15. บังเอิญหรือตั้งใจ
“ว่าไง…เธอจะรับปากฉันได้ไหม”
วนาลี คาดคั้นจะเอาคำตอบให้ได้
“จะไปบังคับเพื่อนได้ยังไงยัยลี…เรานี่ชักจะไม่มีเหตุผลขึ้นทุกที..ก็พ่อนราเขาฝากงานให้หนูเดือน แล้วจะไม่ให้เขาคบหาพูดจากับคนที่มีบุญคุณได้ยังไง”
กาบแก้ว ต่อว่าลูกสาว
“ก็ไม่ต้องไปทำสิ…ให้พี่กันฝากยัยเดือนทำที่เดียวกับพวกเราก็ได้” วนาลี ยังดึงดัน
“เอ้อ…ลีก็รู้นี่จ๊ะว่าเราใฝ่ฝันที่จะเป็นบรรณาธิการหนังสือ แล้วตอนนี้เรากำลังจะได้เข้าไปใกล้กับความฝันแล้ว ให้เราทำที่นิตยสารนั่นเถอะนะ”
ดวงเดือน มีท่าทางน่าสงสารแต่วนาลีแกล้งมองเมินไปทางอื่น
“นั่นน่ะสิยัยลี…บาปนะทำให้เพื่อนผิดหวังกับอาชีพในฝัน” นับพร พูดเสริม
“ก็ได้ ก็ด้าย..แต่อย่าตอบแทนผู้มีพระคุณด้วยการยอมเป็นแฟนด้วยล่ะ”
ดวงเดือน ยิ้มออกมาได้ ที่วนาลียอมรับฟังเหตุผล
หล่อนจึงรีบรับปากไว้ก่อนทั้งที่ในใจนั้นไม่รู้ว่าจะทำได้หรือไม่ แต่ดวงเดือนก็ยังมีหวังว่าสักวันหนึ่งจะประสานรอยร้าวให้วนาลีเข้าใจกับนรา ให้ได้
ทั้งสี่สาวจึงนัดเลี้ยงฉลองความดีใจที่ทุกคนจะได้ทำงาน และเป็นการรวมตัวครบเซ็ท ก่อนที่เกวลิน จะต้องจากเพื่อน ๆ ไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ
.............
ดวงเดือน ลงจากแท็กซี่ แล้วก็เดินเข้าไปในสวนอาหาร เธอถูกมอบหมายจากเพื่อน ๆ ให้มาจองโต๊ะไว้ก่อนเนื่องจากดวงเดือนอยู่ในละแวกนี้ แต่ระหว่างที่กำลังจะเดินเข้าไปภายในสวนอาหาร ก็มีเสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น ดวงเดือนตื่นเต้นเมื่อเห็นเบอร์ที่โชว์หน้าจอมือถือ
“อุ๊ย...สวัสดีค่ะพี่นรา”
“ยินดีต้อนรับสู่สวนอาหาร ครับน้องเดือน”
เสียงตามสายพูดหยอกเย้าเข้ามา
“เอ๊ะ..พี่นราเดาหรือว่ารู้จริงคะเนี่ยว่าเดือนอยู่ที่ไหน” ดวงเดือนมีน้ำเสียงตื่นเต้น
“ถ้าน้องเดือนใส่เสื้อลายการ์ตูนสีขาว-เหลือง กระโปรงสีขาว ยืนอยู่ตรงป้ายร้านอาหาร ชื่อบ้านสวน น้องเดือนจะว่าพี่เดาหรือรู้จริงล่ะครับ”
คำพูดของนราที่เหมือนกำลังจ้องมองหล่อนอยู่ ทำให้ดวงเดือนรีบหันไปมองรอบตัว หวังจะเห็นหน้าเจ้าของเสียงจากทางมือถือ
“เดินตรงมาเลยครับ…พี่ใส่เสื้อสีแดงแป๊ด เด่นที่สุดแถวนี้”
ดวงเดือน ชะงัก มองตรงไปข้างหน้าก็เห็นนรายกมือโบกไปมาพร้อมส่งยิ้มให้เธออย่างล้อเลียน ดวงเดือนรู้สึกประหม่าแทบจะก้าวขาไม่ออก แต่ก็เดินเข้าไปทางโต๊ะที่มีนรานั่งอยู่
“สวัสดีค่ะพี่นรา…มาที่นี่เหมือนกันหรือคะ”
ดวงเดือนยกมือไหว้ทักทายด้วยท่าทีขวยเขิน
“เหมือนนัดกันไว้เลยใช่ไหม..ก็วันก่อนที่เราคุยโทรศัพท์กันน้องเดือนบอกพี่ว่าจะมาเลี้ยงฉลองกับเพื่อน ๆ ที่นี่..พี่ก็เลยถือโอกาสนัดเพื่อน ๆ มาสังสรรค์ที่นี่เหมือนกัน แต่พี่นิสัยชอบมาก่อนเวลา...เดี๋ยวพวกเพื่อนพี่ก็ตามมาครับ”
“ถ้าอย่างนั้นเดือนขอจองโต๊ะเอาไว้ก่อนนะคะ”
ดวงเดือน ทำท่าจะผละไป แต่นรารีบห้ามไว้ พร้อมกับขอให้ใช้โต๊ะของเขาแทน โดยขอโต๊ะมาต่อเพิ่ม แต่ดวงเดือนดูท่าทางมีกังวล ทำให้นรานึกไปถึงวนาลีอย่างช่วยไม่ได้ คงเป็นเพราะหล่อนที่ทำให้ดวงเดือนมีทีท่าอึดอัดเช่นนั้น เขาจึงคิดที่จะเอาชนะวนาลีให้ได้
“น้องเดือนรังเกียจพี่ขนาดนี้เชียวหรือครับ…พี่ตั้งใจอยากจะร่วมโต๊ะกับเพื่อน ๆ ของน้องเดือนจริง ๆ นะครับ”
ทั้งน้ำเสียงและแววตาของนราทำให้ดวงเดือน ใจอ่อนไม่กล้าปฏิเสธ
“แต่…เอ้อ..เดือนไม่แน่ใจว่า..ยัยลี....”
