บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 9

“อ่ะนี่..สามร้อยบาท..วันนี้วันอาทิตย์ ก็เลยได้เงินเต็ม ส่วนวันอื่นๆ ขอดูผลงานนายก่อนแล้วกัน.. ”

ในที่สุด วันแรกของการทำงานของพนักงานใหม่ในร้านฉิงป่อไช่ ก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี..

ตอนแรกฉันก็แอบสบประมาทเขา ว่าเขาจะทำไหวหรือเปล่า..เพราะว่า แค่ล้างจานเขายังล้างไม่เป็นเลย..แต่สุดท้ายพอฉันสอนเขา ไม่นานเขาก็ทำได้ และทำได้ดีด้วยในทุกๆหน้าที่..เอาตรงๆเลยคือ เขาหัวไวเอามากๆจนฉันทึ่ง ไม่ว่าจะเป็นความจำในการจดจำเมนูของแต่ละโต๊ะ การคิดเงินที่ว่องไว ทักษะการเสิร์ฟอาหารที่กระฉับกระเฉง..และการตอบคำถามของลูกค้าที่แม่นยำและยิ้มแย้มแจ่มใส

ทุกอย่างคือ..มันดีกว่าที่ฉันคิดเอาไว้เยอะมาก..

และตอนนี้ก็เป็นช่วงเวลาที่ฉันเอาเงินมาจ่ายให้เขาหลังจากที่ฉันปิดร้านเสร็จ เก็บของในร้าน ในเวลา 3 ทุ่มกว่าๆ

แล้วทันทีที่ฉันยื่นเงินไป เขาก็ยื่นมือมารับเงิน พร้อมกับมองดูแบงค์สีแดงสามใบนั้น..อย่างใช้ความคิด..

ใช้ความคิดเหมือนกับตอนที่เขาเห็นห้องนอนของเขาครั้งแรก

ห้องนอนของเขาอยู่ถัดจากบ้านของฉันที่เป็นร้านอาหาร ถัดไปอีกหลัง..

ที่นี่มันเป็นบ้านตึกแถว..ที่ค่อนข้างเก่าหลายปีแล้ว..และบ้านอีกหลังของม๊าฉันที่ฉันพาเขาไป ก็เป็นบ้านที่เอาไว้สำหรับผลิตเส้นของร้านฉันโดยเฉพาะในชั้นล่าง ส่วนชั้นบนเป็นชั้นของพนักงาน.. ซึ่งเมื่อก่อนก็มีพี่ส้ม แต่ตอนนี้มีแค่เขาเพียงคนเดียว

และห้องพนักงานนั้น ก็ไม่ได้หรูหราอะไร มันก็เป็นห้องเล็กๆ ที่มีหน้าต่าง เบาะ หมอน มุ้ง ราวแขวนผ้า แล้วก็พัดลมหนึ่งตัว แค่นั้น..

และครั้งแรกที่เขาเห็นห้องตัวเอง.. ฉันก็รู้สึกว่าเขาอึ้งไปเล็กน้อย..ก่อนที่จะทำท่าเหมือนกับคิดอะไรอยู่..

เหมือนกับตอนนี้..ที่เขายังคงมองเงิน 300 บาทนั้นอยู่

ซึ่งมันเป็นสายตาที่ฉันเองก็อ่านไม่ออก ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่..และมันเลยทำให้ฉันต้องเอ่ยถามเขาไป..

“คิดอะไรอยู่?”

ทันทีที่ฉันพูดจบ เขาก็เงยหน้ามามองช้าๆ ก่อนที่จะเขาจะกลับมาเป็นคนเดิม คือยิ้มกวนเล็กน้อย และก็เก็บเงินนั้นใส่เข้ากระเป๋าไป..ก่อนจะเอ่ยปากพูดกับฉันที่ไม่ได้เกี่ยวกับสิ่งที่ฉันถามก่อนหน้าแม้แต่น้อย

“ไปเดินเล่นกัน..”

“เดินเล่น? แถวนี้?”

“สะพานริมน้ำ”

“ไปไง?”

คือตรงนั้นมันก็ค่อนข้างไกลจากบ้านฉันพอสมควร แต่ก็ไม่ได้ไกลมาก..แต่ถึงอย่างนั้น ถ้าเดินไป ก็ไม่ไหว..ยิ่งตอนนี้มืดและเปลี่ยวด้วย ฉันไม่เดินเด็ดขาด

“เดี๋ยวเฮียขับเอง..”

