ตอนที่ 5.2
ตอนที่ 5.2
เวลานี้เขากำลังกอดอกแล้วทอดสายตามองคนตรงหน้าอย่างเอาจริงเอาจัง ทั้งที่ไม่เคยรู้จักกันเป็นการส่วนตัว แต่เขาทำเหมือนกับว่าโกรธแค้นกันมาแต่ชาติปางก่อนเลยอย่างไรอย่างนั้น
“ญา ไปซื้อข้าวกันเถอะ”
แตงกวาที่นั่งมองสถานการณ์อันแสนจะน่าอึดอัดนั้นอยู่สักพัก จึงตัดสินใจพาเพื่อนสาวของตนออกมา ก่อนที่จะบานปลายกันไปมากกว่านี้
เมื่อเดินออกมาจนลับสายตาจากกลุ่มคน ญาณินก็ไม่คิดที่จะเก็บอาการอีกต่อไปแล้ว...
“ฉันไปทำอะไรให้เขาอะ ถึงได้มองกันด้วยสายตาแบบนั้น ตั้งแต่ฉันเดินเข้ามา เขาก็มองฉันตั้งแต่หัวจดเท้า แกก็เห็น”
“ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ปกติพี่เขาก็ไม่ได้เป็นแบบนี้นะ แต่ฉันก็ไม่ได้สนิท พี่นอร์ทเขาก็คงเป็นแบบนี้กับทุกคนแหละ แกอย่าคิดมากเลย”
“เขาจงใจจะหาเรื่องฉันชัด ๆ เลย คนอะไรไม่เคยรู้จักกันมาก่อนแต่กลับมองกันด้วยสายตาแบบนั้น คิดแล้วก็โมโหไม่หาย”
ทั้งที่เป็นการพบเจอกันครั้งแรก แต่หญิงสาวกลับรู้สึกคับข้องใจกับอีกฝ่ายเป็นอย่างมาก ซ้ำยังหมายหัวนอร์ทเอาไว้ว่าคงจะไม่มีทางญาติดีกันง่าย ๆ อย่างแน่นอน
“อย่าโมโหสิ แกก็เฉย ๆ ไปก่อน ไปซื้อข้าวกันเถอะ”
ญาณินไม่ได้คัดค้านอะไร เธอยอมเงียบเฉยตามที่แตงกวาบอกเอาไว้ ก่อนที่จะทั้งสองจะพากันซื้อข้าวกลางวันแล้วพากันกลับมานั่งโต๊ะเดิม
แต่ทว่าถึงจะแบบนั้น อีกฝ่ายก็ยังคงเป็นเหมือนเดิม ซึ่งเธอไม่พอใจเอามาก ๆ จนถึงขนาดที่ไม่อยากจะนั่งรวมโต๊ะกับนอร์ทเลยด้วยซ้ำ แต่เพราะยังอยากให้เกียรติแตงกวาแล้วก็แฟนหนุ่มของเธออยู่
ญาณินจึงพยายามเก็บอาการขุ่นมัวเหล่านั้นเอาไว้ให้ได้มากที่สุด ไม่แสดงออกให้พวกเขารู้ถึงความไม่พอใจของเธอออกไปอีกซ้ำเป็นครั้งที่สอง...
ตลอดเวลาที่พวกเขานั่งรับประทานอาหารกลางวันด้วยกัน นอร์ทก็มักจะมองหญิงสาวด้วยสายตาเย็นชาอยู่อย่างนั้น
ซึ่งญาณินเองก็สังเกตเห็นสายตาคู่นั้นอยู่ตลอดเวลาเช่นเดียวกัน เธอพยายามที่จะไม่ให้ความสนใจแก่เขาแล้ว แต่ทว่าก็อดไม่ได้อยู่ดี
“แตงกวา ถ้าแกยังไม่กลับคณะ ก็อยู่ไปนะ ฉันกลับก่อนดีกว่า อยู่นานกว่านี้ไม่ไหวแล้วจริง ๆ” หญิงสาวเจ้าของใบหน้าสวยเอนตัวเข้าหาเพื่อนสนิทพร้อมกับเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงเบาบาง ก่อนจะแสดงออกทางสีหน้าว่ากำลังไม่พอใจกับสถานการณ์ในตอนนี้เป็นอย่างมาก
“ไม่เป็นไร ฉันก็ว่าจะกลับแล้วเหมือนกัน”
“อืม”
“พี่ ๆ คะ พวกหนูต้องกลับไปเรียนแล้ว ไว้เจอกันคราวหน้านะคะ”
“อ้าว กลับแล้วเหรอ ให้พี่ไปส่งไหม” แฟนหนุ่มของแตงกวาได้ยินเช่นนั้นก็รีบออกปากว่าจะไปส่งทันที หากแต่สองสาวกลับปฏิเสธ ให้เหตุผลว่าเกรงใจ แล้วหลังจากนั้นก็ขอตัวออกมาจากโรงอาหารคณะวิศวะฯ อย่างรวดเร็ว
“ญา...ขอโทษนะที่พามาเจออะไรแบบนั้นน่ะ”
ทันทีที่พวกเธอพ้นจากโรงอาหาร แตงกวาก็รีบกล่าวขอโทษ ญาณินอย่างทันควัน เธอแอบรู้สึกผิด เพราะเป็นคนที่ชวนญาณินมาเอง แต่ก็ไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะมาถูกรุ่นพี่คุกคามกันด้วยสายตาเช่นนั้น
“ช่างมันเถอะ เอาเป็นว่า ฉันกับเขาไม่มีทางญาติดีกันง่าย ๆ แค่นั้นแหละ คนบ้าอะไร เจอกันครั้งแรก ก็ทำเหมือนว่าฉันไปทำอะไรให้ไม่พอใจ”
“แล้วแกแน่ใจเหรอว่าไม่เคยเจอพี่นอร์ทเขามาก่อนเลย”
“ไม่เคยนะ แค่ชื่อเขาฉันก็เพิ่งมารู้เมื่อกี้นี้เอง จะให้รู้จักกันมาก่อนได้ยังไง อีกอย่างนะถึงรู้จักกันมาก่อน เขาก็ไม่ควรมองฉันแล้วก็ทำกิริยาแบบนั้นใส่ฉัน บอกตามตรงว่าหัวเสียสุด ๆ ไปเลย
ถ้าไม่ติดว่าแกกับแฟนแกอยู่นะ ฉันคงถือวิสาสะเดินหนีออกมาแล้วล่ะ”
ทั้งที่ออกมาแล้ว แต่แค่พูดถึงญาณินก็ยังรู้สึกหัวเสียไม่หาย เธอยืนยันว่าไม่เคยรู้จักกับนอร์ทเป็นการส่วนตัวมาก่อน ไม่ว่าแตงกวาจะถามอีกสักกี่รอบ เธอก็ยังคงตอบแบบเดิม
“เอาเถอะ ต่อไปก็เลี่ยง ๆ พี่เขาหน่อยก็แล้วกัน ฉันเองก็คงจะไม่พาแกไปแล้วแหละ อึดอัดน่าดู แกก็อย่าคิดมากเลยนะ ยังไงก็อยู่กันคนละคณะอยู่แล้ว คงไม่ได้เจอกันบ่อย ๆ หรอก”
“อืม แต่ฉันบอกเลยนะว่าจะไม่มีทางยุ่งกับผู้ชายคนนี้เด็ดขาด ขอแค่อย่ามายุ่งกับฉันก่อนก็พอ” ญาณินพูดตอบด้วยเนื้อเสียงที่เต็มไปด้วยความหงุดหงิด ครั้งนี้เธอหมายหัวนอร์ทเอาไว้เลยว่าจะไม่มีทางยุ่งเกี่ยวกันเป็นอันขาด
อันที่จริงเธอเองก็ไม่ใช่คนเรื่องมากหรือว่ามีปัญหาอะไรมากมาย เห็นนิ่งเงียบแบบนี้ เมื่อไหร่ก็ตามที่ถูกหาเรื่องก่อนเธอก็มักจะสู้กลับ แต่รอบนี้ญาณินเพียงแค่ต้องการให้เกียรติคนอื่น ๆ ที่นั่งร่วมโต๊ะอาหารอยู่ก็เท่านั้น
ถ้าหากไม่มีคนอื่นอยู่ด้วยเธอก็คงจะฉีกหน้านอร์ทกลับไปแล้ว ไม่ปล่อยให้เขามองตนด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยามเช่นนั้นจนกินข้าวกันเสร็จเรียบร้อยแน่ ๆ
“เอาน่า กลับไปเรียนกันดีกว่า คิดมากก็ปวดหัวเปล่า ๆ”
“อย่าให้เจออีกนะ จะมองกลับให้ลูกตาหลุดไปข้างหนึ่งเลย”
“ใจเย็น ๆ ไปเรียนกันเถอะญา”
แตงกวาถึงกับต้องลูบหน้าอกเพื่อนสาวอย่างเบามือ หวังให้เธอใจเย็นลง ไม่ใช่ว่าไม่เข้าใจ แต่ตัวของนอร์ทเองก็ไม่ได้แสดงออกมามากไปกว่าการใช้สายตาในการลอบมอง เธอยังตัดสินไม่ได้ว่าทุกอย่างที่เขาทำมันมีที่มาจากอะไรก็แค่นั้นเอง...
