บท
ตั้งค่า

6. ปิ๊งเพื่อนสาวคู่อริ

“โรคอิจฉากำเริบอีกแล้วไอ้นี่ มึงก็หาเมียให้รวยกว่ากูสิวะ…ไอ้คนมีปมด้อย” กิตติด่า เพื่อนยิ้ม ๆ

“เพื่อน ๆ ของแม่ข้า มีลูกมีผัวไปหมดแล้วว่ะ..แล้วรสนิยมของข้าก็ชอบเด็กเอ๊าะ ๆ โว้ย..แล้วที่วันนี้รถเต่าของข้ามีอันต้องแอร์ดับไปเสียเฉย ๆ เพราะหมั่นไส้เจ้าบ่าวหมาวัด แต่ริเด็ดดอกฟ้า ก็เลยแกล้งไม่ทำความเย็นซะอย่างงั้น ต้องไขกระจกรถวิ่ง ใช้ลมเย็นจากธรรมชาติแทน” บัญชา เป็นคนพูด

“โคตรธรรมชาติเลย กูทั้งเหม็นควันรถ ทั้งเหม็นกลิ่นพี่เต่าของมึง จนจะอ้วกอยู่แล้วเนี่ย”

กิตติ บ่นจบก็เดินเข้าห้องน้ำไปทันที

“ดูมัน…แค่นี้ไม่มีความอดทน…แล้วอย่างนี้จะเป็นผัว เอ๊ย เป็นสามีที่ดีอยู่ในโอวาทของผู้สูงวัยกว่าอย่างพี่กัลยาได้นานแค่ไหนวะ”

บัญชา ตะโกนแขวะไล่หลัง พร้อมเสียงหัวเราะของเพื่อนที่เหลือ

“เออ...กูจะคอยดูเมียมึงว่าจะแก่กว่าเมียกูกี่ปี ไอ้ปากเสีย แต่กูขอแช่งให้ได้รุ่นยายกูนะโว้ย”

อีกฝ่ายก็ตะโกนตอบออกมาจากในห้องน้ำชนิดไม่ลดราวาศอกเช่นกัน

วิภา ฟังการตอบโต้ของเพื่อน ๆ น้องชายแล้วก็ได้แต่อมยิ้ม หล่อนรู้จักว่าที่ภรรยาของกิตติจากสื่อต่าง ๆ ที่กัลยามักจะออกงานสังคม

ภาพของกัลยา คือสาวสังคมแต่งตัวหรูหราประดับประดาด้วยเพชรนิลจินดา แต่วิภา มารู้จักตัวจริงของกัลยา เมื่อวันที่กิตติ พากัลยา มาแจกการ์ดแต่งงานที่บ้าน ซึ่งวิภา เห็นว่ากัลยา เป็นคนที่มีมนุษยสัมพันธ์ดี กัลยา อยู่ในวัยเดียวกับวิภาจึงพูดคุยกันอย่างสนิทสนม และกัลยา ก็เป็นคนแนะนำให้วิภา ไปตัดชุดที่ร้านวีอาร์สตูดิโอด้วย

“รถบัญชาก็แอร์เสียเครื่องดับ แล้วเธอยังจะยืมรถคันนี้ไปรับชุดให้พี่อีกหรือนรา”

วิภายังกังวลเรื่องรับชุดที่จะใส่ไปงานแต่งงานของกิตติ

“รับรองผมไปรับชุดให้พี่วิในวันพรุ่งนี้ได้แน่นอน” นรา รับปาก ทำให้วิภายิ้มออกมาได้

..................

ดวงเดือน มาถึงที่ร้านวีอาร์สตูดิโอ เป็นคนแรก เธอจึงได้ลองชุดก่อน โดยมีเจ้าของร้านเป็นสาวประเภทสองคอยให้บริการอย่างใกล้ชิด

ชุดที่ดวงเดือนลองเป็นชุดสำหรับงานเลี้ยงกลางคืน สีชมพูอ่อน ซึ่งเป็นสีที่ดวงเดือนชื่นชอบเป็นพิเศษ เป็นแบบเปลือยไหล่ช่วยขับผิวที่นวลเนียนของเธอให้ดูโดดเด่นและชวนมองมากขึ้น

“อุ๊ย! ใช่ชุดนี้แล้วขึ้นจริง ๆ ค่ะคุณน้องขา…แต่ถ้าวันงานเปลี่ยนแว่นตาเป็นคอนแท็คเลนส์จะดูดีกว่านี้มาก..แล้วก็อย่าถักผมเปียแบบนี้นะฮ้า มันจะดูเป็นเด็กกะโปโลไม่เหมาะกับชุดนี้ค้า…”

ดวงเดือน ฟังคำแนะนำของเจ้าของร้านแล้วก็ได้แต่ยิ้มรับ หล่อนเดินออกมาที่มุมรับแขกด้านหน้าเพื่อจะดูว่าเพื่อน ๆ มากันหรือยัง แต่ระหว่างที่กำลังกวาดสายตามองหาเพื่อนอยู่นั้นก็ไปสะดุดตาเข้าอย่างจังกับชายหนุ่มหน้าฝรั่งที่นั่งยิ้มน้อย ยิ้มใหญ่อยู่ตรงมุมรับแขกภายในร้าน เขากำลังส่งสายตาหวานฉ่ำมองมาที่เธอเช่นกัน

