8. ดวงช่างสมพงศ์กัน
“ดูแลไปคนเดียวก่อนนะ ฉันขอไปเข้าห้องน้ำแป๊บหนึ่ง…”
วนาลี กระซิบบอกดวงเดือนก่อนจะเดินออกไป
นรา กำลังเดินเคียงคู่มากับโชคชัยและวิภา ทั้งสามคนเดินไปที่โต๊ะเพื่อเขียนคำอวยพร
“ขอบคุณค่ะ รับของชำร่วยด้วยค่ะ”
ดวงเดือน กล่าวขอบคุณวิภา พร้อมกับยื่นของชำร่วยให้ด้วย แต่พอถึงคราวที่จะยื่นของชำร่วยให้แก่นรานั้น ดวงเดือนก็ชะงักเล็กน้อยเมื่อเห็นอีกฝ่ายจ้องหน้าเธอแล้วยิ้มกรุ้มกริ่ม
“จำผมได้ไหมครับ…”
นรา ถามด้วยน้ำเสียงที่บังคับให้ทุ้มกว่าปกติ เขาไม่นึกเลยว่าจะมาเจอสาวน้อยที่ถูกใจอีกครั้งอยู่ที่นี่ หรือว่าจะเป็นบุพเพสันนิวาสกันหนอเจ้านราเอ๋ย เขารำพึงอยู่ในอกอันเต้นระทึกครึกโครมด้วยความตื่นเต้น
นรา หันไปบอกให้พี่สาวกับพี่เขย เข้าไปในงานก่อน ส่วนเขาขอรอเพื่อนอยู่ข้างนอก แต่แท้จริงแล้ว เขากำลังคิดหาวิธีทำความรู้จักกับสาวน้อยที่ถูกตาต้องใจอยู่นั่นเอง
เขาจะไม่ยอมปล่อยโอกาสให้หลุดลอยไป
“คุณ….”
ดวงเดือน รู้สึกเขินกับแววตาเจ้าชู้ของหนุ่มหล่อหน้าตาออกฝรั่งแต่พูดไทยชัดเจนตรงหน้า ที่ยืนจ้องหน้าหล่อนอยู่ขณะนี้
“ผมขอแนะนำตัวได้ไหมครับ..ดูจากหน้าตาของคุณแล้วเนี่ย...ผมขอใช้คำแทนตัวว่าพี่นะครับ”
นรา เริ่มมีความกล้ามากขึ้นเมื่อดวงเดือนตอบรับไมตรีเขาด้วยการพยักหน้ายิ้มน้อย ๆ
“พี่ชื่อนรา.. เป็นเพื่อนกับเจ้าบ่าว นายกิตติน่ะครับ”
“เอ้อ..ดิฉันเป็นเพื่อนกับน้องสาวของพี่กัลยา เจ้าสาวในงานนี้ค่ะ”
“น้องชื่อ..เดือนใช่ไหมครับ”
นรา รีบสร้างความสนิทสนมทันทีที่อีกฝ่ายเปิดโอกาส
“เอ๊ะ…รู้จักชื่อเดือนด้วยหรือคะ”
ดวงเดือนมีแววตาแสดงความประหลาดใจ
“พี่ได้ยินเพื่อนน้องเดือนเรียกน่ะครับ…ที่ร้านวีอาร์สตูดิโอไงครับ ” เขาทวนความจำให้หล่อน
“อ๋อ..ค่ะ…”
ดวงเดือน พยักหน้าเขิน ๆ นรามองเห็นความน่ารักของเธอทุกอิริยาบถ
ระหว่างนั้นมีแขกทยอยเข้ามาเขียนคำอวยพรและรับของชำร่วย นราจึงเดินถอยออกไปอยู่อีกมุมหนึ่ง แต่สายตาคอยมองดวงเดือนอยู่ห่าง ๆ สลับกับมองหาเพื่อนที่อยู่ด้านใน
“เฮ้ย…พวกนาย..มานี่ให้หมดเลย”
นรา รีบกวักมือเรียก เมื่อเห็นบรรดาเพื่อนซี้กำลังเดินอยู่แถวนั้น บัญชา กับประภาส เดินยิ้มคู่กันมาหานรา
“ข้าจะชี้ให้พวกนายดูคนที่ข้าปิ๊ง…”
นรา รีบบอกอย่างตื่นเต้นเมื่อสองหนุ่มเดินมาใกล้
“ตอนเรียนก็เห็นแกปิ๊งผู้หญิงเกือบทั้งมหาลัย คราวนี้ ไปปิ๊งใครอีกล่ะ”
ประภาส ถามแบบเซ็ง ๆ ไม่ค่อยจะตื่นเต้นด้วย
“แต่คนนี้ของจริงโว้ยเพื่อน…เคยเจอครั้งหนึ่งแล้ว นี่ก็มาเจออีก สงสัยจะเนื้อคู่กันว่ะ”
“โห..คิดไปไกลเลยเอ็ง…ไหนคนไหนจะช่วยดูให้”
บัญชา พูดเหมือนผู้เชี่ยวชาญในการดูหญิง
“นั่นไง..ใส่ชุดสีชมพูนั่งแจกของชำร่วยที่โต๊ะ…เป็นไงน่ารักจนพูดไม่ออกเลย ใช่ป่ะ”