ดวงเดือน ไม่ทันพูดประโยคต่อไป นราก็รีบชิงพูดขึ้นก่อนว่า
“งั้นเอาไว้ให้เพื่อน ๆ ของน้องเดือนมาถึงแล้วค่อยแยกโต๊ะอีกที ดีไหมครับ”
นราหาทางออกให้ดวงเดือน ทำให้ทั้งคู่ต้องนั่งร่วมโต๊ะกัน ดวงเดือนสั่งเครื่องดื่มเป็นน้ำผลไม้ แล้วก็ขอตัวไปห้องน้ำโดยลืมหยิบมือถือไปด้วย
พอคล้อยหลังดวงเดือนไปได้เพียงไม่กี่นาที ก็มีเสียงสัญญาณมือถือของดวงเดือนดังขึ้น นราได้แต่มองดูเฉย ๆ
จนกระทั่งเสียงเรียกเข้าเงียบไปเอง แต่เพียงไม่นานก็มีเสียงเรียกเข้ามาอีก นราก็ยังทำไม่รู้ไม่ชี้ จนกระทั่งมีครั้งที่สาม
เขาก็ตัดสินใจเอื้อมมือไปหยิบมากดรับแทนเจ้าของมือถือทันที นรา..เป็นฝ่ายที่รอฟังเสียงคนที่โทรมา
“ยัยเดือน..มัวทำอะไรอยู่โทรมาตั้งหลายครั้ง..นี่หล่อนถึงร้านอาหารหรือยัง”
เสียงตามสายที่ช่างคุ้นเคยกับความรู้สึกของนราเหลือเกิน ทำให้เขานิ่งเงียบไป ในใจก็นึกถึงใบหน้าที่บูดบึ้งบอกบุญไม่รับของเจ้าของเสียงไปด้วย
“ยัยเดือน..ได้ยินรึเปล่า..บ้า..รับสายแล้วไม่พูดอยากจะโดนด่ารึไงยะ” เสียงทางโน้นต่อว่ามา
“คุณนี่มันบ้าอำนาจจริง ๆ อย่ามาด่าแฟนผมเชียวนะไม่งั้น คุณโดนดีแน่”
นรา พูดสวนกลับไป เสียงทางโน้นเงียบไปชั่วขณะเหมือนไม่แน่ใจ
“ฮัลโหล..นั่นใครพูด” วนาลี ถามเสียงห้วน
“แล้วคุณจะพูดกับใครล่ะคร้าบ..คุณผู้หญิง..”
นรา ย้อนถามด้วยน้ำเสียงยียวน
“เครื่องนี้เป็นของดวงเดือนใช่ไหมคะ”
วนาลี ถามคนรับสายด้วยความไม่แน่ใจ
“คุณโทรเข้าเครื่องใคร..ก็ของคนนั้นแหละไม่น่าถามอะไรโง่ ๆ เลยนะ”
“นี่…นายเป็นใครบอกมานะ”
วนาลี ตะคอกถาม หล่อนเริ่มคุ้นกับน้ำเสียงนั้นแล้ว
“ทำไมผมต้องบอกคุณด้วย..ไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย...เอาไว้เป็นเมียผมเมื่อไหร่ค่อยถาม”
“เอ๊ะ..คุณ..นี่เสียงเหมือนคนที่ฉันเคยรู้จักนะ..คุณเป็นใครกันแน่” วนาลี คาดคั้น
“เอาไว้ถามแฟนผมดูก็แล้วกัน” นราพูดยั่วหล่อน
“ใคร…แฟนคุณ..”
“ดวงเดือน…”
แล้วนราก็รีบกดสายทิ้งทันที พร้อมกับถือวิสาสะปิดสัญญาณมือถือของดวงเดือนอีกด้วย จากนั้นก็ยกแก้วเบียร์ขึ้นมาจิบอย่างสบายอารมณ์
