16. เดือด
ข้างฝ่ายวนาลี เมื่อสายตัดไปหล่อนก็รีบกดโทรเข้าไปใหม่ทันที แต่ไม่สามารถติดต่อได้ หล่อนจึงมีอาการ มือไม้สั่นจับพวงมาลัยรถแน่นด้วยความโมโห
“ใครรับโทรศัพท์แทนยัยเดือนเหรอ”
นับพรที่นั่งคู่มาด้วยกันเป็นคนถามด้วยความสงสัย
“ฉันไม่แน่ใจ .แต่คิดว่าต้องเป็นอีตาฝรั่งหัวหยิกนั่น คอยดูนะ..ถ้าผลปรากฏว่ายัยเดือนเป็นฝ่ายนัดมันไปที่ร้านอาหารนั่น ฉันจะวีนแหลกเลย”
วนาลีมีแววตาวาววับด้วยความไม่พอใจ
“ใจเย็น ๆ นะลี…ยัยเดือนคงไม่ได้นัดพี่นรานั่นหรอก อาจจะบังเอิญเจอกันก็ได้”
นับพรชักหวาดหวั่นกับความอาฆาตมาตร้ายของเพื่อนที่มีต่อนรา สงสัยชาติที่แล้วจะขู่จองเวรกันไว้เสียกระมัง นับพร นึกอยู่ในใจ
“บังเอิญได้ไง…บังเอิญแล้วอีตานั่นจะรับโทรศัพท์ยัยเดือนเหรอ”
วนาลี หันหน้ามาโวยวาย
“น่า..อย่าเพิ่งหัวร้อน..ตั้งใจขับรถนิดหนึ่งนะจ๊ะเพื่อนจ๋า…ฉันอุตส่าห์เสี่ยงชีวิตกล้านั่งกับมือใหม่หัดขับเพิ่งจะได้ใบขับขี่…เสียวจริงจิ๊ง..รู้อย่างนี้ให้ยัยเกแวะมารับดีกว่า”
คำพูดติดตลกของนับพรทำให้วนาลี ยิ้มขึ้นมาได้บ้าง แต่ภายในใจนั้นร้อนรนอยากจะไปให้ถึงที่นัดหมายโดยเร็ว
ดวงเดือน กลับมานั่งที่โต๊ะแล้ว นรา ยิ้มรับพร้อมกับยื่นเมนูอาหารให้ แต่ดวงเดือน มีท่าทีกังวลใจ คอยแต่จะชะเง้อมองไปที่ทางเข้าหน้าร้านด้วยแววตาที่หวาดระแวง ไม่มีความสุขเพราะเกรงว่า วนาลี จะมาเห็นภาพที่หล่อนกำลังนั่งอยู่สองต่อสองกับนรา ดวงเดือนไม่อยากเห็นภาพการปะทะคารมของนรากับเพื่อนรัก
นรา พอจะอ่านความรู้สึกของดวงเดือน ออก เขาคิดว่าดวงเดือน ควรจะเป็นตัวของตัวเองให้มากกว่านี้ ไม่ใช่กลัวเพื่อนอย่างวนาลี จนลนลานแบบนี้
เขานึกหมั่นไส้วนาลี ขึ้นมาตะหงิด ๆ ที่ดูหล่อนจะมีอิทธิพลต่อเพื่อน ๆ เกินเหตุ เขาเห็นทีจะต้องเข้ามากำจัดอิทธิพลของเจ้าหล่อนเสียแล้ว
นรา สั่งอาหารไปสองสามอย่าง พร้อมกับหาหัวข้อสนทนากับดวงเดือนหวังจะให้หล่อนคลายความวิตกกังวลลง
ในขณะที่ภายในใจของนรา ก็คิดแผนที่จะกีดกันไม่ให้วนาลี ได้พบกับดวงเดือน ในครานี้
เมื่อนึกแผนการออก นรา ก็ขอตัวไปโทรศัพท์หาเพื่อน เขาโทรศัพท์ไปหาบัญชาที่กำลังจะเดินทางมาถึง เขาขอร้องบัญชาให้คอยดักพบวนาลี อยู่ที่หน้าสวนอาหาร แล้วก็คอยกันหล่อนเอาไว้ไม่ให้เข้ามาพบเขากับดวงเดือนด้านใน
นรากลับมานั่งคุยกับดวงเดือน ต่อด้วยท่าทีสบายใจ เขาได้รับรู้ความเป็นมาของดวงเดือน อีกทั้งยังทราบถึงประวัติบางส่วนของวนาลีด้วย
“จริง ๆ แล้ว ลีเป็นคนน่ารักค่ะ เพียงแต่มีปมด้อยเรื่องพ่อก็เลยดูเหมือนแข็งกระด้าง”
ดวงเดือน พยายามพูดให้นราเข้าใจเพื่อนรักของตนเอง
“ถ้าอย่างนั้นเพื่อนน้องเดือนคนนี้ก็น่าสงสารนะครับ”
“ใช่ค่ะ…เดือนจึงอยากให้พี่นราเข้าใจเพื่อนของเดือนมาก ๆ หน่อยค่ะ”
ดวงเดือน ได้โอกาสรีบขอความเห็นใจให้นรา มีความรู้สึกที่ดีต่อวนาลี
“ครับผม…เพื่อน้องเดือนแล้วพี่ทำได้…”
ดวงเดือน ก้มหน้านิ่งด้วยความขวยเขิน เมื่อเจอคำพูดหวาน ๆ ของชายหนุ่มที่ถูกใจ
............
