Chapter.5 เห็นมาหมดแล้ว
ฉันทำใจใส่ชุดที่แม่เลือกให้แล้วก็นั่งอดทนแต่งหน้าให้ออกมาดูดีที่สุด ถ้าฉันไม่เผลอรับปากคุณอายาหยีไปล่ะก็ ฉันไม่มานั่งจือปากทาลิปอยู่แบบนี้หรอก เดรสสีน้ำเงินเข้มเข้ากับผิวขาวๆ ของฉันอย่างลงตัว ฉันก็สวยเหมือนกันนะเนี่ย ทำไมถึงไม่มีใครจับทำเมียสักที
ฉันแค่เอาแต่ใจพอเป็นพิธี ทำเป็นทนกันไม่ได้!!
ผู้ชายสมัยนี้ไม่มีความอดทนเอาซะเลย! ชาตินี้จะหาเมียกันได้มั้ย โถ่!
ฉันวางลิปสติกในมือลงก่อนที่จะเพิ่มสีแก้มให้หนักกว่าเดิมอีกนิดหน่อย สวยซะไม่มี ^^ แต่พอนึกถึงหน้าหมอคนนั้นขึ้นมาฉันนี่ถึงกับปาดมาสคร่าเลยขึ้นไปโดนคิ้ว เป็นบ้าอะไรก็ไม่รู้!! ได้โปรดอย่าเข้ามามีอิทธิพลกับฉันมากนักเลย ฉันเหนื่อย TT
แต่เมื่อกลางวัน บางอย่างที่แวบเข้ามาในหัวของฉัน คำพูดแปลกๆ สายตาแปลกๆ เหมือนฉันเคยได้ยินแล้วก็เคยสัมผัสกับมันมาก่อน มันคืออะไร??
"ทิชาเสร็จหรือยังลูก คุณพ่อรออยู่นะ "
"เสร็จแล้วค่ะแม่ "
"ไปกัน "
บนรถ
วันนี้คุณพ่อขับรถให้สาวๆ นั่ง นึกถึงสมัยเด็กๆ แต่ตอนนั้นมีไอ้แสบสองตัวอยู่ด้วย คิดถึงพวกมันเหมือนกัน มีเมียแล้วลืมเจ้ไปเลย คุณพ่อใส่สูท ส่วนคุณแม่มาในชุดเดรสสยบมาร เฮ้อ ยอมใจการแต่งตัวของแม่มากๆ เครื่องเพชรที่คอ หู ข้อมือ นิ้ว รู้เลยว่าใส่มาอวด แค่ทานข้าว ทำไมต้องขนาดนี้ไม่เข้าใจ?
ระหว่างนั่งรถพ่อกับแม่ก็ชวนกันคุยเรื่องต้นไม้ อ่อ ฉันลืมบอกไปเลยว่าคุณพ่อหอบต้นไม้ที่ช่วยฟอกอากาศไปฝากคุณอาหมอวีด้วย น่ารักสุดๆ ไปเลยพ่อฉัน ระหว่างนั้นฉันก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดไลน์กลุ่มดู ก่อนหน้านี้ปิดทุกการแจ้งเตือนเพราะรำคาญมาก!
ติ๊ง ติ๊ง ติ๊ง ติ๊ง!!!!
เครื่องค้าง! เข้าไลน์กลุ่มทีไรเป็นแบบนี้ทุกที
เวทมนตร์คนสวย : พวกแกฉันบินคืนนี้แล้วนะ
ฮาน่า : ฉันบินพร้อมมัน
มิวมิว : อยู่เชียงใหม่แล้ว
เมษา : สแตนบายด์อยู่ที่เดิมค่ะ ว่างๆ ก็มาหาได้นะ
จันทร์เจ้าขา : งื่อ รักทุกคนน้า ว่างๆ ก็มาเที่ยวนะ ช่วงนี้ต้องเก็บตัวเพราะคุณพ่อพี่เอสอยากให้มีหลานเลย
ฉันยิ้มกว้างเมื่อได้อ่านไลน์ของจันทร์เจ้าขา มันคงสุขสุดๆ แล้วล่ะเนอะ ส่วนยัยแมษา ที่เดิมของมันก็แถวๆ นี้แหละค่ะ มิวมิวกลับเชียงใหม่แล้ว เวทมนตร์กับฮาน่าบินกลับเมกาคืนนี้ ฉันดีใจที่ได้เจอพวกหล่อนนะยะ ตั้งแต่เรียนจบก็เพิ่งได้เจอกันนี่แหละ
เมษา : ทิชา??? ยูอ่านแล้วทำไมไม่ตอบ
เฮ้อ ฉันขี้เกียจพิมพ์ ไม่อยากถามอะไรแล้วทั้งนั้นในเมื่อรู้แล้วว่าหมอที่ยัยเมษาส่งมาซ้ำเติมในคืนนั้นคือใคร
Me : ไม่รู้จะตอบอะไร จันทร์เจ้าขาขอโทษนะที่กลับก่อน
จันทร์เจ้าขา : ไม่เป็นไรทิชา ดีใจนะที่ทิชามางานเรา
Me : สติกเกอร์หัวใจ
เมษา : เป็นไง คืนนั้นหมอแซ่บมั้ย
ฉันเกลียด!
