Chapter.2 Frist Impression <2>
May_Za ถูกใจ 18,900 คน
May_Za "กรี๊ดดดดดด เย่ๆ ฉันได้ช่อดอกไม้ กรี๊ดดดดด " #WeddingJ&A
Boo_L บิ้วมากค่ะพี่เม
R_Rrr สวยมากครับน้องเม
PP__dd สวยมากเลยครับ จีบได้มั้ย ผมรวยนะ
"เหอะ แต่ละโคตรปั่น "
ดี๊ด๊า เกินหน้าเกินตา เว่อวังอลังการ ทำยังกะได้ผัวเป็นตัวเป็นตนเตรียมแจกซองอย่างนั้นแหละ!
ฉันถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่แล้วโยนโทรศัพท์ไปข้างๆ จากนั้นก็ล้มตัวลงบนที่นอนนุ่มๆ ของตัวเองอีกครั้ง สุดท้ายคนที่ได้ช่อดอกไม้ก็คือยัยเมษา หึ ส่งหมอมากวนประสาท ทำให้ฉันอับอาย ส่วนตัวเองเริงร่าอยู่กับช่อดอกไม้ ทิ้งเพื่อนได้ลงคอ!! จิตใจอำมหิตมาก ฉันต้องรู้ให้ได้ว่าหมอคนนั้นเป็นใคร ทำงานที่ไหน ชื่ออะไร เงินเดือนเท่าไหร่ ขับรถสีอะไร เขาทำตัวแย่มากๆ แย่ที่สุด!! ฟาดหน้าฉันได้เจ็บแสบมาก
เมื่อคืนฉันขับรถกลับเอง ดีนะที่กลับมาถึงพ่อแม่เข้านอนหมดแล้ว เมื่อเช้าฉันโทรให้คาร์แคร์มารับรถไปล้างเน้นเฉพาะภายในเพราะกลิ่นมันไม่ไหวจริงๆ กลับมาถึงบ้านฉันก็รีบอาบน้ำฟาดยาไมเกรนแล้วหลับปุ๋ย ตื่นเช้ามาก็หยิบโทรศัพท์มาเปิดดูก็เห็นคลิปยัยเมษาหน้าบานนี่แหละ หมั่นไส้ชะมัด!!!! แถมอัปไอจีขิงใส่เพื่อนทั้งแก๊งอีก!!
ฉันนอนกลิ้งไปกลิ้งมา คิดนู่นนี่นั่นไปเรื่อยเปื่อย --_
หรือว่า หมอคนนั้นจะเป็นหมออยู่โรงพยาบาลพี่เอส?? นั่นสิ น่าจะใช่แน่ๆ เพราะคืนนั้นมีแค่งานแต่งพี่เอสกับจันทร์เจ้าขาเท่านั้น แต่จะให้ฉันโทรไปถามพี่เอสตอนนี้คงไม่เหมาะ ไม่รู้ว่าป่านนี้เจ้าบ่าวกับเจ้าสาวฟื้นกันหรือยัง เอาล่ะ อย่างน้อยๆ ก็มีข้อมูลอยู่บ้าง ฉันคงไม่โทรไปถามยัยเมษาตอนนี้หรอก ไม่อยากโทรไปฟังคำขี้โม้โอ้อวดเรื่องช่อดอกไม้
หมั่นไส้!!! แค่คิดยังเบะปาก คิดดูว่าแค้นแค่ไหน!
"ทิชา กินข้าวลูก "
"ค่ะแม่ ทิชายังไม่หิวค่ะ " แปลก ทุกเช้าฉันจะตื่นขึ้นมาพร้อมกับความหิวโหย แต่วันนี้มันแปลกมากๆ ฉันไม่หิวอะไรเลย เอาแต่คิดเรื่องเมื่อคืน เฮ้อ คงเป็นเพราะไม่เคยมีใครทำแบบนี้กับฉันมาก่อนด้วยแหละ ฉันก็เลยรับไม่ได้
"สายแล้วนะลูก ให้แม่เข้าไปได้มั้ย " ชุด!!! ฉันรีบวิ่งลงจากเตียง แล้วหยิบซากชุดราตรีแสนสวยที่เปื้อนอ้วกตัวเองโยนเข้าไปในซอกแล้วเลื่อนเก้าอี้มาปิดอีกที หวังว่ากลิ่นคงไม่โชยทำให้แม่สงสัย นึกถึงแล้วก็อยากแหวะออกมาอีกรอบ
"ค่ะแม่ " หลังจากเก็บชุดเสร็จฉันก็รีบกลับมาที่เตียง ดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวเอาไว้ วันหยุดฉันจะตื่นสายแบบนี้ประจำ แต่เรื่องที่ไม่ประจำคือฉันจะต้องลงไปกินมื้อเช้าที่แม่ทำเอาไว้รอ ที่บ้านมีลูกสามคนแต่ตอนนี้เหลือแค่หนึ่งเพราะอีกสองติดเมียหนักมาก ขนาดเป็นหมอไม่ค่อยมีเวลามันก็ยังหาเมียสร้างครอบครัวได้เร็วกว่าฉัน
" ทำไมไม่ลงไปกินข้าว งานเมื่อคืนเป็นยังไงบ้างลูก มีหนุ่มๆ มองบ้างมั้ย "ฉันว่าแม่ไม่ได้ห่วงเรื่องปากท้องลูกสักเท่าไหร่ ดูจากชุดที่ลงทุนซื้อให้ลูกสาวแล้วน่าจะหวังผลอะไรบางอย่าง
"มีหนุ่มเมินค่ะแม่ "
"อะไรนะ ใครเมินลูก ลูกแม่ออกจะสวยขนาดนี้ แม่อยากเห็นหน้าหนุ่มคนนั้นจริงๆ เลย "
"จะไปลากมาจัดการใช่มั้ยคะ "
"เอาไปเลยสองล้าน "
"แม่คะ =_= " ขนาดแม่ยังไม่เข้าข้างฉันเลย แล้วก็บ่นว่าอยากได้ลูกเขย มองเห็นอนาคตเลยว่าถ้าฉันหาลูกเขยเข้าบ้านได้เมื่อไหร่ เตรียมตัวหัวเน่าได้เลย
"แม่พูดเล่น เก็บสองล้านเอาไว้ไปขอลูกเขยให้ลูกดีกว่า " มันต้องขนาดนั้นเลยหรือคะแม่! ฉันไม่เห็นซีเรื่องนี้เลย หาไม่ได้ก็อยู่แบบนี้แหละ
"แม่คะ ทิชาไม่มีก็ได้ค่ะ "
"เฮ้อ ไม่คิดเลยว่าลูกสาวจะขายยากขนาดนี้ แม่อยากให้ทิชามีครอบครัวนะลูก แม่กับพ่อก็ไม่รู้ว่าจะอยู่กับลูกได้นานแค่ไหน แม่ไม่อยากมีห่วง แม่อยากตายตาหลับ " เข้าโหมดนี้อีกละ ฉันบีบมือแม่เบาๆ ไม่อยากให้แม่คิดมากเรื่องคู่ครองของฉัน แต่ละอย่างที่ฉันเจอมันทำให้ฉันรู้ว่าเพศชายมันก็เอาแต่ได้ มีไอ้นั่นแท่งเดียวก็คิดว่าตัวเองคือผู้วิเศษ
ฉันสนุกกับการซื้อมาควงมากกว่า จะให้ถึงขั้นผูกมัดคงยังไม่ใช่
"แค่เรื่องงานหนูก็เหนื่อยมากแล้วค่ะ พอโตขึ้นหนูก็เริ่มเลือกมากขึ้น แม่ก็รู้นี่คะว่าหนูเอาแต่ใจตัวเองมากแค่ไหน ไม่มีใครทนอยู่กับผู้หญิงอย่างหนูได้นานหรอกค่ะ " กี่คนแล้วที่ทนฉันไม่ได้ บางคนยังไม่ทันได้เจอกันด้วยซ้ำก็เทฉันทิ้งลงแม่น้ำเรียบร้อย
"แล้วหนุ่มคนไหนที่ทำให้ลูกแม่ไม่ลงไปกินมื้อเช้า นั่งหน้ามุ่ยอยู่แบบนี้ บอกแม่ได้มั้ย " อยากรู้แหละ ดูออก ฉันปิดอะไรแม่ไม่ได้อยู่แล้ว เพราะแม่เจับผิดคนเก่งมาก โดยเฉพาะจับผิดพ่อ
" หนูไม่รู้จักเขา ไม่เคยเห็นหน้า รู้แค่ว่า เขาเป็นหมอรู้จักกับยัยเมษา "
"แฟนเมษาหรอ "
"ไม่รู้ค่ะ นิสัยห่วยมาก หนูไม่ชอบเลย " ฉันฮึดฮัดออกอาการจนแม่ลูบแขนเบาๆ เพื่อปลอบ ครั้งนี้ฉันคงไม่ได้เอาแต่ใจจนเกินเหตุใช่มั้ย เพราะครั้งนี้ฉันถูกกระทำ พูดถึงแล้วก็หงุดหงิด!!
" เขาทำอะไร ขัดใจลูกหรอ " แม่เอียงคอถามฉันอีกครั้ง เอาไง จะตอบยังไง ถ้าบอกความจริงไปแม่ต้องกรี๊ดแตกแน่ๆ ชุดนั่นราคาไม่ใช่พันสองพัน ถ้าแม่รู้ว่ามันเลอะอ้วก แม่ต้องด่าฉันบ้านแตกแน่ๆ เอาไงๆ
ฉันฝืนยิ้มแทนคำตอบเพราะยังไม่กล้าตอบออกไป
"ว่าไงลูก "
ก๊อก ก๊อก
"คุณทิชาคะ คุณหมอที่นัดเอาไว้มาแล้วค่ะ " หมอมาพอดีเลย เฮ้อ โล่งอก ฉันต้องรีบส่งชุดไปซักให้เร็วที่สุด ไม่อย่างนั้นแม่จะเฝ้าถามฉันจนกว่าจะได้คำตอบ
"ทำไมนัดมาวันนี้ล่ะลูก "
"เมื่อคืนทิชาปวดหัวหนักมาก ก็เลยนัดคุณหมอมาที่บ้านค่ะ "
"ดื่มหนักอีกแล้วใช่มั้ย "
" นิดหน่อยเองค่ะ หนูไปอาบน้ำก่อนนะคะ " ฉันยื่นจมูกไปหอมแก้มแม่แล้วรีบเดินเข้าห้องน้ำ
"อย่าให้อาหมอรอนานนะลูก " อาหมอที่ว่าก็คือเพื่อนของพ่อ อาหมอวีเป็นหมอประจำบ้านเรามาตั้งแต่ฉันยังเด็ก ตอนเด็กๆ ฉันเข้าออกโรงพยาบาลบ่อย จนอาหมอต้องมารักษาฉันถึงที่บ้านเพราะว่าสงสาร ฉันร้องไห้ทุกครั้งที่เห็นเข็มฉีดยา กลัวแม้กระทั่งถูกวัดไข้ ปัจจุบันฉันก็ยังเป็นแบบนั้น
------
"อาหมอสวัสดีค่ะ ขอโทษนะคะ ที่ทิชาลงมาช้า "
"ช้าไป ยี่สิบนาทีกับอีก ยี่สิบวินาทีพอดี "
"คุณ ไม่ใช่อาหมอวีนี่ " แน่นอนว่าอาหมอไม่พูดเรื่องเวลากับฉันแน่นอน เพราะทุกครั้งที่อาหมอมาที่นี่ อาหมอจะนั่งรอฉันอยู่ในสวนกับพ่อคุยเรื่องสุขภาพเรื่องธุรกิจ แต่นี่ไม่ใช่ หมอคนนี้ทั้งหนุ่มแล้วก็ ...
"ใช่ ผมไม่ใช่ "
"คุณ "
"เชิญนั่งครับผมมีเวลาไม่มาก "
"วาโยใช่มั้ยลูก กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ทิชาไหว้พี่เขาหรือยังลูก " ไหว้!! ทำไมฉันจะต้องไหว้ผู้ชายที่ไล่ฉันไปล้างตัวที่ก๊อกน้ำโดยที่เขาไม่คิดจะช่วยฉันเลย! แถมยังทำท่ารังเกียจฉันยิ่งกว่าไส้เดือนกิ้งกือ
"แม่อยากรู้ใช่มั้ยคะว่าใครที่ทำให้หนูกินมื้อเช้าไม่ลง! "
"ว่าไงนะลูก "
"ผู้ชายคนนี้ไงคะ "
"ถ้าคุณสบายใจก็เอาเถอะ เมื่อคืนนี้กลับมาถึงบ้านอาเจียนอีกหรือเปล่าครับ " เขาถามกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบแล้วมองหน้าฉันเพื่อต้องการคำตอบ แต่รู้อะไรมั้ยว่าแม่กำลังมองฉันตาเขียว!
" ทิชา หนูอาเจียนเลยหรอลูก "
"ที่งานหน่ะครับ ผมจะมาส่งเธอก็ไม่ยอม "
"แล้วชุดที่แม่ซื้อให้ " แม่ห่วงชุด มากกว่าห่วงลูก ให้ตายสิ ฉันเกลียดผู้ชายคนนี้ว่ะ!!
------
