10. ของขวัญพิเศษ
“กว่านายจะจีบน้องเดือนสำเร็จคงสะบักสะบอมน่าดูนราเอ้ย..” ประภาสว่า
“นั่นสิ..ข้าว่างานนี้เอ็งต้องผ่านด่านแม่เสือวนาลีนั่นให้ได้เสียก่อนเถอะ” บัญชาบอก
“ฉันว่านายนรามันเหมาะกับน้องลีมากกว่าน้องเดือนว่ะ..พวกนายว่าจริงไหม”
ประภาส ออกความคิดเห็น
“โอ๊ย..ไม่เอา ต่อให้แผ่นดินสิ้นหญิงที่พึงเชย ข้าขอไม่มีคู่เสียเลยจะดีกว่า ถ้าต้องให้เป็นกิ๊กกับยัยตัวแสบนั่น”
นรา รีบโวยวายทำหน้าเหมือนถูกผีหลอก
“สุภาษิตบทไหนของแกวะ..ฟังดูแปลก ๆ ขัดหูพิลึก” ประภาส หัวเราะ
“ข้าดัดแปลงมาโว้ย”
ทั้งสามหนุ่มเข้าไปในงาน โดยประภาส ขอร้องให้นราอยู่ให้ห่างจากคู่อริ เพื่อป้องกันการทะเลาะมีเรื่องในงานแต่งงานของเพื่อน ทำให้นรา ไม่ได้มีโอกาสเห็นดวงเดือนจนงานเลิก แต่เขาตั้งใจว่าจะโทรศัพท์ไปหาเธอ
.....................
นรา ขับรถกลับบ้านในตอนใกล้เที่ยง วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการทำงานที่เก่า เขาจึงเก็บข้าวของใส่รถกลับบ้าน หวังจะมาพักผ่อนให้เต็มที่ เพื่อเตรียมตัวเป็นพนักงานใหม่กับสำนักงานแห่งใหม่ของพี่เขยที่จะได้ฤกษ์เปิดตัวในอีกไม่กี่วันนี้แล้ว
นรา ขับรถมาถึงหน้าประตูรั้วบ้าน ไม่ทันที่จะได้กดแตรรถเพื่อเรียกให้แน่งน้อยมาเปิดประตูให้ เขาก็เห็นร่างของหญิงวัยกลางคนทำท่าจะทรุดล้มลงตรงหน้าไม่ห่างจากรถของเขานัก นรารีบลงจากรถมาดูทันที
“โอ้..มายก้อด..”
นรา หลุดอุทานตามความเคยชินพร้อมกับวิ่งไปรับร่างของหญิงคนนั้นไว้ ได้ทัน
“อุ๊ย! ยู… ฉัน เอ้อ..ไอ..”
กาบแก้ว ที่กำลังอ่อนระโหยโรยแรงอยู่ในอ้อมแขนของชายแปลกหน้าที่มีหน้าตาเป็นฝรั่งมังค่า จึงไม่รู้ว่าจะสื่อสารอย่างไรให้เขารู้ว่านางกำลังจะเป็นลมเพราะแดดที่ร้อนแรงในวันนี้
“คุณป้าครับ..ผมพูดไทย ผมเป็นคนไทยครับ”
นรา รีบบอกด้วยสีหน้าอมยิ้ม
“โอ..เหรอคะ.เห็นหน้าตาฝรั่ง .ป้าเป็นลมน่ะพ่อคุณ..”
กาบแก้ว มีน้ำเสียงเหนื่อยหอบ
นรา รีบพยุงกาบแก้ว ไปที่ประตูรั้ว และกดออด สักครู่แน่งน้อย ก็วิ่งออกมา
“ว้าย..คุณนราขับรถชนคน…”
แน่งน้อย พูดเสียงดังสีหน้าตกใจ
“หาคุกมาให้กันซะแล้วไหมล่ะแน่งน้อย…คนเป็นลมน่ะ ไปหายาดมยาหม่องเร็วเข้า”
แน่งน้อย รีบวิ่งแจ้นกลับเข้าไปในบ้าน ในขณะที่นราพยุงกาบแก้วเดินตามเข้าไป เขาให้กาบแก้วนอนพักที่โซฟารับแขก พร้อมกับปฐมพยาบาลด้วยการนวดขานวดเท้า และให้แน่งน้อยคอยจ่อยาดมที่จมูก
“คุณป้านอนพักไปเลยครับ…ถ้าลุกขึ้นจะเวียนหัวหน้ามืดนะครับ”
นรา บอกด้วยความเป็นห่วง
กาบแก้ว พยักหน้า พร้อมกับหลับตาลง นางไม่คิดว่าการเดินจากบ้านเพื่อจะไปเรียกรถมอเตอร์ไซด์รับจ้างไปถนนใหญ่หน้าหมู่บ้านจะทำให้ถึงกับเป็นลมเป็นแล้งไปได้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยเจ็บป่วยมาก่อน
......................