ดวงเดือน รีบหลบตา มาทางเจ้าของร้าน ก่อนจะยิ้มขวยเขินและขอไปเปลี่ยนชุดเป็นชุดเดิม

นรา เผลอจ้องมองความน่ารักสดใสของสาวน้อยที่ลองชุดเปลือยไหล่ตามประสาชายหนุ่มที่เห็นสาวสวยแล้วรู้สึกเบิกบานใจ เขากำลังรอชุดที่พี่สาวสั่งให้มารับแทน แต่เผอิญว่ามีปัญหาสลับกับลูกค้ารายอื่นอยู่ ทางร้านจึงขอให้เขานั่งรอสักครู่ก่อน เพื่อรอลูกค้าที่รับชุดผิดไปนำมาคืนที่ร้าน ซึ่งปกติ ถ้าเป็นการนั่งรอที่ยาวนาน นรามักจะอึดอัดและอาจจะโวยวายตามนิสัย

แต่คราวนี้เขากลับสงบและใจเย็นลงได้ นั่นก็เพราะมีสาวน้อยคนเมื่อสักครู่นี้ ผ่านมาให้เขาชื่นชมเป็นอาหารตา ทำให้การรอคอยที่น่าเบื่อกลับเป็นสิ่งที่น่ารื่นรมย์ไปเสียได้

“รออีกสักครู่นะฮ้า…ไม่เกินสิบห้านาทีก็จะได้ชุดของคุณวิภาแล้วฮ้า…”

เจ้าของร้านที่มีกิริยาหญิงในร่างชาย เดินเข้ามาส่งสายตาหวานเชื่อม บอกนรา

“ไม่ต้องรีบนะครับ…ผมรอได้..”

ปากพูดกับเจ้าของร้าน แต่สายตาคอยมองหาสาวน้อยผมถักเปียใส่แว่น ที่ดูน่ารักเหมือนตุ๊กตาคนนั้นว่าจะออกมาให้เห็นอีกหรือไม่ และแล้วเจ้าหล่อนก็เดินออกมาในชุดเสื้อแขนกุดมีระบายสีขาว กระโปรงบานพลิ้วสีโอโรส เข้ากับรูปร่างสมส่วน ดวงตากลมใสคู่นั้นมีเสน่ห์สำหรับนราไม่น้อยไปกว่าส่วนอื่น แต่เมื่อเห็นว่าหล่อนกำลังจะเดินมา นราก็รีบหยิบหนังสือขึ้นมาทำท่าเปิดอ่าน แต่หางตามีแอบชำเลืองมอง จึงเห็นว่าสาวน้อยคนนั้นกำลังนั่งลงบนโซฟาที่อยู่ตรงข้ามกับที่นรานั่งนี่เอง

นรา ทำทีละลายตาจากหนังสือเงยหน้าไปพยักหน้าส่งสายตาทักทายพร้อมรอยยิ้มหวังเชื่อมสัมพันธ์ และเขาก็ไม่ผิดหวังเมื่อฝ่ายนั้นพยักหน้าน้อย ๆ ยิ้มหวานกลับมา

เมื่อสาวน้อยส่งยิ้มตอบรับไมตรีเช่นนั้น นราก็เริ่มคิดหาวิธีที่จะทำความรู้จักกับหล่อนให้ได้ แต่จนแล้วจนรอดก็ยังนึกไม่ออกว่าจะเอ่ยปากทักทายอย่างไรดี

เขาเคยดูละครตอนพระเอกตามจีบนางเอก โดยแกล้งเดินไปชนแล้วก็ช่วยเก็บของที่หล่นพื้น แต่พระเอกมัวแต่จ้องหน้านางเอกเพลินก็เลยเผลอไปจับมือนางเอกเข้า แต่จะใช้วิธีน้ำเน่าแบบในละคร ด้วยการลุกขึ้นแล้วแกล้งเดินชนหล่อนอย่างคนซุ่มซ่ามคงได้โดนตบฟันร่วงเสียก่อนที่จะได้สานสัมพันธ์

นรา คิดมาถึงตรงนี้ก็ให้รู้สึกเสียวที่ฟันขึ้นมา ก็เลยคิดวิธีใหม่ที่ไม่น้ำเน่า

“เอ้อ…คุณครับ…”

นรา ตัดสินใจใช้ความกล้าหน้าด้าน โพล่งออกไป แต่เหมือนสาวเจ้าจะไม่ได้ยินเสียงของเขาเอาเสียเลย เนื่องจากมีเสียงแหลมเล็กดังขึ้นมาแทรกพร้อมกับประโยคที่เขาพูดขึ้นมาพอดิบพอดี ราวกับนัดไว้

“เดือน!.”

เสียงเรียกชื่อนั้น ทำให้สาวน้อยตรงหน้านรา ถึงกับสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนที่จะยกมือทักทายพร้อมกับยิ้มรับกับใครสักคนที่กำลังเดินมาจากทางประตูหน้าร้าน ที่อยู่ด้านหลังของนรา รอยยิ้มของเธอช่างน่ารักสดใสเสียนี่กระไร ทำให้นรารีบบันทึกชื่อของเธอเก็บไว้ในความทรงจำทันที

“นี่ยัยเดือน นั่งอยู่ตรงนี้นานแค่ไหนแล้ว”

น้ำเสียงคุ้นหู และฟังดูเข้มงวดเหมือนเป็นผู้ปกครองของคนชื่อเดือน ที่ดังมาจากข้างหลังนรา ทำให้นราอดหันไปมองไม่ได้

แต่แล้ว…เขาก็ชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะรีบหันขวับกลับมาทำหน้ามึนงงเหมือนถูกอะไรสักอย่างทุบที่ศีรษะจนรู้สึกเบลอ แล้วเห็นเป็นภาพนางปีศาจร้ายที่กำลังจ้องหน้าเขาเขม็ง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel