเมื่อตอนนี้เขาก็มีภรรยาไม่ได้เป็นคนโสดจึงไม่ควรคิดที่จะย้อนกลับมาคำนึงถึงอดีตอะไรอีกไม่ว่าจะมีคำถามอะไรในใจก็ตามเปรมธวัชควรเลือกที่จะลืม
“พี่เปรมไม่ควรพูดเรื่องเก่าอีกแล้ว”
น้ำหนึ่งรู้ตัวเองดีว่าตอนนี้เธอควรยืนอยู่ในฐานะไหน เธอจึงไม่คิดที่จะสานสัมพันธ์ต่อถึงแม้หัวใจของเธอมันจะยังคงมีเขาอยู่ก็ตาม
อดีตคนรักพาคนเมากลับไปพักที่คอนโดของเธอแม้ว่าชายหนุ่มพยายามจะรื้อฟื้นความหลังแค่ไหนแต่น้ำหนึ่งก็สามารถหักห้ามหัวใจตัวเองไว้ได้เพราะเธอยังมองเห็นความถูกต้องที่เธอควรจะอยู่ในฐานะแค่คนรู้จัก อดีตก็เป็นแค่อดีตปัจจุบันเขาคือสามีของคนอื่นและเธอก็เป็นเพียงแค่อดีตเท่านั้น
“ขอบคุณนะที่ให้มานอนพักที่นี่”
เปรมธวัชรู้สึกตัวขึ้นมาเขาเปิดประตูห้องเดินมายังห้องรับแขกเพื่อตามหาเจ้าของห้องที่เขาแสนคุ้นเคยและพบว่าเธอนอนหลับอยู่ที่โซฟาหน้าทีวีแสดงว่าเมื่อคืนเขากับเธอไม่ได้นอนด้วยกัน
“ทีหลังอย่าเมาแบบนี้อีกนะคะรีบกลับบ้านเถอะภรรยาพี่จะเป็นห่วง”
หญิงสาวรีบลุกยืนขึ้น เธอพยายามเว้นระยะห่างจากเปรมธวัช น้ำหนึ่งไม่กล้าแม้แต่จะสบตากลัวความรู้สึกจะหวั่นไหว เธอไม่อยากทำอะไรผิดศีลธรรม
“เป็นห่วง...เธอคิดว่าดุจดาวเขาจะเป็นห่วงพี่อย่างนั้นหรือ ทุกวันนี้จะแต่งงานหรือไม่แต่งงานก็ไม่มีอะไรต่างกันพี่ยังคงนอนคนเดียวเขาก็ไปนอนกับผู้ชายของเขา”
เปรมธวัชเหมือนกำลังจะพูดอะไรต่อแต่เมื่อเขารู้สึกตัวว่าเขาไม่ควรพูดเรื่องนั้นออกมาเขาก็เลือกที่จะเงียบและคว้ากระเป๋าเดินออกจากคอนโดไปโดยไม่แม้แต่จะหันมามองหญิงสาวที่กำลังยืนสับสนกับคำพูดของเขาด้วยความแปลกใจว่าเปรมธวัชหมายถึงอะไรกันความสัมพันธ์หลังการแต่งงานระหว่างเปรมธวัชกับดุจดาวไม่ได้เป็นเหมือนคู่อื่น ๆ หรือน้ำหนึ่งได้แต่เก็บความสงสัยไว้ในใจ
ดิวครอบครัวของเธอรู้จักกับครอบครัวของเปรมธวัชดีถึงแม้จะไม่ได้สนิทสนมอะไรกันมากแต่น้ำหนึ่งคิดว่าเพื่อนคงสามารถหาคำตอบได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับครอบครัวหลังการแต่งงานระหว่างเปรมธวัชกับดุจดาว
“เรื่องนี้ฉันก็พอรู้มาสักพักนะแต่ก็ไม่กล้าถามอะไรคุณพ่อมากเพราะกลัวว่าท่านจะสงสัย”
ดิวรับรู้เรื่องราวชีวิตหลังแต่งงานของเปรมธวัชจากปากของบิดามาบ้างว่าตอนนี้ทั้งคู่มีความสัมพันธ์กันที่ไม่ปกติเพราะดุจดาวเองมีคนรักอยู่แล้วเป็นหนุ่มรุ่นน้องอายุน้อยที่มีฐานะไม่ค่อยสู้ดีและเคยทำงานในบาร์ผู้ชายมาก่อนครอบครัวของเธอจึงบังคับให้เธอแต่งงานกับเปรมธวัชเพื่อหวังจะแยกทั้งคู่ออกจากกันแต่กลายเป็นว่าเมื่อดุจดาวแต่งงานและย้ายออกมาอยู่บ้านกับเปรมธวัชกลับใช้เวลาเกือบทั้งหมดอยู่กับชายหนุ่มรุ่นน้องมากกว่าตอนที่อยู่บ้านตัวเองเสียอีก
“พ่อของเธอก็ยังรู้เรื่องนี้แปลว่าคนในสังคมต่างก็รู้กันใช่ไหม”
น้ำหนึ่งมองว่าการที่พ่อของดิวรู้เรื่องนี้ก็น่าจะหมายความว่าคนในสังคมไฮโซก็คงต่างพากันซุบซิบเรื่องชีวิตหลังแต่งงานของเปรมธวัช
“ไม่ใช่หรอกสาเหตุที่พ่อเรารู้เพราะผู้ชายคนนั้นก็เคยทำงานอยู่ที่ร้านและคุณดุจดาวเองก็เคยมาที่นี่อยู่บ่อย ๆ แต่หลังจากแต่งงานทั้งคู่ก็ไม่ได้มากินข้าวที่ร้านของเราเลยถึงไม่มีโอกาสได้เห็นแต่ผู้ชายคนนั้นนับถือพ่อของเรามากก็มักจะเล่าเรื่องราวชีวิตของเขากับคุณดุจดาวให้ฟังที่เรามาบอกเธอนี่ก็ถือว่าเป็นการก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของเขาแต่เราแค่อยากให้เธอได้รู้ความจริงว่าพี่เปรมไม่ได้มีความสุขอย่างที่เธอคิด”
น้ำหนึ่งเมื่อได้ฟังเพื่อนบอกทุกอย่างเธอเริ่มสับสนภายในหัวใจเธอไม่รู้เหมือนกันว่าสิ่งที่ตัดสินใจทำไปทุกอย่างมันผิดหรือถูกเธอแค่หวังให้เปรมธวัชได้แต่งงานกับผู้หญิงที่คู่ควรเพื่อทำให้พ่อแม่ของเขามีความสุขและเขาเองก็จะได้มีหน้ามีตาในสังคมดีกว่าการที่ต้องอยู่กินกับเธอซึ่งเป็นเพียงสาวน้อยบ้านแตกที่ไม่มีแม้แต่สมบัติติดตัวสักชิ้นแต่เมื่อในเวลานี้เธอกำลังรู้ว่าชายหนุ่มไม่ได้มีความสุขหลังจากการแต่งงานหัวใจของเธอเริ่มหวั่นไหวเธออยากได้ผู้ชายที่เธอรักคืน