ทางด้านบัญชา เมื่อจอดรถแล้ว ก็เดินเข้าไปยืนอยู่ที่ด้านหน้าของสวนอาหารตามคำสั่งแกมขอร้องของนรา
“ข้าไม่น่ารับปากเอ็งเล้ย ไอ้นราปลาไหลใส่สเก็ต”
บัญชา บ่นเป็นหมีกินผึ้ง เขากะจะเปลี่ยนใจเดินเข้าไปหานรา แต่อีกใจก็ไม่รู้จะทำอย่างไรได้แต่ยืนเก้ ๆ กัง ๆ จนกระทั่งได้ยินเสียงเรียกชื่อเขาจากทางด้านหลัง
“เฮ้ย! บัญชา…นายจะเข้าไปวางระเบิดหรือไง ดูท่าทางมีพิรุธว่ะ”
เสียงประภาส นั่นเอง บัญชาหันไปยกนิ้วชี้ปิดปากตัวเองทำนองให้ประภาสเงียบ ๆ
“อะไรของแกวะ..ฉันล่ะงง..ทำไมไม่เข้าไปหาไอ้นรามัน” ประภาสไม่เข้าใจ
“นรามันกำลังนั่งคุยอยู่กับน้องเดือนขวัญใจมันอยู่ที่โต๊ะข้างในโน่น”
บัญชา ชี้มือประกอบด้วย
“งั้นเราก็เข้าไปสมทบสิ..ไป…”
ประภาส รุนหลังบัญชา แต่อีกฝ่ายขัดขืน
ระหว่างนั้น บัญชา ก็เหลือบตาไปเห็นวนาลีกับนับพรเดินคู่กันมาพอดี
“เฮ้ย…บรรลัยแล้วเอ็ง…ทำไงดีวะ”
บัญชา มีอาการเงอะ ๆ งะ ๆ แต่สักครู่ก็รีบสาวเท้าเข้าไปหาสองสาวทันที โดยไม่ลืมฉุดแขนประภาสตามไปด้วย
“อ้าว…น้องลี..น้องพร..พบกันอีกแล้ว..”
บัญชา ส่งเสียงทักทาย วนาลี เมินหน้าหนีแกล้งไม่ได้ยินเสียง แต่นับพร ยกมือไหว้ทั้งสองหนุ่ม
“นัดน้องเดือนไว้ที่นี่ใช่ไหมครับเนี่ย”
บัญชา แกล้งถามขึ้น วนาลี จ้องหน้าเขาอย่างแปลกใจ
“รู้ได้ไงคะ” วนาลี ถามเสียงเรียบ
“อ๋อ...พอดีว่า.เมื่อตะกี้ พี่เพิ่งเห็นน้องเดือนน่ะสิครับ”
แผนที่ไม่ได้คิดไว้ล่วงหน้าก็ดันคิดออกพอดี
“งั้นก็ขอบคุณค่ะ..ขอตัวไปตามหาเพื่อนนะคะ”
วนาลีบอกพร้อมกับจูงมือนับพรไปหาดวงเดือนข้างใน
“เดี๋ยวสิครับ…พี่ยังพูดไม่จบเลย”
บัญชา รีบท้วงไว้ ทั้งสองสาวชะงักหันมามองหน้ากัน
“คือยังงี้ครับ…น้องเดือนเพิ่งจะออกไปจากร้านเมื่อสักครู่นี้เองครับ…จริงไหมภาส”
บัญชา แอบขยิบตาให้ประภาส อีกฝ่ายใบ้รับประทานไปชั่วคราวเพราะตามไม่ทันแผนการแบบฉุกเฉินกระทันหัน
จนกระทั่งบัญชาใช้ปลายเท้าเขี่ยสะกิดปลายเท้าของประภาสแล้วก็เพิ่มน้ำหนักกดเท้าให้แรงขึ้น คนถูกเหยียบเท้าถึงกับสะดุ้งพร้อมกับเข้าใจสถานการณ์ปั้นเรื่องทันที
“อ๋อ..ใช่ครับ..เห็นน้องเดือนมายืนบ่นว่ามารอตั้งนาน เพื่อนก็ยังไม่มาสักคน ก็เลยกลับไป”
บทประภาส จะพูดก็คล่องจนบัญชาเป็นฝ่ายตามไม่ทัน
“เป็นไปไม่ได้!”
วนาลี พูดเสียงเข้ม จนสองหนุ่มถึงกับสะดุ้งโหยง หันมามองหน้ากันอย่างหวาดหวั่น
