19 ไปด้วยคนนะ
“ไม่มีใครจำฉันได้หรอกค่ะ ฉันปลอมตัวมาอย่างดีแล้วนี่ไงคะ” หญิงสาวชี้ให้เขาดูตัวเธออย่างเต็มตา ชายหนุ่มมองราชาวดีที่บัดนี้แต่งตัวแปลกไปจากปกติ หญิงสาวสวมเสื้อยืดพอดีตัวเอวสั้นที่ทำเอาดูเหมือนใส่เสื้อเอวลอยหน่อย ๆ สวมกางเกงขาสั้น มีเสื้อคลุมอีกตัวที่เธอใช้เอาไปพันไว้ตรงเอว สวมรองเท้าผ้าใบยิ่งทำให้ดูทะมัดทะแมงมากยิ่งขึ้น และเพื่อเป็นการปลอมตัวอย่างแท้จริง เธอสวมหมวกเพื่อปกปิดหน้าตา รวบผมยาวสลวยเป็นหางม้าไว้ด้านหลัง และสวมแว่นกันแดดอันใหญ่ที่แทบจะเรียกได้ว่าปิดใบหน้างามนั้นเอาไว้ได้ถึงครึ่งหน้าก็ว่าได้ การปลอมตัวที่แทบจะจำไม่ได้ แต่กลับดูโดดเด่นชวนให้เป็นจุดสนใจหนักขึ้นไปอีก
“เป็นไงคะ จำแทบไม่ได้เลยใช่มั้ยล่ะ” ราชาวดีพูดขึ้นอย่างภาคภูมิใจ และได้ยินเสียงถอนหายใจหนัก ๆ ของชายหนุ่มตรงหน้าเป็นคำตอบ
“แล้วจะแอบตามผมไปแบบนี้ คุณเป็นผู้หญิงมันดูไม่ดีนะรู้มั้ย”
“ถ้าคุณไม่ให้ฉันตามไปด้วยฉันคงต้องใช้ไม้ตาย” และเมื่อพูดมาถึงตอนนี้ ราชาวดีค่อย ๆ จับมือชายมาวางไว้ที่เอวของเธอแน่น
“ฉันจะตะโกนร้องว่าคุณคิดจะทำไม่ดีกับฉัน”
“ราเชล !” และยังไม่ทันขาดคำ หญิงสาวก็ตะโกนออกมาทันที
“ชะ ช่ว!..ยย.” แต่โชคดีว่าสัญชาตญาณในการระวังตัวของชายหนุ่มไวพอ ๆ กับความคิด ยังไม่ทันที่เธอจะตะโกนให้เป็นจุดสนใจเขาก็ยกมือขึ้นมาปิดปากเธอเอาไว้ได้ซะก่อน
“ตกลงราเชล ผมให้คุณไป” แม้จะยอมรับความพ่ายแพ้ต่อคนร่างบางตรงหน้า แต่เขาก็อดถอนหายใจออกมาให้กับความดื้อรั้นของเธอไม่ได้
“คุณเอารถมารึเปล่า”
“เอามาค่ะ” ราชาวดีตอบกลับไปแม้จะยังไม่แน่ใจว่าเขาจะถามขึ้นมาทำไม
“อ่าวแล้วคุณไม่นั่งเครื่องไปเหรอคะ”
“นั่งเครื่องนั่นแหละ แต่ว่าต้องเอารถคุณไปจอดไว้ที่อื่น”
“อืมก็ได้ค่ะ”
“เราไปกันได้แล้ว” ชายคว้ามือของหญิงสาวเอาไว้ ทำท่าจะพาเธอเดินออกไปแต่แล้วก็นึกขึ้นได้
“แล้วเอาไอ้กางเกงแบบนี้มากี่ตัว”
“หลายตัวเลยค่ะ คุณชอบใช่มั้ยคะ”
“ไป รีบไปกัน เดี๋ยวต้องแวะซื้อกางเกงเปลี่ยนให้คุณอีก” ชายบ่นขึ้นอย่างหงุดหงิดกับกางเกงไร้ขาของหญิงสาวตรงหน้า
“แพทคะ ! คุณนี่ช่างเป็นคนไม่เข้าใจแฟชั่นจริง ๆ”
ขับรถมาได้สักระยะหนึ่งก็ถึงจุดหมาย บ้านของเขาที่มีคุณป้าอยู่ด้วย ราชาวดีง่วงมากเลยขอตัวไปนอนพัก
“ตื่นแล้วเหรอคุณ มากินอะไรรองท้องซะหน่อยนะ ผมซื้อแซนวิทมาไม่รู้คุณชอบหรือเปล่า” ชายหนุ่มทักขึ้นเมื่อเห็นราชาวดีเดินออกมาจากห้องนอน เธอรู้แต่เพียงว่าเขาปลุกเธอให้ตื่น และพาเธอเข้ามานอนในห้อง เมื่อส่งเธอเข้านอนเป็นที่เรียบร้อยตัวเขาก็ออกจากห้องไป เธอเองก็ง่วงและเหนื่อยจากการเดินทางเกินกว่าจะซักถามเรื่องใด ๆ กับเขาได้ รู้แต่เพียงว่าเมื่อหัวถึงหมอนเธอก็หลับไปทันที และเมื่อวานเธอก็ไม่ได้เอ่ยปากถามว่าเขาได้บอกคนของบิดาอย่างไรที่จู่ ๆ เขาก็จะไม่ขึ้นเครื่องไปด้วยกัน เพราะเขาเลือกที่จะขับรถมากับเธอแทน แต่ถ้าเธอถามไปก็คงไม่วายที่เขาจะบ่นเธออีกรอบเรื่องที่เธอเอาแต่ใจจะตามเขามาแบบนี้
“คุณต้องไปทำงานเมื่อไหร่คะ..แพท” ราชาวดีถามขึ้น
“คืนนี้ครับ” หญิงสาวรับฟังและพยักหน้าตามเพื่อรับรู้ว่าเข้าใจในสิ่งที่เขาพูด
“งั้นวันนี้คุณพาฉันไปเที่ยวได้หรือเปล่า”
“ได้สิครับ”ชายกล่าวยิ้ม ๆ เพราะจริง ๆ เขาเองวางแผนที่จะมาเที่ยวแอริโซนาล่วงหน้าก่อนที่จะเริ่มงานอยู่แล้ว
“คุณน่ารักที่สุดเลยค่ะ” เมื่อได้ยินดังนั้น ราชาวดีก็ยิ้มให้กับชายหนุ่มอย่างร่าเริง
“กินเสร็จแล้วคุณก็ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้านะครับ แล้วเราจะได้ออกไปกัน”
“ตกลงค่ะ” เธอรับคำและลงมือจัดการกับน้ำเต้าหู้ทันที
“คุณป้าไปไหนเหรอคะ มาครั้งที่แล้วฉันก็ไม่เห็น”
“ท่านไม่อยู่หรอก ท่านเสียไปหลายปีแล้ว”
“อ่าวเหรอคะ ฉันเสียใจด้วยนะคะ”
“ครับ บ้านนี้ผมปิดไว้แล้วก็จ้างให้เด็กแถว ๆ นี้มาคอยดูแลทำความสะอาดอาทิตย์ละหนสองหน เวลามีโอกาสขึ้นมาที่นี่ผมก็จะแวะมาพัก มาดูแลความเรียบร้อยสักที”
ราชาวดีสูดเอาอากาศบริสุทธิ์เข้าปอดอย่างมีความสุข เธอมองวิวทิวทัศน์เบื้องหน้าอย่างอารมณ์ดี อยากหยุดเวลาเอาไว้ที่ตรงนี้ไม่ให้ผ่านไปแม้สักวินาทีเดียว ในขณะเดียวกันเธอก็ได้ยินเสียงชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้าง ๆ กันสูดลมหายใจลึก ๆ เข้าปอด ก่อนจะค่อย ๆ ผ่อนออกมาช้า ๆ อย่างผ่อนคลายเช่นกัน
ชายหนุ่มพาเธอมาเที่ยวแกรนแคนยอนต์ จากนั้นก็พาเธอไปสวนพฤกษศาสตร์ทางทะเล แม้แดดจะแรงด้วยเวลาใกล้เที่ยงแล้ว แต่เธอกลับรู้สึกได้ถึงลมอ่อน ๆ เย็นสบายรอบ ๆ ตัว
“เรามาถ่ายรูปคู่เก็บไว้เป็นที่ระลึกนะคะ” และไม่รอให้เขาได้ทันปฏิเสธ เธอคว้าโทรศัพท์มือถือขึ้นมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วเดินเข้าไปหาเขาทันที ราชาวดีเขยิบตัวเข้าไปใกล้ชายหนุ่มร่างสูงก่อนจะค่อย ๆ เอียงหน้าเข้าไปชิดกับหน้าของเขา ฉีกยิ้มหวานและกดชัตเตอร์ตามไป หญิงสาวก็เขยิบเข้าไปใกล้ชายหนุ่มมากขึ้นไปอีก ใบหน้าของทั้งคู่แนบชิดกัน ร่างบางที่ยืนเบียดเขาอยู่นั้นทำให้รู้สึกได้ถึงไออุ่นของผิวกายของหญิงสาวได้อย่างชัดเจน เขาละสายตาออกจากโทรศัพท์มือถือที่ราชาวดีถืออยู่ แล้วหันมองใบหน้างามของคนข้างตัวอย่างรักใคร่ ก่อนจะยิ้มขึ้นมาน้อย ๆ อย่างมีความสุข เขาอดใจไม่ใหวที่จะหันไปจู๊บแก้มขาวเนียนราวขนมปังของเธอไม่ได้
“กล้าดียังไงคะ มาหอมแก้มฉันกลางวันแสก ๆ แบบนี้ ไม่กลัวคนจับได้แล้วเหรอ”
“กลัวทำไมก็คุณปลอมตัวมาไม่ใช่เหรอครับ”
“แหม!.. รีบเปลี่ยนเรื่องเชียวนะ ฉวยโอกาสจริง ๆ เลย”
“คุณร้อนรึเปล่า” ชายหนุ่มรีบเปลี่ยนเรื่องเพราะเห็นหน้าเธอแดงขึ้น และแทนคำตอบ เธอส่ายหัวให้เขาเบา ๆ และหันกลับไปมองยังภาพทิวทัศน์เบื้องหน้าอีกครั้ง
“ผมว่าเราเปลี่ยนบรรยากาศไปเดินตากแอร์กันบ้างดีมั้ย” ชายหนุ่มเสนอ เมื่อเห็นว่าใบหน้างามภายใต้หมวกนั้นแดงระเรื่อราวกับคนเป็นไข้ก็ไม่ปาน
“ยังไงก็ได้ค่ะแล้วแต่คุณ” ชายหนุ่มยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยน ก่อนจะเอื้อมมือมาจับมือเธอเอาไว้ แล้วพาเดินออกไปพร้อมกัน
“เข้ามาเจอแอร์ค่อยรู้สึกดีขึ้นมาหน่อยนะคะ” ราชาวดีพูดขึ้นหลังจากได้รับรู้ว่าการเดินตากอากาศอยู่ด้านนอกนั้น แม้จะมีความสุขไม่ได้เดือดร้อนอะไร แต่พอได้เข้ามาเจอความเย็นจากเครื่องปรับอากาศมันก็สบายกว่ากันจริง ๆ นั่นล่ะ