รถใหม่ป้ายแดง ถูกขับมาจอดที่หน้าบ้านกาบแก้ว โดยมีรถเบนซ์สีครีมขับตามมาจอดต่อท้าย แล้วเจ้าของรถเบนซ์ก็สั่งให้คนที่ขับรถป้ายแดงลงไปกดกริ่งที่หน้าประตู
วนาลี รีบวิ่งมาเปิดประตูด้วยความตื่นเต้น หล่อนยอมรับของขวัญชิ้นพิเศษของบิดาที่นำมาส่งให้ถึงบ้านในช่วงที่มารดาออกไปซื้อของที่ตลาด
“คุณพระคุณเจ้า..ขออย่าให้แม่รีบกลับจากตลาดตอนนี้เล้ย..สาธุ”
วนาลี ยกมือไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เมื่อออกมาเผชิญหน้ากับบิดาที่กำลังก้าวลงมาจากรถ
“แม่เราไม่อยู่ใช่ไหม…”
สาคร ถามเหมือนระแวง เขาไม่อยากปะทะคารมด้วยนั่นเอง
“พ่อคะ..ลีไม่แน่ใจว่าแม่จะยอมให้ลีรับรถคันนี้หรือเปล่านะคะ” วนาลี ยังมีกังวล
“ทำไม…พ่อลูกเขาจะซื้อของให้กัน แม่มีสิทธิ์จะหวงห้ามด้วยหรือ..ลี อย่าทำให้พ่อต้องเสียกำลังใจเลยลูก…ให้พ่อได้ทำหน้าที่บ้าง แม่ของลี เขาควรจะเข้าใจ วันนั้นเราพูดกันรู้เรื่องแล้วนะ”
วนาลี ยกมือไหว้ขอบคุณบิดาด้วยความรู้สึกไม่สบายใจ แต่ถึงอย่างไร วันนี้ วนาลี ก็ต้องอธิบายให้มารดาเข้าใจให้ได้
เมื่อสาคร เห็นวนาลียอมรับของขวัญที่เขาซื้อให้ เขาก็รีบสั่งให้คนขับรถของเขา นำรถขับเข้าไปไว้ในบ้านทันที
“เอ๊า..นี่..เงินก้อนนี้พ่อให้ลีไว้ไปเรียนขับรถ”
สาคร ยัดเงินใส่มือวนาลี เพื่อป้องกันการคืน
“พ่อคะ..อย่าหาว่าลีไล่เลยนะคะ..พ่อกลับไปก่อนที่แม่จะกลับมาจากตลาดนะคะ..แล้วลีจะพูดกับแม่เรื่องรถ.นะคะ”
วนาลี ขอร้อง ทำให้สาคร พยักหน้าอย่างเข้าใจ ก่อนจะเดินไปที่รถตามคำขอ วนาลีจึงถอนหายใจอย่างโล่งอก รีบวิ่งไปปิดประตูรั้วบ้านทันทีที่รถของบิดาขับออกไป ก่อนจะเดินเข้ามาลูบรถใหม่ป้ายแดงยี่ห้อที่เคยใฝ่ฝันอยากได้มานาน ด้วยความรู้สึกตื่นเต้นแต่ก็ผสมด้วยความกังวลใจอยู่บ้าง
วนาลี เคยคิดที่จะไม่สนใจสิ่งของใด ๆ ที่สาครมอบให้ แต่..เมื่อวนาลี มาคิดอีกทีในเมื่อหล่อนกับมารดายังลำบากอยู่ ก็ไม่เห็นประโยชน์ของการมีทิฐิมานะไม่ยอมรับสิ่งของที่บิดาแท้ ๆ เป็นผู้หยิบยื่นให้…บิดาบอกว่ารถคันนี้เป็นของขวัญที่วนาลี เรียนจบและกำลังจะเข้าสู่วัยทำงาน
เสียงรถวิ่งมาจอดหน้าบ้าน ทำให้วนาลี หยุดการชื่นชมกับของขวัญชิ้นพิเศษ และหันไปมองรถที่กำลังจอดอยู่หน้าบ้านอย่างแปลกใจ หล่อนเห็นผู้ชายก้าวออกมาจากรถแล้วก็วิ่งอ้อมจากฝั่งคนขับมาเปิดประตูรถอีกด้านให้กาบแก้ว วนาลีเห็นดังนั้นก็วิ่งออกไปทางประตูเล็กด้วยความตกใจ
“แม่…เป็นอะไรไป”
วนาลี ไปประคองกาบแก้ว โดยไม่ได้สนใจมองหน้าผู้ชายที่ช่วยพยุงมารดาสักนิด
“นี่ลูกสาวป้าเองจ๊ะ ”
กาบแก้ว หันไปพูดกับชายแปลกหน้าอย่างสนิทสนม วนาลีหันไปมองหน้าเขาอย่างอัตโนมัติ แล้วหล่อนก็เบิกตากว้าง แทบจะปล่อยมือจากการพยุงกาบแก้ว ส่วนนราก็มองหน้าหล่อนอย่างตกตะลึงเช่นกัน