และเขาก็เอ่ยพูดออกมา..พร้อมกับสรรพนามเรียกตัวเองแบบเดิม..เหมือนกับทั้งวันที่เขาเรียกตัวเอง..ว่า..เฮีย.. พร้อมกับแบมือ..เหมือนว่ารอกุญแจรถ ในขณะที่ป๊าเป็นเจ้าของรถมั้ย? นี่ไม่คิดจะถามซักคำเลยเหรอ ว่าพ่อฉันให้ขับหรือเปล่า..

แล้วคือ..เอารถเจ้านายไปใช้ เพื่อที่เขาจะไปเดินเล่นเนี่ยนะ..?

แต่เอาจริงๆ เขาก็เป็นคนเอาแต่ใจแบบนี้อยู่แล้วล่ะ..ฉันสังเกตหลายครั้งแล้วตั้งแต่ทำงานวันนี้ เขาคิดไว้หัวไว ปุ๊บปั๊บ ไม่ถงไม่ถามเจ้านายอย่างฉัน ป๊าม๊าสักคำ ตัดสินใจเองทำเอง และมันก็ออกมาดีด้วย บอกเลยว่า เป็นพนักงานที่แปลกคนสุดๆ

แต่เอาเถอะ สำหรับตอนนี้ ไปเดินเล่นซะหน่อยก็ดี..จะได้รู้จักนิสัยใจคอของเขาขึ้นมาบ้าง..บางทีฉันก็รู้สึกเหมือนว่าเขาเปิดเผย..แต่ก็ไม่รู้สิ ฉันว่าเขาเองก็ดูลึกลับอยู่ในที

นั่นเลยทำให้ฉันเดินไปหยิบกุญแจบ้านและบอกป๊าม๊าไป ว่าจะขอยืมรถออกไปทำธุระข้างนอก ก่อนที่จะเดินไปนั่งฝั่งคนขับ

“ฉันขับเอง..”

พรึ่บ..

แต่แล้วก็เป็นอีกครั้งที่เขาเอาแต่ใจ เพราะทันทีที่ฉันเปิดรถและจะขึ้นไปนั่ง เขาก็คว้ากุญแจรถ แล้วก็ดันฉันออกไปยืนนอกรถ ในขณะที่เขาไปนั่งตรงคนขับรถแทน..ก่อนที่จะพูดออกมาว่า

“หมวย ไปนั่งสิ..”

อะไรของเขาวะนั่น!!!

นี่ถ้าไม่อยากให้มาช่วยกันรำแก้บนล่ะก็นะ ....หึ!!

และนั่นเลยทำให้ฉันเดินอ้อมไปอีกฝั่งของรถทันที ก่อนที่จะรัดเข็มขัดนิรภัย แล้วเขาก็ออกตัวรถในทันที..และที่สำคัญ เขา..ก็ขับซิ่งมาก!!!

“นี่นาย ขับช้าๆไม่เป็นหรือไง รถฉันมันแก่เป็นสิบปีแล้ว..สงสารมันหน่อย..”

หลังจากฉันพูดไปเช่นนั้น เขาก็หันมายิ้มเล็กน้อย..ก่อนที่จะยอมผ่อนเครื่อง..พร้อมกับพึมพำออกมาเล็กน้อย

“ได้ขับรถ ค่อยสบายใจหน่อย..”

หื้ม.?? ขับรถแล้วสบายใจ?

“นี่นายทำงานบ้านฉันแล้วไม่สบายใจเหรอ?”

และมันก็เลยทำให้ฉันต้องโพล่งปากถามด้วยความสงสัย..

“เปล่า..ไม่ได้เครียด ก็สนุกดี แต่..ช่างเถอะ..”

อะไรของเขาล่ะนั่น..หรือว่าวันนี้ฉัน หรือครอบครัวฉัน ทำอะไรให้เขาไม่พอใจหรือเปล่านะ?

“นี่..ฉันให้นายมาเป็นพนักงานที่นี่ ก็ไม่ได้แปลว่านายคือลูกน้องหรือลูกจ้างหรอกนะ..อืม ก็จริงอยู่ ที่นายทำงานแลกเงิน แต่อยากให้รู้ไว้นะ..ว่าพวกเราทุกคนก็มองนายเป็นคนในครอบครัวด้วย.. ถ้ามีอะไรไม่สบายใจ ก็พูดออกมา..อ่ะๆ..เดี๋ยวเจ๊หมวยคนนี้รับฟังเอง..”

หลังพูดจบ ฉันก็นั่งกอดอก พร้อมกับรอฟังเขาพูด ในขณะที่เขาเองก็ค่อยๆยิ้มออกมา..และเริ่มกลับมาเป็นเขาที่กวนเหมือนเดิม

“หึ..ถ้างั้นรบกวนเจ๊หมวย ช่วยนวดไหล่ให้เฮียหน่อยสิครับ..วันนี้ทำงานมาเหนื๊อยยเหนื่อย..”

หึ..ท่าทางกวนแบบนี้ไม่มีใครเกินเขาจริงๆ..

“ได้สิ เดี๋ยวนวดให้”

และทันทีที่พูดอย่างนั้น ฉันก็กำหมัดก่อนที่ทุบลงไปตรงไหล่ของเขาเต็มแรงทันที ก่อนที่จะรัวหมัดด้วยความหมั่นไส้ ในขณะที่อีกฝั่งก็เล่นใหญ่เกินเบอร์

ปั่ก!!! ปั่กๆๆๆๆๆๆๆ

“โอ๊ยๆๆๆๆๆๆ ยัยหมวยย พอๆๆ”

“ฮ่าๆๆๆๆ..”

“หึหึ..”

แต่แล้วขณะนั้นเอง ฉันก็รู้สึกว่า..เส้นทางที่เขาขับ..มันไม่ได้ไปสะพานริมน้ำที่เขาบอกแต่แรก..

“เอ๊ะ.. จะพาไปไหนอะ สะพานไม่ได้ไปทางนี้..”

“เปลี่ยนใจแล้ว อยากขับรถเล่นมากกว่า ขับไปเรื่อยๆแบบนี้นี่แหละ..”

“ไอ้คำว่า ขับไปเรื่อยๆของนายน่ะ มันคือขับถึงเมื่อไร..ฉันไม่ได้ว่างพอ มานั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถให้นายพามาขับรถเล่นหรอกนะ..ฉันยังต้อง..นอน ทำงานมาเหนื่อยๆแบบนี้ ง่วงจะแย่..”

“อืม..ถ้างั้นก็..ขับทั้งคืนเลยละกัน..ส่วนหมวย ถ้าง่วงก็นอนไป เฮียไม่รบกวนหรอก”

“ฮะ! รถคันนี้เติมน้ำมันนะ ไม่ใช่น้ำเปล่า..”

“เอาหน่า เดี๋ยวเติมคืนให้..ไม่ยืมมาขับฟรีๆอยู่แล้ว”

“นี่ ได้มาแค่ 300 บาท จะใช้ให้หมดในวันเดียวเลยหรือไงฮะ? แล้วรู้มั้ยถ้าจะเติมเต็มถังคันนี้มันต้อง 800 บาท มันก็เท่ากับว่า ถ้านายต้องทำงานแบบวันนี้ 3 วันเลยนะ นายถึงจะมาขับรถเล่นอย่างวันนี้ที่นายบอกได้อะ..ถึงแม้ว่าหลังจากนี้ นายจะมีข้าวกินฟรี มีที่พักให้..แต่นายก็ต้องมีเงินเก็บบ้าง เผื่อมีอะไรฉุกเฉิน..เข้าใจมั้ย”

และหลังจากที่ฉันพูดบ่นออกมา..เขาก็เริ่มนิ่งเงียบไป ก่อนที่อยู่ๆ เขาจะเริ่มยิ้มกว้างออกมา และพูดในแบบของเขา

“ครับบบ เจ๊หมวยย.. โอเคๆ งั้นเฮียไม่ขับเล่นทั้งคืนแล้ว..จะได้เก็บเงินเอาไปแต่งเมีย..ดีมั้ย..หมวย”

หื้ม มีเมียแล้ว?

“ก็เรื่องของนายสิ!! เออ แล้ว..นี่...นายมีแฟนแล้วเหรอ?”

ทันทีที่ฉันพูดแบบนั้น เขาก็หันมามองฉันเล็กน้อย ก่อนจะหันไปมองเส้นทางตรงหน้าอีกครั้งและตอบกลับมาอย่างอารมณ์ดี

“หมวยอยากให้เฮียมีมั้ยล่ะ..”

“อะเออ นายจะมีแฟนไม่มีแฟน เกี่ยวอะไรกับฉันกันล่ะยะ!!!”

ไอ้บ้า.. เขาจะมีหรือไม่มีก็เรื่องของเขาสิ!

นั่นเลยทำให้ฉันโพล่งปากไป พร้อมกับหันไปมองวิวข้างทางแทน ในขณะที่อีกคนก็หัวเราะในลำคอเบาๆ จนฉันหมั่นไส้..

“ยังไม่มีหรอก..และก็ไม่คิดจะมีด้วย”

อืม..เขาคงไม่อยากมีแฟนเหมือนฉันสินะ..

“อืม..ก็ดี จะได้มีผู้หญิงในโลกนี้ที่น่าสงสารน้อยลงหนึ่งคน..”

“หึหึ..หรือว่า หมวยอยากเป็นผู้หญิงที่น่าสงสารคนนั้น..อ้อ..แต่ไม่เอาดีกว่า เพราะดูจากน้องชายที่โดนกระทำแล้ว.. คนที่น่าสงสารคงเป็นเฮียมากกว่า..”

“เลิกเพ้อได้แล้ว!..แล้วนี่สรุปจะขับไปไหน..ถ้าไม่ขับรถเล่นแล้วก็กลับบ้าน!”

“อืม..งั้น เดี๋ยวแวะพาหมวยไปที่ที่นึงก่อนดีกว่า..”

ตอนแรกฉันก็หวั่นๆนะ ว่าเขาจะพาไปไหน อีกอย่างฉันเองก็แปลกใจตัวเองไม่น้อย ที่ทำไมถึงกล้าที่จะมากับเขา ในเวลาที่ดึกดื่นแบบนี้ และก็แปลกด้วยที่ป๊าม๊ายอมให้มา.. และนั่นล่ะ สุดท้ายแล้ว เขาก็ไม่ได้พาฉันไปในที่ไม่ดี แต่ที่เขามาไป ก็คือ สวนสาธารณะที่ติดกับมหาลัยของเขา..

และเมื่อถึง เขาก็ลงจากรถ และมาเปิดประตูให้ฉัน ก่อนที่จะผายมือแล้วก็ให้ฉันเดินลงไป..ในขณะที่ฉันก็งงว่า..เขาพาฉันมาทำไม แล้วอีกอย่างนี่มันก็ 5 ทุ่มแล้วนะ เวลานี้ควรจะนอนได้แล้ว!!

ปกติฉันนอนเวลานี้..เพราะฉะนั้นบอกตรงๆเลยว่า..ตอนนี้ฉันง่วงมาก..

หาววววววว

แต่ถึงอย่างนั้น ฉันก็เดินตามเขาไปเรื่อยๆ พร้อมกับหาวไปด้วยความเพลีย จนกระทั่งเขาหยุดอยู่ตรงเก้าอี้สาธารณะนั้น..และนั่งลงมองวิวตึกมากมายอีกฝั่ง ที่ข้ามแม่น้ำไป..และมันก็เป็นภาพที่สวยมาก จนทำให้ฉันหายง่วงชั่วคราว และมองกับภาพตึกสูงใหญ่มากมายตระการตาตรงหน้าแทนด้วยความตื่นเต้น..

“หู้วววววววว สวยจังเลย”

“หึหึ..ชอบมั้ยหมวย”

“ชอบๆ ..อากาศก็ดี วิวก็สวย อ้อ..แต่เสียดายตรงนี้มืดไปหน่อย..ถ้ามาคนเดียวฉันไม่มาเด็ดขาด..”

“ถ้างั้น วันหลัง ถ้าอยากมาอีก ก็บอกเฮียนะ เดี๋ยวเฮียจะพามาบ่อยๆ นะครับ..”

หื้ม..อีกแล้วนะ.. ที่อยู่ๆเขาก็พูดแบบนี้พร้อมกับดวงตาแบบนี้..

และมันก็ทำให้ฉันเลิกมองหน้าเขาและไปมองวิวแทน..ก่อนที่จะชี้ไปยังตึกหนึ่ง แล้วพูดออกมาอย่างที่ใจนึก

“นายว่า คนที่อยู่คอนโดนั้นเขาจะทำงานอะไร..ฉันได้ยินมาว่าคอนโดนั้นเป็นคอนโดส่วนตัวของพวกมาเฟียล่ะ.. มันไม่ได้เปิดขาย คนที่อยู่ที่นั่นเป็นเฉพาะคนใน..”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel