บทที่ 17 พิรุธ
“เหอะ! กูล่ะไม่อยากจะเทียบกับอียุรี รายนั้นน่ะ พ่อฝรั่งเขาให้ทีละห้าหกหมื่น แต่เอาเถอะได้เท่านี้ก็ยังดีกว่ามานั่ง ๆ นอน ๆ ให้เปลืองข้าว เปลืองไฟ”
หลังจากดาริกากลับมาอยู่ที่บ้านเช่ากับแม่แล้ว ในทุกวันเธอจะแอบมองยุรี ที่นั่งรถหรูเข้ามา พร้อมหอบหิ้วเสื้อผ้าราคาแพง เนื้อตัวของยุรีมีเครื่องประดับเต็มตัวไปหมด ซึ่งแตกต่างจากดาริกาอยู่มาก เธอก้มมองเสื้อผ้าที่สวมใส่อย่างไร้ราคา แล้วย่อตัวลงนั่งยอมรับจากใจว่าลึก ๆ ก็รู้สึกอิจฉายุรีอยู่มาก
“อีดา!”
“อะไร แม่จะว่าอะไรหนูอีก”
“หลังจากคลอดแล้ว ทิ้งเด็กไว้กับพ่อมัน แล้วแกไปเริ่มต้นใหม่ซะ”
“...” หญิงกลางคนเดินเข้ามาใกล้
“แม่ให้อียุรี มันติดต่อเพื่อนผัวมันให้ละ เขาชื่อไมเคิล รวยกว่าผัวอียุรีเยอะ ยังไงซะ แกก็ต้องไป ฉันไม่ยอมให้แกลำบากอับอายคนอื่นอยู่แบบนี้หรอก จริงอยู่ที่ว่าอีกหน่อยพอคลอดก็จะกลับไปทำงานได้ สองคนผัวเมียช่วยกัน แต่มันจะได้สักกี่บาทกัน สู้พวกเงินถุงเงินถังไม่ได้หร๊อก”
ดาริกายังคงทอดสายตามองมายังวิวเบื้องล่าง ก่อนจะก้มกดมือถือค้นหาข้อมูลส่วนตัวของอารัณย์ เพื่อการณ์บางอย่าง ไม่มีสิ่งใดทำให้ดาริการู้สึกเสียใจ เท่าการตัดสินใจพลาดในครั้งนั้น
หลังจากนับดาวอาบน้ำชำระล้างร่างกายเสร็จสิ้น เธอเดินเอาผ้าผืนเล็ก เช็ดปลายผมให้แห้ง แล้วเดินตรงมายังลิ้นชัก หยิบสมุดบันทึกเล่มเล็กขึ้นมาแล้วปล่อยยิ้มให้กับความรักลับ ๆ ของตัวเอง ก่อนเลื่อนมือไปหยิบปากกา แล้วจดบันทึกเหตุการณ์อีกครั้ง
“เดือนมกราคม ปี 2021 พักนี้ได้เจอกับพี่อารัณย์บ่อยขึ้น เขามาทานข้าวที่บ้าน พร้อมกับน้องไอริณ เป็นครั้งแรกที่ดาวรู้สึกว่าเราได้คุยกันมากขึ้นเรื่อย ๆ .....แต่รักลับ ๆ ของนับดาวเกือบความแตก ทั้งพี่อารัณย์และพี่เจนภพต่างก็สงสัยในเรื่องเดียวกัน ที่ว่าพี่อารัณย์ไม่เคยเจอหน้าดาวเลยสักครั้ง (จะเจอได้อย่างไร ก็ดาวแอบอยู่) ” หญิงสาววางปากกา ก่อนเสียงเปิดประตูห้อง ทำให้นับดาวสะดุ้งตัวโหยง พลางลุกขึ้นยืนอย่างมีพิรุธ รีบหยิบสมุดบันทึกหลบไว้ด้านหลัง ดวงตากลอกกลิ้งไปมาแล้วฝืนยิ้มเพื่อกลบเกลื่อน
“พี่ภพ!”
“ทำอะไรอยู่คะ” น้ำเสียงของชายหนุ่มกล่าวถาม พลางเดินเข้ามาใกล้ ก่อนที่นับดาวจะเบี่ยงตัวหลบอย่างมีพิรุธ
“เปล่าค่ะ ดาวกำลังจะนอน พี่ภพมีอะไรหรือเปล่าคะ”
“อะไรอยู่ข้างหลัง”
“ไม่มี๊ ไม่มีค่ะ” หญิงสาวยืนยันเสียงสูง เจนภพยิ้มอ่อนแล้วทำปล่อยผ่านไปไม่เซ้าซี้ พลางเดินมาทิ้งตัวลงนั่งยังเตียงนอนสีหวาน
“พี่ดูสายตาเราออกนะ เวลามองอารัณย์” นับดาวชะงัก รู้สึกตัวชาอย่างบอกไม่ถูก เธอนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะฝืนยิ้มออกมา
“พี่ภพพูดอะไร ดาวไม่เข้าใจ”
“ไม่เข้าใจที่พี่พูดจริง ๆ เหรอ” นับดาวเม้มปากแน่น ไม่ตอบคำถาม เจนภพนั่งมองน้องสาวตัวเองครู่หนึ่ง เมื่อแน่ใจแล้วว่านับดาวยังไม่พร้อมเปิดใจ เขาจึงกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“เอาล่ะ พี่อาจจะดูผิดไป ดาวนอนเถอะ” เจนภพพูดพร้อมจับศีรษะของหญิงสาวด้วยความเอ็นดู ก่อนจะลุกเดินออกจากห้องไป นับดาวพ่นลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก พลันหันไปยังลิ้นชัก แล้วหย่อนสมุดบันทึกลงไปเก็บไว้ในที่เดิม
เสียงเรียกของป้าสุดาดังขึ้นกลางดึก ทำให้อารัณย์งัวเงียขึ้นมา พลางเปิดไฟหัวเตียง แล้วเบี่ยงตัวมายังประตู
“มีอะไรเหรอครับ” ชายหนุ่มเอ่ยถามในขณะที่สะลึมสะลือ
“มีคนมาหาค่ะ” อารัณย์ขมวดคิ้ว
“ใครเหรอครับ”
“ไม่ทราบค่ะ เธอว่าถ้าคุณอารัณย์เห็นก็จะรู้เอง” ชายหนุ่มขบคิดครู่หนึ่ง ก่อนหันตัวกลับเข้ามา แล้วขยับผ้าขึ้นมาห่มผ้าให้ไอริณ พลางทอดสายตามองเด็กหญิงตัวเล็กที่นอนหลับอยู่บนเตียง ก่อนตัดสินใจเดินตามป้าสุดาออกมายังโถงรับแขก
หญิงสาวผมยาวหน้าตาสะสวยมองตรงมาชายหนุ่มด้วยสายตาเศร้า อีกทั้งนัยน์ตาบ่งบอกว่าเธอผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก
“เสร็จธุระแล้ว ป้าสุดาไปพักเถอะครับ ทางนี้ผมจัดการเอง”
“ค่ะ” หญิงกลางคนรับปาก แล้วเดินหายไป ดาริกาวิ่งเข้ามาสวมกอดอารัณย์พลางร้องไห้อย่างหนัก ในขณะที่ชายหนุ่มปล่อยให้เธอร้องไห้จนพอใจโดยไม่พูดอะไรขัด