“แกตาแหลมคมดีมากนรา…เด็กนั่นหน้าใสไร้จริตท่าทางคงจะเรียนยังไม่จบ” ประภาส วิจารณ์ยิ้ม ๆ
“นั่นน่ะสิ…ไม่รู้เรียนจบชั้นประถมหรือยัง ไปขอดูบัตรประชาชนก่อนจีบนะโว้ย ประเดี๋ยวจะโดนข้อหาพรากผู้เยาว์” บัญชา ช่วยผสมโรงแหย่นราอีกแรง
“พวกนายนี่ปากอัปมงคลจริง ๆ ทั้งที่วันนี้เป็นวันมงคลแท้ ๆ” นราต่อว่าเพื่อนด้วยรอยยิ้ม
“เฮ้ย ๆ ข้าก็มีนางในฝันแล้วว่ะ… ดูสิ..นั่น สวยกว่าเด็กของเอ็ง…”
บัญชา มีน้ำเสียงตื่นเต้นขึ้นมาจนเพื่อน ๆ หูผึ่ง
“คนไหนวะ”
นรา อยากรู้เต็มแก่ เพราะนาน ๆ ทีปีหน บัญชาจะรู้สึกปิ๊งผู้หญิงสักคนจนเพื่อน ๆ ไม่แน่ใจว่าเขาจะชอบไม้ป่าเดียวกันหรือเปล่า
“นั่นไง…ที่กำลังเดินไปหากิ๊กของเอ็งที่โต๊ะ”
บัญชา กระซิบบอกเมื่อเห็นวนาลี ในชุดแสกสีฟ้ากำลังเดินไปนั่งกับดวงเดือน
“เฮ้ย…บัญชาตาถึงว่ะ..ฉันก็ว่าน้องชุดสีฟ้านั่นสวยใช้ได้ทีเดียว..” ประภาสพยักหน้าเห็นด้วย
นราเริ่มละสายตาจากดวงเดือน ไปมองผู้หญิงที่เพื่อนทั้งสองกำลังชื่นชมบ้าง เขามองหล่อนแวบแรกก็รู้สึกถึงรัศมีความเด่นของเจ้าหล่อน ที่สวยสะดุดตาทั้งทรงผมและชุดที่ช่วยให้รูปร่างของคนที่สวมใส่ดูมีสัดส่วนชวนมอง
“เป็นไง ถึงกับตะลึงเลยใช่ไหมวะนรา เอ็งห้ามเปลี่ยนใจมาชอบคนนี้นะโว้ย ของเอ็ง..เด็กหน้าใสวัยประถมโน่น…”
บัญชา รีบติงทันทีเมื่อเห็นนราจ้องหญิงสาวที่ตนสนใจชนิดตาไม่กะพริบ
“ข้าขอเดินไปมองใกล้ ๆ ก่อนนะ เพื่อ..ความมั่นใจ…”
นรา พูดเหมือนละเมอพร้อมกับเดินสาวเท้าไปยังสองสาวที่อยู่ไม่ไกลนัก เขารู้สึกสังหรณ์ใจว่าผู้หญิงชุดสีฟ้าที่บัญชาสนใจนั้น จะเป็นผู้หญิงที่เขารู้จักมาก่อน แต่ด้วยการแต่งเนื้อแต่งตัวที่ดูสวยผิดไปจากที่เคยเห็นเขาจึงต้องเข้าไปดูใกล้ ๆ เพื่อให้เกิดความแน่ใจเสียก่อน
“ว่าแล้วเชียว..ต้องเป็นยัยนี่แหง ๆ…ทำไมโลกถึงได้กลมบ๊อกเป็นลูกฟุตบอลแบบนี้วะ”
นรา พึมพำกับตัวเองเมื่อเห็นใบหน้าของสาวชุดสีฟ้าชัดเจน
“อุ๊ย…พี่นรา..ยังไม่เข้าไปข้างในหรือคะ”
ดวงเดือน เป็นฝ่ายทักนรา เมื่อเห็นเขาเดินตรงเข้ามาแล้วชะงักไป นราสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะรีบฉีกยิ้มกว้างให้ดวงเดือน อย่างไม่สนใจเพื่อนของหล่อนที่กำลังยุ่งอยู่กับการแจกของชำร่วยให้แขก
“เอ้อ..คือพี่ลืมไปว่ายังไม่ได้ให้นามบัตรน้องเดือน”
นรา คิดออกขึ้นมาทันที พร้อมกับทำท่าล้วงนามบัตรในกระเป๋าเสื้อ
“ไหนคะ..นามบัตร”
ดวงเดือน ยิ้มให้ รู้สึกถูกชะตากับนราอย่างบอกไม่ถูก
“สงสัยจะอยู่ในรถ…พอดีว่าเพื่อนพี่กำลังจะเปิดรับสมัครงาน เผื่อน้องเดือนสนใจน่ะครับ”
“อุ๊ย…จริงหรือคะ..เดือนกับเพื่อน ๆ ก็เพิ่งเรียนจบกำลังหางานพอดีเลยค่ะ”
ดวงเดือน มีสีหน้าตื่นเต้น นราจึงเหมือนเดินมาถูกทางเริ่มมองเห็นเส้นทางที่โรยด้วยกลีบกุหลาบอยู่รำไร
