EP.8 พรหมลิขิต
โนอาร์รีบคว้าผ้าขนหนูสีขาวสะอาดตามาพันท่อนล่างตัวเองเอาไว้ แล้วก้าวเท้ารีบวิ่งตามเรย์เลนออกไปทันที แต่ไม่ทันเสียแล้ว เรย์เลนไม่อยู่แล้ว กำปั้นใหญ่ทุบเข้าไปที่กำแพงอย่างไม่กลัวเจ็บ
เรย์เลนวิ่งออกมาจากโรงแรมหรู น้ำตานองหน้า นึกน้อยเนื้อต่ำใจ ที่โดนดูถูกว่า ‘ร่าน’แต่พอนึกย้อนไปมันก็จริง เธอเป็นคนเสนอตัวให้โนอาร์เองนี่ เขาคิดแบบนี้ก็ไม่ผิด คนที่ผิดคือเธอที่เป็นฝ่ายเริ่มเรื่องบ้าๆ นี้ขึ้นมาเอง
ท้องฟ้ามืดครึ้ม แสงไฟสลัวจากหลอดไฟข้างทาง เวลานี้ตีสองกว่าๆ เธอเดินไปร้องไห้ไปราวกับคนสิ้นสติ คิดจะโทรหาพีทให้มารับก็ไม่ได้ เพราะตอนถูกฉุดกระชากลากออกมาจากผับ กระเป๋าเธออยู่ที่โต๊ะ
ความมืดเข้ามาปกคลุมทำให้ใจเธอเต้นระรัว เรย์เลนรีบก้าวเดินจ้ำอ้าวบนทางเท้าด้วยความหวาดกลัว แสงไฟรถสาดส่องมาทำให้เธอใจชื้นขึ้นมา หวังว่าจะเจอคนใจดีขอติดรถออกไปด้วย รถมัสแตงค์สีดำคาดแดงขับปาดหน้าเธอทันที เรย์เลนถึงกับต้องหยุดชะงัก
"ขึ้นรถมาเดี๋ยวนี้!!"
โนอาร์ตะโกนเสียงดังลั่นด้วยความดุดัน เมื่อหลานสาวตัวแสบวิ่งออกมาไม่กลัวอันตรายในยามค่ำคืน หากคนอื่นมาเห็นเธอในสภาพนี้คงได้ทำมิดีมิร้ายกับเธอแน่ๆ
"ไม่!!...เรย์เลนจะกลับบ้าน"
"อย่ามายุ่งกับผู้หญิงร่านๆ แบบหนูเลย หนูกลับเองได้!!"
เธอตอบเสียงแข็ง ยืนยันคำเดิมว่าจะไม่กลับไปกับโนอาร์เด็ดขาด ถึงอย่างไรก็ไม่ยอมเพราะคำคำนั้นมันยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของเธอ ความน้อยเนื้อต่ำใจเข้ามาถาโถม หยาดน้ำตาใสๆ ยังคงไหลเอ่ออาบแก้มนวล ดวงตาแดงก่ำจ้องมองหน้าคนตัวใหญ่อย่างไม่ลดละ สายตาเย็นชาไร้ความรู้สึกทำเอาโนอาร์ใจสั่นไม่น้อย ตอนนี้เขาเป็นอะไรกันแน่ แค่เห็นสายตาเย็นชาของเรย์เลน เขารู้สึกเจ็บแปลบๆ อย่างบอกไม่ถูก
"ไม่กลัวคนจับข่มขืนเอารึไง? ...ขึ้นรถมาเดี๋ยวนี้"
เสียงเคร่งขรึมออกมาจากลำคอโนอาร์ แววตาที่ดุดันจ้องมองมาจนเรย์เลนเสียวสันหลังวาบ คำพูดของเขาทำเอาเธอเริ่มรู้สึกกลัว แต่อีกใจหนึ่งก็ไม่อยากไปกับเขา
เรย์เลนตัดสินใจเดินก้าวหนีออกไป ไม่ยอมขึ้นรถไปกับโนอาร์ ความโกรธครอบงำจิตใจ คิดแล้วแค้น ไม่อยากจะเชื่อว่าคุณอาที่แสนดี กลับมีวาจาร้ายกาจเชือดเฉือนใจได้ขนาดนี้ คำพูดที่หักหาญน้ำใจ การกระทำที่ทำร้ายจิตใจมันทำให้เธอหยุดร้องไห้ไม่ได้
ประตูรถถูกเปิดออก โนอาร์ก้าวเท้าออกมาจากรถและสาวเท้าก้าวยาวๆ วิ่งตามเรย์เลน มือแข็งจับข้อมือเรียวของเธอกระชากเรย์เลนเข้ามายังแผงอกแกร่ง เขาบีบข้อมือเธอแทบแหลกคามือด้วยความโมโห ไฟโทสะลุกโชนจนคนตัวเล็กต้องหลบสายตาที่มองมาอย่างเอาเรื่อง
เรย์เลนสะบัดมือเขาออกและผลักอกเขาจนออกจากตัวเธอ ทั้งสองยื้อยุดฉุดกระชากกันไปมา ความดื้อรั้นของหลานตัวแสบทำให้โนอาร์รู้สึกหงุดหงิดใจไม่น้อย เขาไม่มีทางยอมปล่อยให้เธอต้องกลับไปคนเดียวในสภาพแบบนี้แน่นอน
ปี๊บบบบบบบบบ
เสียงแตรรถดังขึ้นจอดเทียบใกล้ๆ รถมัสแตงค์สีดำคาดแดง ชายนิรนามรีบก้าวเท้าวิ่งลงมาจากรถ
"หยุดเดี๋ยวนี้นะ แกจะทำอะไรผู้หญิง!!!"
โนอาร์และเรย์เลนรีบหันไปมองทางต้นเสียง เห็นชายรูปร่างสูงโปร่ง หุ่นสูงยาวราวร้อยแปดสิบเซนติเมตร กำลังจ้ำอ้าวเดินมาช่วยเหลือเรย์เลน
"อย่ามายุ่งเรื่องผัวๆ เมียๆ"
โนอาร์มองด้วยสายตาคมกริบราวกับใบมีดที่พร้อมจะกรีดร่างเขาให้แหลกเป็นจุณ นิ้วชี้ข้างขวาถูกชี้ไปยังคนตรงหน้าที่กำลังเดินเข้ามาจนเขาต้องหยุดชะงัก
"ไม่ใช่นะคะ เขาไม่ใช่ผัวเรย์เลน ช่วยเรย์เลนด้วย"
เธอแสร้งโกหกคำโต ยิ่งทำให้โนอาร์โมโหเข้าไปใหญ่ มือหนายิ่งบีบข้อมือของเรย์เลนแรงขึ้นจนเธอเจ็บร้าวระบมไปหมด
"เรย์เลน!!!"
เขาตวาดเธอเสียงดังลั่นจนเธอสะดุ้งสุดตัว ร่างบางสั่นเทาราวกับลูกนกเหมือนกำลังถูกอินทรีผู้ยิ่งใหญ่ตะปบให้อยู่ใต้อาณัติของเขา
"ฉันบอกว่าให้ปล่อยผู้หญิงเดี๋ยวนี้!!"
มาตินรีบวิ่งกลับไปที่รถของตัวเองอย่างเร็ว อาวุธปืนสั้นสีดำถูกหยิบขึ้นมา เขาสาวเท้าก้าวเดินเข้ามาอย่างไว ปลายกระบอกปืนถูกชี้มาทางโนอาร์ ทั้งคู่ตกตะลึงมองหน้ากันเลิ่กลั่ก เรย์เลนรีบวิ่งเข้ามาหาคนที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเธอ ตอนนี้เธอไว้ใจคนอื่นมากกว่าโนอาร์ เพียงเพราะความน้อยอกน้อยใจเท่านั้นที่ทำให้เธอตัดสินใจเชื่อใจคนอื่นอย่างง่ายดาย เรย์เลนเกาะแขนมาตินไว้แน่นราวกับรู้จักกันมานาน
"ช่วยเรย์เลนด้วย เรย์เลนอยากกลับบ้าน"
เธอเขย่าแขนเขาเพื่อขอความช่วยเหลือ สายตาวิงวอนร้องขอทำให้มาตินเชื่อสนิทใจว่าตอนนี้เธอกำลังตกอยู่ในอันตรายจากชายวัยกลางคนจริงๆ
"เดี๋ยวผมช่วยคุณเอง"
เขาหันมามองหน้าเรย์เลน มือยังคงถือปืนจ่อไปที่โนอาร์ สายตาดุดันจ้องมองโนอาร์อย่างไม่ลดละ
"ไสหัวไปเลยไอ้แก่บ้ากาม!!"
มาตินเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงดุดัน แววตาจ้องมองคนตัวสูงรูปร่างกำยำอย่างเอาเรื่อง พลางดึงเรย์เลนให้มาอยู่ข้างหลังเขาเพื่อปกป้องเธอจากอันตราย แล้วค่อยๆ เดินขึ้นรถซูเปอร์คาร์คันสีดำไปอย่างเร็ว เรย์เลนหย่อนก้นลงนั่งอย่างกล้าๆ กลัวๆ แต่ก็ตัดสินใจให้มาตินช่วยพาเธอกลับบ้าน รถค่อยๆ เคลื่อนตัวผ่านหน้าโนอาร์ไปอย่างช้าๆ เขายืนกำหมัดแน่น มองรถของมาตินที่พาเรย์เลนไปจนลับตา
"โธ่โว้ย!!!...เรย์เลน เราได้เห็นดีกันแน่"
ภายในรถเงียบสงัด เรย์เลนนั่งเกร็งตัวแข็งทื่อกลืนน้ำลายแทบไม่ลงคอ คิดแล้วอยากโขกกะโหลกตัวเองที่ไว้ใจคนแปลกหน้ามากกว่าโนอาร์ ผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นผัวของเธอ
"ไม่ต้องกลัวครับ...ผมชื่อมาติน คุณล่ะ"
มาตินเอ่ยถามขึ้นพลางหันมามองหน้าเรย์เลนที่ตัวสั่นงันงกอยู่ข้างๆ
"เรย์เลนค่ะ...ขอบคุณมากนะคะที่ช่วยเรย์เลน"
เธอหันหน้าส่งยิ้มแหยๆ ให้เขา ยังคงประหม่าทำตัวไม่ถูกกับคนแปลกหน้าที่เพิ่งรู้จักกัน ‘อีบ้าเอ๊ย มากับเขาได้ไงวะเนี่ย’ เธอสบถคำด่าตัวเองในใจแล้วกลืนน้ำลายก้อนใหญ่ลงคอ
"ไม่ต้องกลัว ผมไม่ปล้ำคุณหรอก ฮ่าๆ"
เขาหัวเราะอย่างชอบใจ ทำให้เรย์เลนถึงกับยิ้มแหยๆ ที่เขารู้ใจเธอว่าคิดอะไรอยู่ ใช่สิ มากับผู้ชายแปลกหน้าจะไม่คิดกลัวได้ยังไง ความกลัวยังคงครอบงำจิตใจ
"ค่ะ"
เธอตอบเพียงสั้นๆ แล้วก้มหน้าลงต่ำไม่กล้าสบตามาติน เขาเห็นท่าทีของเรย์เลนก็อดอมยิ้มไม่ได้ มาตินรู้สึกถูกชะตาเธอไม่น้อย หรือนี่คือพรหมลิขิต เขาแอบคิดในใจ
"แล้วทำไมมาเดินบนถนนดึกๆ ดื่นๆ แบบนี้ล่ะครับ สมัยนี้พวกโจรมันเยอะนะคุณ"
มาตินเอ่ยขึ้นแต่ตายังคงมองถนนอยู่ เรย์เลนหันไปมองหน้าชายหนุ่มหน้าคมเข้ม คิ้วดำขลับ นัยน์ตาสีฟ้า อยู่ๆ เธอก็อมยิ้มขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว
"ยิ้มอะไร ผมหล่อล่ะสิท่า ฮ่าๆ"
เขาหันมาพูดกับเรย์เลน เขายิ้มร่าอย่างมีความสุข ทำให้เรย์เลนรู้สึกโล่งใจไม่น้อย
"คุณนี่หลงตัวเองชะมัด"
เธอเอ่ยขึ้น มาตินหันมายิ้มให้เธอ รอยยิ้มทรงเสน่ห์ของเขามันทำให้ใจเธอเต้นรัวอย่างบอกไม่ถูก
"ไม่ให้ชมตัวเองแล้วให้ชมใคร"
"ให้ชมคุณดีไหม...รู้ไหม คุณน่ารักมากๆ เลย"
คำพูดนี้ทำให้เรย์เลนหน้าแดงก่ำที่ถูกหยอดคำหวานต่อหน้าต่อตา
"ค่ะ...หลายคนก็บอกอย่างนั้น ฮ่าๆ"
เรย์เลนหัวเราะร่าอย่างลืมตัวว่าคนที่กำลังคุยอยู่เธอเพิ่งรู้จักเขาเมื่อครู่นี้เอง แต่เธอกลับทำตัวสนิทสนมราวกับรู้จักกันมาแรมปี เรย์เลนเป็นคนเข้ากับคนง่าย อัธยาศัยดี จึงมีแต่คนรักใคร่ ตอนนี้มาตินก็เป็นหนึ่งในนั้นที่เริ่มจะรู้สึกสนใจในตัวเธอ ยิ่งอยู่ใกล้ๆ แล้วรู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก
"คุณนี่ก็พอๆ กับผมแหละ ฮ่าๆ"
มาตินหัวเราะร่า คุยกันอย่างถูกคอกับเรย์เลน ภายในรถมีแต่เสียงพูดคุยกัน สักพักรถซูเปอร์คาร์คันสีดำก็เทียบจอดที่ตัวบ้านของ เรย์เลน เธอกำลังจะปลดเข็มขัดนิรภัย แต่ถูกมือของมาตินดึงไว้
"ไม่ต้องครับ เดี๋ยวผมเปิดให้"
เขารีบเปิดประตูรถและสาวเท้ามายังประตูข้างคนขับและเปิดประตูให้เรย์เลน เธอก้าวขาออกจากรถอย่างรีบร้อนจนขาพันกันเสียหลักแทบจะเซถลาล้มลงไปกองอยู่กับพื้นคอนกรีต มาตินรีบเข้ามาพยุงตัว เรย์เลนไว้ในแผงอกแกร่ง เกรงว่าเธอจะล้ม
"ไม่ต้องรีบขนาดนั้น ผมไม่จับคุณปล้ำหรอกน่า รีบก้าวขาจนหน้าเกือบกระแทกพื้น ฮ่าๆ"
เขาหัวเราะร่ากับความเปิ่นของเรย์เลน เธอดันตัวออกจากมาตินแล้วยิ้มแหยๆ ให้เขาด้วยท่าทีเขินอายอย่างบอกไม่ถูก ใบหน้าสวยเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ
"ขอบคุณมากๆ นะคะที่มาส่ง"
"ชดใช้ด้วยการเลี้ยงข้าวผมหนึ่งมื้อ โอเคไหมครับ"
เขาแสร้งแหย่เรย์เลนเพราะอยากสานสัมพันธ์ต่อกับเธอ มาตินถูกชะตาเรย์เลนจนเขานึกอยากได้เธอมาเป็นคนรู้ใจ
"ได้สิคะ เลี้ยงไม่อั้นเลยค่ะ ฮ่าๆ"
"นี่นามบัตรผม ถ้าจะเลี้ยงผมวันไหนบอกนะ เดี๋ยวผมมารับ"
มาตินยื่นนามบัตรให้เรย์เลน เธอรับมันไว้แล้วส่งยิ้มหวานให้เขา รอยยิ้มของเรย์เลนยิ่งทำให้ใจหวั่นไหว อดอมยิ้มไม่ได้ ดวงตาที่กลมโต ขนตายาวเป็นแพ จมูกที่โด่งเป็นสัน ปากเรียวบางรับกับใบหน้า มันทำให้ มาตินไม่อยากที่จะละสายตาจากใบหน้ามน
"กลับได้แล้วค่ะ ขับรถดีๆ นะคะ"
"ครับ แล้วเจอกันครับผม"
เรย์เลนโบกมือบ๊ายบายมาตินอย่างสนิทสนม ยืนยิ้มกว้างให้เขาจนรถซูเปอร์คาร์คันสีดำเคลื่อนตัวออกไปจากบ้านของเธอจนลับตา
