Chapter.3 หมอกับอดีต
"คุณน้าครับ คุณแม่มาด้วยนะครับ ตอนนี้อยู่ในสวนท่านชมเรื่องดอกไม้ใหญ่เลย " หรอ! เออดีเนอะ ฟาดหน้าฉันแล้วช่วยเอาผ้าเย็นมาโปะให้ แม่เลิกทำตาเขียวใส่แล้วเดินออกไปที่สวนทันที!
ส่วนฉันต้องอยู่กับหมอโรคจิตคนนี้ต่อ!! ไม่อยากจะเชื่อว่าเขาคือพี่วาโยลูกชายคนเดียวของคุณอาหมอวี แถมยังเป็นหมอเหมือนคุณอาอีกด้วย
"ไม่ต้องทำหน้าเซ็งหรอกนะ ผมมาตรวจคุณแค่ครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น "
"ทำไมต้องโกหกแม่เรื่องอาสามาส่งที่บ้านด้วย เป็นอะไรมากมั้ย ทำไมชอบใส่ร้ายคนอื่น " เรื่องขอมาส่ง ตอแหลสิ้นดี! เขาไม่เคยเอ่ยปากขอมาส่งฉันที่บ้านเลยสักนิด
"ไม่ชอบหรอ? "
"ฉันไม่ชอบ "
"มีอะไรบ้างที่คุณชอบ " แล้วเขายุ่งอะไรด้วย! มันไม่เกี่ยวกับเขาเลยสักนิด ช่างแตกต่างจากอาหมอวีอย่างสิ้นเชิง กับคนไข้คนอื่นเขาพูดแบบหรือเปล่า?
"ทะ ทำอะไร " ฉันสะดุ้งตกใจเมื่ออยู่ๆ เขายื่นมือใหญ่มาแตะตรงหน้าผาก
"วัดไข้ พ่อบอกว่าคุณต้องฉีดวิตามิน ผมก็เลยต้องวัดไข้คุณก่อน " วัดไข้?? โดยไม่ต้องใช้ปรอทเหมือนคุณอา เหอะ ชัวร์จริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ เป็นลูกคุณอาก็จริงแต่ก็ใช่ว่าจะได้คุณอามาหมด อย่างแรกที่ไม่ได้มาเลยคือ นิสัย!!
"ไม่ ฉันไม่ให้ใครฉีดวิตามินให้ทั้งนั้น นอกจากอาหมอวีคนเดียว "
"พ่อผมป่วย คุณจะเอาแต่ใจโทรตามพ่อผมก็ได้นะ " เขาตีแสกหน้าฉันอีกแล้ว ฉันไม่ได้เอาแต่ใจ ฉันหมายถึงวันอื่นก็ได้ที่ไม่ใช่วันนี้ รอให้คุณอาหายก่อนก็ได้ ฉันรอได้ ฉันไม่ได้ต้องการแบบที่เขาพูดเลยสักนิด
"ฉันไม่ฉีด แล้วก็ไม่ตรวจแล้วด้วย กลับไปได้แล้วค่ะ "
"ไม่กลับจนกว่าผมจะตรวจร่างกายแล้วก็ฉีดวิตามินให้คุณ "
พรึ่บ
"อ๊ะ นี่ ปล่อยนะ บอกแล้วไงว่าไม่ฉีด " ฉันเริ่มน้ำตาคลอ ฉันกลัวเข็ม! กลัวไอ้บ้านี่ด้วย ทำไมถึงดุแบบนี้ นอกจากพูดจาไม่ถนอมน้ำใจกันแล้วยังดุเหมือนหมาอีก
"หึ แค่นี้ก็น้ำตาคลอแล้วหรอ ทำไมไม่เก่งต่อล่ะ "
"ฉันไปทำอะไรให้คุณ ทำไมต้องทำแบบนี้ " ฉันมองหาแม่แต่ก็ไม่เห็น ไม่มีใครอยู่แถวนี้เลย แม่รู้มั้ยว่าหนูกำลังจะถูกฆ่า
"ทำอะไร? ถ้ายังเอาแต่ใจแบบนี้ ก็ไม่มีอะไรถูกใจเธอหรอก นอกจากความคิดของตัวเอง "
ฉันกัดฟันกรอดมองหน้าเขาอย่างหงุดหงิด!! ฉันไม่เคยทำอะไรให้เขาไม่พอใจ ตั้งแต่ครั้งแรกจนถึงตอนนี้ มีแต่เขานั่นแหละที่พยายามหาเรื่องฉัน เขาต้องการอะไร อยากเห็นทิชาเว่อชั่นร้ายๆ หรอ!? อยากเห็นมากป่ะ อยากเห็นจะได้จัดให้ เอาให้กระอักเลือดตายหาทางกลับบ้านไม่ถูกไปเลย
"ไม่ตรวจ! ฉันจะเอาแต่ใจแล้วทำไม กลับไปได้แล้ว ฉันจะขึ้นไปนอนต่อ "
"เหอะ! "
"ต้องการแบบนี้ไม่ใช่หรอ ฉันไม่ได้เป็นอะไรมากแล้ว แค่ปวดหัว " ไมเกรนคงกำเริบเพราะฉันอดนอนหนึ่งคืนกับอีกหนึ่งวันแถมยังซดไวน์เหมือนอดอยาก ก็เลยทำให้ร่างพังสมองล้ามวลท้องจนอ้วกแตกจมกองอ้วกอย่างที่เขาเห็นนั่นแหละ
" มันไม่ใช่แค่ปวดหัว ไมเกรนมันอยู่กับเธอ แต่เธอก็ยังไม่ดูแลตัวเอง ถ้ายังดื้อ ฉันจะจับเธอมัดแขนมัดขาแล้วแทงเข็มลงไปลึกๆ เดินยาเร็วๆ เอาให้ปวดไปสามวันเจ็ดวันเลย "
"นี่ เป็นหมอทำไมมาขู่คนไข้แบบนี้ เก็บกดอะไร?? ไหนบอกมาสิ " ฉันเริ่มกลัวเพราะสายตาและน้ำเสียงของเขามันจริงจังจนฉันเริ่มนั่งไม่ติด เขาจะทำฉันแบบนั้นจริงๆ หรอ แค่คิดน้ำตาก็คลอเบ้ารอ ฉันกลัวเข็มฉีดยาที่สุด กลัวแม้กระทั่งที่วัดไข้ TT ทำไมชีวิตฉันมันถึงได้บัดซบขนาดนี้!
ใจคอทำด้วยอะไร ทำไมต้องขู่กันด้วย
"ทิชาแม่จะออกไปข้างนอกกับคุณอายาหยีนะลูก มาสวัสดีคุณอาก่อนเร็ว " คุณอายาหยี
"ฮึก ฮือ คุณอาขา " ฉันร้องไห้เป็นเผาเตาแล้วรีบลุกเดินไปหาคุณอา คุณอารีบกอดฉันแล้วลูบหลังเบาๆ ฉันกลัวจริงๆ ไอ้หมอคนนั้นมันขู่ว่าจะแทงเข็มลึกๆ แล้วเดินยาเร็วๆ ฉันไม่ชอบ ฉันไม่อยากอยู่ใกล้มันอีกแล้ว
"วาโย ทำอะไรน้อง แกล้งน้องอีกแล้วใช่มั้ย " คุณอายาหยีทำเสียงดุใส่ลูกชาย ไร้การตอบกลับ สีหน้าของหมอเรียบเฉยมาก นั่นเขายังเป็นคนอยู่ใช่มั้ย?!
"วาโย "
"แม่ครับ ผมทำหน้าที่ของหมอ ในขณะที่คนไข้ไม่ให้ความร่วมมือ แบบนี้ไม่ได้เรียกว่าแกล้งนะครับ "
"เอาล่ะๆ ทิชาอาจจะเอาแต่ใจตัวเองเกินไปหน่อย วาโยน้าขอโทษแทนลูกสาวน้าด้วยนะลูก ว่าแต่ตรวจกันเสร็จหรือยัง " แม่ไม่เคยเข้าข้างฉันเลยสักนิด ฉันขอโกรธแม่อีกคน ตอนนี้มีแค่คุณอายาหยีที่เข้าข้างฉัน ที่ต้องเรียกอาเพราะคุณอาหมอวีเป็นเพื่อนกับพ่อแต่อายุน้อยกว่าพ่อประมาณหนึ่งปี ฉันก็เลยเรียกคุณอา
"ไม่ตรวจแล้วค่ะ คุณอาขาเขาขู่จะฉีดยาทิชาแรงๆ ค่ะ " ฉันหันไปฟ้องคุณอาอีกรอบ จะว่าฉันขี้ฟ้องก็ได้ แต่ฉันจะไม่ยอมให้หมอนี่ฉีดยาให้เด็ดขาด!!!
"วาโย เมื่อไหร่จะเลิกแกล้งน้องสักที โตป่านนี้แล้ว เฮ้อ ลูกคนนี้ "
"เดี๋ยวนะคะ เขาเคยแกล้งทิชาด้วยหรือคะ " ฉันเกาหัวงงๆ หันไปถามคุณอาแล้วก็มองหน้าแม่สลับกัน
ฉันรู้สึกว่าเพิ่งรู้จักเขาเองนะ????
"เอาล่ะๆ รีบฉีดวิตามินให้น้อง " คุณอาตัดบทดังฉับ แล้วดึงฉันมานั่งโซฟาเหมือนเดิม
"ไม่เอาค่ะคุณอา "
"อาอยู่ด้วย ไม่ต้องกลัวลูก ถ้าทำหนูทิชาเจ็บ อาจะตีให้ตายเลย " แต่ฉันก็ยังกลัวอยู่ดี มันฝังใจไปแล้วกับเรื่องฉีดยา ฉันคิดว่าสักวันหนึ่งจะลืมมันได้ แต่ไม่เลย ยิ่งเห็นเข็มแหลมๆ ปลายคมๆ ก็อยากวิ่งหนีไปให้ไกล แต่ฉันก็ทำไม่ได้
เพราะถ้าไม่ฉีด สิ่งหนึ่งที่ฉันจำได้ตลอด พ่อบอกว่าฉันจะไม่หายแล้วก็กลายเป็นคนบ้า
"อย่าเกร็งนะ " ไม่รู้ว่าเพราะมีคุณอาอยู่ด้วยหรือเปล่าเขาถึงได้นุ่มนวลกับฉัน สำลีชุบแอลกอฮอล์ทำให้รู้สึกเย็นวาบที่หัวไหล่ ฉันจับมือคุณอาแน่น
"บอกว่าอย่าเกร็ง " คุณอาลูบแขนฉันเบาๆ แล้วพยักหน้าให้ฉันทำตาม
"อย่าทำเจ็บนะ " ฉันมองหน้าเขาด้วยสายตาที่หวาดกลัวปนอ้อนวอน ฉันกลัวจริงๆ กลัวมากๆ
"หันหน้าไปทางอื่น หรือเธอจะมองหน้าฉันก็ได้ "
"หรือเธอจะมองหน้าพี่ก็ได้ "
อยู่ๆ ประโยคนี้มันก็ผุดขึ้นมาในหัว ฉันเลือกที่จะมองหน้าเขา
"ทิชากลัว "
"กลัวก็มองหน้าพี่ " นี่ไม่ใช่เสียงที่ผุดขึ้นในหัวของฉัน แต่มันเป็นเสียงที่หลุดออกมาจากปากของเขา ฉันเผลอสบตากับเขาแวบหนึ่งจากนั้นก็ก้มหน้าลง
อะไรกัน??
"อ๊ะ "
"ใกล้แล้วลูก ใกล้เสร็จแล้วนะ "
"เรียบร้อย ผมจะจัดยาให้คุณหลังอาหารเช้าเย็น เป็นยาบำรุง ต้องกินให้ครบห้ามขาด ลดกาแฟ ของทอด ของหวาน ห้ามนอนดึก ถ้ายังทำไม่ได้ มันจะหนักขึ้นกว่าเดิม "
"ค่ะ " อยู่ๆ ฉันก็ไม่กล้ามองหน้าสบตากับเขา ทำได้แค่พยักหน้าแล้วก็ตอบไปว่า ค่ะ เมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เขาก็เก็บอุปกรณ์ลงกระเป๋าเครื่องมือแพทย์
"เย็นนี้อย่าลืมนัดล่ะ พาหนูทิชาไปด้วยนะ "
"นัดอะไรคะแม่ คุณอา?? "
"วันนี้เราจะไปทานข้าวบ้านคุณอายาหยีกันลูก " แม่ดูตื่นเต้นอีกแล้ว ฉันไม่อยากไปเลย อยากพักผ่อนมากกว่า วันหยุดก็อยากนอนยาวๆ เพราะวันจันทร์ฉันมีประชุมกับบอร์ดบริหาร
"ทิชาไปนะลูก อาหารที่หนูชอบอาจะทำเอาไว้รอ" แพ้ความน่ารักของคุณอายาหยีอีกแล้ว
"ก็ได้ค่ะ "
---------