Me : แซ่บกับผีอะไร กวนตีน กวนประสาท ห่วย!!
เมษา : อะไรวะ???? แกเป็นอะไร
"จะถึงบ้านคุณอาแล้วนะลูก เติมปากหน่อยมั้ย " ฉันเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋าแล้วหยิบกระจกเล็กๆ ขึ้นมาส่อง ถ้าเติมอีกรอบคงต้องลอกออกแทนการใช้คลีนซิ่งแล้วค่ะแม่
" พ่อคะ ต้นไม้ที่คุณพ่อเอามาด้วยน่ารักจังเลยค่ะ " ฉันละสายตาจากกระจกลงไปมองต้นไม้น้อยใหญ่ที่อยู่ในถุง มันเป็นไม้ฟอกอากาศที่พ่อชอบปลูก สามารถเอาไปตั้งไว้ในบ้านช่วยฟอกอากาศให้สดชื่นได้
"พ่อปลูกไว้เยอะเลย ทิชาสนใจมั้ยลูก "
"ก็ดีเหมือนกันค่ะ เห็นแล้วสดชื่นดีจัง ตื่นมาจะได้รับอากาศบริสุทธิ์ " คุณพ่อชวนฉันคุยเรื่องต้นไม้ จากซีอีโอที่ประสบความสำเร็จผันตัวมาเป็นคนปลูกต้นไม้มือหนึ่งของบ้าน แล้วตอนนี้พ่อก็เริ่มลงขายออนไลน์แล้วด้วย ฉันกลัวจัง กลัวว่ามันจะเกิดเป็นบริษัทใหญ่โตขึ้นมาอีก แบบนั้นแม่ได้เร่งให้ฉันมีผัวหนักกว่าเดิมแน่ๆ
เฮ้อ ลูกก็มีตั้งสาม ทำไมต้องทิชาคนเดียวด้วย
"บ้านคุณหมอดูร่มรื่นดีจัง " ฉันมองตามที่แม่พูด ถึงบรรยากาศโดยรอบมันจะค่ำมืดแล้วก็ตามฉันก็สัมผัสได้ว่าบ้านของคุณอาหมอวีร่มรื่นอย่างที่แม่บอก สมแล้วล่ะที่สนิทกับคุณพ่อ ชอบต้นไม้เหมือนกันนี่เอง
ทันทีที่รถจอด แม่บ้านก็รีบวิ่งมาเปิดประตู ฉันอาสาถือถุงต้นไม้ด้วยตัวเอง เพราะอยากยื่นให้คุณอาด้วยตัวเองกับมือ^^
"มากันแล้วหรือคะ "
"คุณอายาหยีขา คุณอาหมอล่ะคะ ทิชามีต้นไม้มาฝากด้วยนะคะ "
"น่ารักจังเลยลูก เอาไปอวดคุณอาหมอด้วยตัวเองดีกว่า คุณอารออยู่ที่โต๊ะอาหาร เชิญทุกคนเลยค่ะ "
ฉันมองต้นไม้ในมืออย่างภูมิใจ คุณอาหมอเป็นผู้ใหญ่อีกคนที่ฉันรักและเคารพไม่ต่างจากคุณพ่อของตัวเอง ท่านดูแลฉันมาตั้งแต่เด็ก ทั้งเรื่องสุขภาพ สติปัญญา และกระบวนการทางความคิด ยิ่งรู้ว่าท่านป่วยฉันก็ยิ่งไม่สบายใจ นานๆ สักครั้งที่ท่านจะป่วย
"คุณอาหมอ "
"ไงเจ้าแสบ ถืออะไรมา "
"ต้นไม้ฟอกอากาศสำหรับคนป่วยค่ะ คุณพ่อยกมาให้คุณอา ทิชาก็เลยอาสาถือมาให้ค่ะ "
"ดูสิเจ้าเด็กคนนี้ " เสียงแม่ฉันเองค่ะ ผิดกับคุณอายาหยี ที่รีบดันหลังให้ฉันเข้าไปหาคุณอาหมอ
"มีเยอะแยะเลยค่ะ คุณอาหมอต้องชอบมากแน่ๆ ทิชารู้ " ฉันนั่งคุกเข่าลงข้างๆ คุณอาหมอพร้อมกับหยิบต้นไม้ออกมาให้ท่านดู
"อืม ขอบใจมากลูก " ท่านดูชอบเพราะยิ้มไม่หุบเลย ฉันยกนิ้วโป้งให้คุณพ่อที่ยืนอยู่ไกลๆ
"หายป่วยเร็วๆ นะคะ ทิชาอยากให้คุณอาฉีดวิตามินให้ อยากให้คุณอาตรวจร่างกายวัดไข้ให้ " ฉันก้มหน้ามองนิ้วตัวเองเพราะฉันรู้สึกแบบนั้นจริงๆ ฉันไม่ไว้ใจใครทั้งนั้น แม้หมอคนนั้นจะเป็นลูกชายแท้ๆ ของคุณอาก็ตาม
"เฮ้อ อ้อนเป็นเด็กเลย หายปวดหัวหรือยัง ทำตามที่พี่เขาบอกหรือเปล่า " จิตวิญญาณของความเป็นหมอเข้าสิงคุณอาแล้ว
"ทำค่ะ " ฉันจำใจตอบเพราะรู้อยู่แล้วว่าต้องถูกถาม
"ดีมากลูก จะหายเร็ว ๆ "
"อาหารยังเตรียมไม่เสร็จเลยค่ะ "
"ไม่เป็นไรเลยยาหยี พวกเรามาก่อนเวลา เผื่อว่าพ่อของทิชาเขาอยากคุยกับหมอวี " ฉันหันขวับไปหาแม่ทันที แล้วก็เร่งฉันยิกๆ สรุปมาก่อนเวลา?! เพื่ออะไร?? โอ๊ยฉันนี่อยากกรี๊ด! แล้วดูให้แต่งตัวมาสิ เฮ้อ ถอนหายใจจนขนจมูกหลุดหายหมดแล้ว
"ถ้าอย่างนั้น ไปห้องยาหยีมั้ยคะ ยาหยีมีอะไรจะให้ดู "
อ้าว ซะงั้น ไม่ใช่แค่พ่อกับอาหมอที่หาเรื่องต้นไม้มาคุยกัน อายาหยีกับแม่ก็เหมือนกันชวนกันขึ้นไปบนห้อง แล้วฉันล่ะ??
ฉันออกมาเดินเล่นข้างนอก เพราะอยู่ไปก็ไม่รู้จะคุยกับใครเรื่องของผู้ใหญ่ฉันไม่อยากยุ่ง บ้านอาหมอกว้างมากๆ มีสวนข้างบ้านเหมือนที่บ้านฉันเลย
"แฮ่ก แฮ่ก "
"วะ ว้าย"
"ชาเย็น มานี่ "
"งับ "
"กรี๊ดดดดดดดดด " ไอ้หมาบ้ามันงับตูดฉัน อีหมาจัง!! โอ๊ย หยาบไป แกมางับตูดฉันได้ยังไง งื่อ ฉันร้องเสียงหลง แต่ยิ่งร้องมันก็ยิ่งคึก ฉันวิ่งหนีมันก็วิ่งตาม ตูดฉันหอมหรอ??? ไม่นะ! ม่ายย
"ชาเย็น! หยุด!
" ไป ไป ออกไป " หน้ามันบานมากค่ะ มึงจะมีความสุขที่ได้กัดตูดกูไม่ได้ ไอ้โกลเด้นติ๊งต๊อง!!!!
"หยุดวิ่งสิโว้ย!! "
กึก
"หมาหรอ? "
"เธอนั่นแหละ " อ๋อ ที่ตะโกน หยุด นี่บอกฉันใช่มั้ย ไม่ใช่หมา
"มันงับก้นฉัน "
"ชาเย็นมานี่ "
"พาเข้ากรงให้เรียบร้อย "
"ครับคุณวาโย " เจ้าโกเด้นลามกเดินตามคนดูแลไปแล้ว ส่วนฉันก็รีบเอามือลูบก้นตัวเองเพื่อเช็กความเรียบร้อย ไม่รู้ว่ามันเล่นหรือจริง แต่ฉันก็รู้สึกเจ็บอยู่นะ
" สงสัยมันไม่ชอบสีน้ำเงิน "
"หมาลามก! "
"เจ็บหรือเปล่า "
"เจ็บสิถามได้ "
"เฮ้อ ตามฉันมา " ฉันมองหน้าเขางงๆ ตามไปไหน ไปทำไม?
"ปะ ไปไหน ให้หมามาขอโทษฉันก็พอ " ฉันคิดได้แค่นี้จริงๆ ทำผิดก็ต้องขอโทษ โคตรโง่เลย! หมายถึงตัวเองนี่แหละ หมาที่ไหนมันจะรู้เรื่องวะ!
" ไปเปิดก้นให้ฉันดู จะได้หายามารักษาถูก หรือจะรอให้ชาเย็นมางับก้นอีกข้าง " พูดออกมาหน้าตาเฉย แต่ช่วยดูหน้าฉันด้วยค่ะ
" นี่ก้นฉันนะ "
" ฉันเห็นมาหมดละ "
" =_=! "
เห็นมาหมด คืออะไร??? สองแง่สองง่าม
______
