บท
ตั้งค่า

17 ดีกันนะ

ชายหนุ่มนั่งมองหญิงสาวที่นอนหลับหายใจเป็นจังหวะสม่ำเสมออยู่ข้าง ๆ เขาในขณะนี้อยู่เงียบ ๆ

นอกจากเธอจะโกรธและไม่ยอมให้เขาได้อธิบาย เธอยังไปทำท่าอี๋อ๋อกับชายหนุ่มคนอื่นที่เขาไม่รู้ว่าคือใครอีกต่างหาก ในใจก็รู้นั่นล่ะว่าเธอต้องการจะประชด แต่เห็นแบบนั้นแล้วก็อดรู้สึกหงุดหงิดไม่ได้

หลายวันมานี่จู่ ๆ เขาก็ได้รับมอบหมายหน้าที่สำคัญเพิ่มขึ้นหลายอย่าง งานที่เป็นความลับ งานที่ต้องสืบเรื่องของบิดาเธอ เมื่อได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่เพิ่มขึ้นแบบนี้ โอกาสที่จะได้เข้าใกล้จุดมุ่งหมายมารออยู่ตรงหน้าทำให้เขาต้องคว้ามันเอาไว้ และเพื่อสร้างความไว้วางใจจากประมุขของบ้านให้มีต่อตัวเขามากยิ่งขึ้น งานต้องมาเหนือสิ่งใด แต่กับผู้หญิงคนนี้ คิดถึงก็คิดถึง อยากจะมาเจอแทบใจจะขาด อยากจะมาปรับความเข้าใจแทบแย่ว่ามันเรื่องอะไรกันทำให้เธอมึนตึงกับเขา

‘นี่เธอจะรู้บ้างมั้ยนะ ยัยเด็กดื้อ’ ชายหนุ่มคิดในใจ

ขณะที่กำลังคิดอะไรเพลิน ๆ อยู่นั้น ชายหนุ่มค่อย ๆ ใช้มือเขี่ยปอยผมที่ตกลงมาปิดใบหน้าของหญิงสาวออกไปอย่างเบามือ คงจะเหนื่อยแล้วก็เพลียล่ะสิ กว่าที่เขาจะตามไปหาเธอที่ผับหรูนั่นก็ปาเข้าไปดึกดื่นค่ำคืนแล้ว เธอก็ยังไม่ยอมกลับบ้าน พอพามาขึ้นรถเท่านั้นหญิงสาวเจ้าทิฐิที่ไม่ยอมพูดอะไรกับเขาสักคำตั้งแต่ขึ้นรถมาและเอาแต่นั่งหันหน้าออกไปนอกหน้าต่างด้านข้างนั้นก็เผลอหลับไปอย่างรวดเร็ว

หลังจากมองดูเวลาจากนาฬิกาข้อมือ ชายหนุ่มลุกออกจากรถเดินไปเปิดประตูรถด้านข้างหญิงสาวและปลุกเจ้าหญิงนิทราให้ตื่นจากการหลับใหล

“ราเชล คุณราเชล” แพทริคแตะแขนราชาวดีเขย่าเบา ๆ ก่อนที่หญิงสาวจะค่อย ๆ เปิดเปลือกตาขึ้นช้า ๆ เธอมีท่าทีงุนงงเล็กน้อยก่อนจะหันมองไปรอบ ๆ ตัวที่มีแต่ความมืด และเงยมองหน้าเขาด้วยความสงสัย

“ที่นี่ที่ไหนคะ”

“ตามผมมาสิ ผมอยากให้คุณดูอะไรสักหน่อย” ชายหนุ่มพูดพร้อมกับค่อย ๆ คว้ามือบางมาจับไว้และประคองเธอออกจากรถ ราชาวดีเดินตามเขามาแบบงง ๆ และหลังจากที่เริ่มตั้งสติได้ เธอก็พยายามจะดึงมือออกจากการเกาะกุม

“ปล่อยค่ะ ฉันเดินเองได้” แต่ชายหนุ่มทำเป็นไม่สนใจเหมือนไม่ได้ยิน ร่างบางที่เดินตามหลังมาได้สักพักได้ยินเสียงชัดขึ้น และสายตาเริ่มชินกับความมืดรอบตัว ‘ทะเล’ หญิงสาวคิดในใจ

“พาฉันมาที่นี่ทำไมคะ ฉันจะกลับ” ไม่พูดเปล่า ราชาวดีพยายามจะหันหลังเดินกลับ แต่คนตัวโตที่จูงมือเธออยู่กลับกระชับมือเธอให้แน่นขึ้น ไม่ยอมปล่อยง่าย ๆ

“ผมบอกว่าผมจะพาคุณมาดูอะไรไง ตามมาเถอะ” ชายหนุ่มกล่าวเรียบ ๆ แต่น้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความอ่อนโยน

แพทริคพาราชาวดีมาหยุดยืนอยู่บริเวณชายหาด ในความมืดเธอยังคงมองเห็นคลื่นลูกเล็ก ๆ ที่ซัดเข้าหาฝั่งเป็นระยะ ๆ ชายหนุ่มยกนาฬิกาขึ้นมาดู แล้วมองออกไปยังท้องทะเลเงียบ ๆ

เมื่อรู้สึกว่าหญิงสาวมองเขาอยู่ เขาจึงหันมายิ้มให้เธออย่างอ่อนโยน สร้างความหงุดหงิดใจให้หญิงสาวไม่น้อย‘จะทำอะไรของเขานะ’

เพียงสักครู่ พระอาทิตย์ดวงโตก็ค่อย ๆ โผล่ขึ้นมาพ้นขอบน้ำทีละน้อย ทีละน้อย แสงสีทองค่อย ๆ ส่องประกายเจิดจ้าราวกับต้องการอรุณสวัสดิ์ไปกับทุกสิ่งที่แสงสว่างนั้นทาทาบไปถึง ช่างเป็นภาพที่งดงามเหนือคำบรรยายใด ๆ เพียงแค่แสงสีทองส่องสว่างขับไล่ความมืดมิดจากรัตติกาล ไม่น่าเชื่อว่ามันจะสามารถสร้างความอบอุ่นให้เกิดขึ้นภายในจิตใจได้อย่างน่าอัศจรรย์เช่นนี้

“สวยจัง” ราชาวดีพึมพำขึ้นมาเบา ๆ หลังจากเห็นภาพความงดงามของธรรมแพทริคเบื้องหน้า แสงสีทองที่ส่องสว่างอยู่นั้น จับใบหน้างามของหญิงสาวให้ดูเปล่งประกายงดงามยิ่งนัก

“ราเชล คุณชอบรึเปล่า” ชายถามขึ้นเบา ๆ สายตาจับจ้องใบหน้างามของราชาวดีไม่วางตา

“ค่ะ สวยมาก ๆ เลย” รอยยิ้มอ่อน ๆ ยังคงปรากฏอยู่บนใบหน้างามนั้น

“ราเชล คุณหายโกรธผมรึยัง” แพทริคค่อย ๆ ชวนเปลี่ยนเรื่อง และเมื่อได้ยินคำถาม ราชาวดีก็หุบยิ้มทันที เธอหันหน้ามามองหน้าเขานิ่งโดยไม่ได้พูดอะไร และหันกลับไปมองดวงอาทิตย์ที่กำลังจะโผล่พ้นขอบน้ำอีกครั้งโดยที่ไม่ยอมตอบคำถามนั้น

“แบบนี้แสดงว่ายังไม่หายโกรธ” และคำตอบที่ได้รับก็คือความเงียบ

“ราเชลครับ”

“เรื่องที่คุณโกหกฉันไม่ได้โกรธแล้วค่ะ ฉันแยกแยะได้ ถ้าพ่อฉันผิดจริงก็ว่าไปตามนั้น” เสียงเล็ก ๆ ของราชาวดีกล่าวขึ้นอย่างโกรธ ๆ และหลังจากที่ได้ยินชายมีสีหน้างุนงงไปเล็กน้อย

“แล้วเรื่องของเราล่ะ ?”

“เรื่องของเรามันจบไปแล้วค่ะ”

“ราเชล” ชายหนุ่มปราม หลังจากที่หญิงสาวยังคงเกเรไม่เลิก

“ยังมีอีกที่ฉันอยากรู้คุณเข้าไปที่ลาเดอร์ฟรอง แล้วเรียกเด็กขึ้นห้องมันหมายความว่ายังไง”

“แสดงว่าคุณหึงผมใช่มั้ย..ราเชลไ

“หึ!!. เปล่าสักหน่อย สำคัญตัวผิดแล้ว”

“แล้วคุณเห็นรึเปล่าว่าผมเข้าไปทำอะไร”

“ไปในสถานที่แบบนั้น คุณจะให้ฉันคิดว่าคุณเข้าไปคุยกันเฉย ๆ อย่างนั้นเหรอคะ”

“ใช่ ผมแค่ไปคุยธุระกับเขาเฉย ๆ ไม่ได้มีอะไรเกินเลยกว่านั้นเลย” หญิงสาวจ้องใบหน้าคมเข้มของชายหนุ่มนิ่งอย่างต้องการจะค้นหาความจริง

“ผมไม่ปฏิเสธว่าผมเข้าไปในสถานที่แบบนั้นกับผู้หญิงคนหนึ่ง แต่ผมขอยืนยันว่าผมแค่เข้าไปคุยกับเขาเฉย ๆ ไม่ได้มีอะไรเกินเลยไปในทางไม่ดีเลย คุณฟังผมนะ ผู้หญิงคนนั้นเขาน่าสงสารมาก เขากำลังต้องการความช่วยเหลือ ผมไม่ได้คิดอะไรกับเขาเลยจริง ๆ” ชายหนุ่มค่อย ๆ เอื้อมมือของเขามาจับมือบางของราชาวดีขึ้นไปแนบไว้ที่หน้าอกของตัวเอง สิ่งที่เธอสัมผัสได้ในตอนนี้คือหัวใจของเขาที่ยืนอยู่ตรงหน้า ซึ่งเต้นอย่างมั่นคงเป็นจังหวะช้า ๆ แต่สม่ำเสมอ

“คุณจะเชื่อผมรึเปล่า ถ้าผมจะบอกว่าผมไม่ได้โกหก” ถึงรู้ว่ายากที่จะเชื่อ แต่เธอกลับรู้สึกว่าเขาไม่ได้โกหกเธอเลยแม้แต่น้อยและถึงแม้จะไม่มีคำตอบจากหญิงสาว แต่ท่าทีที่เธอก้มหน้าน้อย ๆ และมองเห็นสีแดงเรื่อ ๆ บนแก้มเนียนก็ทำให้รู้ว่าเธอเชื่อในคำพูดของเขา ชายหนุ่มค่อย ๆ สวมกอดเธอเอาไว้แนบอกกว้างก่อนจะกระซิบแผ่วเบาข้าง ๆ หูของหญิงสาว

“มันเป็นความจริง” หลังจากพยายามใช้ความคิดกับสิ่งที่เอ่ยถาม เขายิ้มขึ้นมาน้อย ๆ เมื่อเริ่มเข้าใจเรื่องราวและสาเหตุที่ทำให้ราชาวดีงอนเขาแบบนี้

“เชื่อผมนะ” และเธอก็พยักหน้าเบา ๆ อยู่ภายใต้อ้อมกอดอันอบอุ่นของเขา

“แล้วทีหลังถ้าคุณมีอะไรไม่เข้าใจ หรือมีอะไรสงสัย คุณมาถามผมก่อนได้มั้ย ผมไม่ว่าถ้าคุณจะหึง แต่ผมขอแค่ได้อธิบายความจริง”

“ฉันไม่ได้หึงคุณสักหน่อย” ราชาวดีเถียงขึ้นเบา ๆ

“ไม่ได้หึงเหรอ จริงอ่ะ” ชายแกล้งรั้งเอวบางของราชาวดีเข้าหาตัวแรง ๆ แล้วก้มหน้าเข้าหาใบหน้างามตรงหน้าจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอ่อน ๆ ของคนปากแข็ง

“ถ้างั้น คราวหลังผมก็พาผู้หญิงเข้าโรงแรมม่านรูดได้อีกใช่มั้ย” ได้ผลทันที เพราะร่างบางที่ยืนชิดเขาอยู่ขณะนี้ตีหน้าหงิกตามที่เขาคาดไว้ และพยายามจะดันตัวออกจากวงแขนของเขา

“ไหนบอกไม่หึงไง” ชายหนุ่มยังแกล้งต่อและกระชับอ้อมกอดของตัวเองให้แน่นขึ้น และเมื่อเห็นราชาวดีไม่พูดอะไรแต่พยายามจะดันตัวออกจากอ้อมกอดของเขาให้ได้ เขาจึงหัวเราะขึ้นมาเบา ๆ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel