บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 5 ผมเหมือนคนพูดเล่นเหรอ

บ้านเรือนไทย

ภูวดลรู้สึกแย่เขาไม่อยากทำงานเลยขับรถมาเรื่อย ๆ จนหยุดที่หน้าบ้านของนลินนารา เขานั่งอยู่ในรถไม่ยอมลงคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยมารู้สึกตัวอีกทีก็มีคนมาเคาะที่กระจกรถ

“คุณมารับผลไม้เองเหรอครับ”

“ผมมาดูว่าลูกน้องทำงานเรียบร้อยไหมครับ”

“อ๋อ คนของคุณยังมาไม่ถึงเข้ามาจอดรถในบ้านสิครับ เชิญๆ” ลุงโยนคนสวนเปิดประตูรั้วโบกรถให้ ภูวดลขับเข้าไปในรั้วบ้าน ของบ้านเรือนไทยร่มรื่นทำให้เขารู้สึกสบายใจ

เมื่อเปิดประตูรถลงมาเสียงดนตรีดังแว่วมาจากตัวบ้าน เขาค่อย ๆ เดินขึ้นไปบนเรือนเห็นยายปองกำลังนั่งฟังดนตรี สายตาคมรีบหันไปมองที่คนตีขิมหวังว่าจะเจอนลินนาราแต่ดันเป็นเอมอรที่นั่งตีขิมอยู่ เขาหุบยิ้มลงเมื่อไม่ได้เจอคนที่คิดถึง

“มารับผลไม้เหรอคุณ” ยายปองหันมาเห็นภูวดล

“ครับ ผมมาดูว่าลูกน้องทำงานเรียบร้อยไหม” ภูวดลยกมือไหว้ก่อนจะเข้ามานั่งข้างๆ

“ลูกน้องยังไม่มา นั่งฟังดนตรีด้วยกันก่อนนะ”

“ครับ” สายตาคมมองไปทั่วเรือนไม่เห็นนลินนาราแต่ก็ไม่กล้าถาม สักพักเสียงหวานที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นพร้อมกับเสียงฝีเท้าหลายคู่ขึ้นมาทางบันได เสียงครึกโครมทำให้คนบนเรือนหันไปมอง นลินนาราโผล่มาที่ประตูแขนเรียวหอบสายบัวมาเต็มแขน เนื้อตัวเต็มไปด้วยดินโคลน ภูวดลมองอึ้งที่มาเจอกับเธอในสภาพนี้

“อ้าว คุณมาทำอะไร”

“คุณเขามาดูลูกน้องทำงาน ว่าแต่เราเถอะไปเก็บสายบัวเนื้อตัวมอมแมม ยายบอกแล้วว่าให้เก่งกับเปาไปเก็บ นี่อะไรชวนกันหายตัวไปค่อนวัน มัวแต่พากันไปเล่น”

“แต่ก็มาทันข้าวเที่ยงนะยาย” นลินนาราออดอ้อนยายไม่ให้บ่น

“ไปอาบน้ำก่อนแล้วค่อยมากอดดูสิเนื้อตัวเลอะเทอะ เล่นเป็นเด็กไปได้” ยายปองบ่นดึงตัวหลานสาวออก ภูวดลมองแอบขำ

“ขำอะไรคุณ” หญิงสาวค้อนขวับ

“เปล่า” ภูวดลทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้

“อย่าไปหาเรื่องเขานะ ไปล้างตัวเดี๋ยวนี้เลย” ยายปองตีหลานสาวเบาๆ นลินนาราลุกขึ้นได้ยินเสียงโทรศัพท์ของยายปองดังอยู่ที่โต๊ะวางของเธอเลยเดินไปหยิบจะส่งให้ยายแต่พอเห็นชื่อบนโทรศัพท์ เธอก็หน้าเสียเหลือบมองยายแล้วรีบเดินเลี่ยงไปรับโทรศัพท์ของยายเอง

“ว่ายังไง” นลินนารากดรับเหวี่ยงใส่ปลายสายทันที

“คิดถึงอยากรู้ว่าที่บ้านสบายดีกันหรือเปล่า” ปลายสายตอบกลับ

“ไม่มีพี่ทุกคนก็มีความสุขและสบายดี”

“เกินไปไหมฉันเป็นพี่แกนะ”

“ทำตัวให้น่าเคารพไหมล่ะ บอกมาเลยดีกว่าว่าจะเอาอะไรถึงได้โทรมา”

“ฉันจะคุยกับยาย”

“ไม่ให้คุย”

“อย่ามากวนประสาทหรือว่าอยากให้ฉันไปหาที่บ้าน” ปลายสายกระแทกเสียงไม่พอใจ นลินนารายืนนิ่งไม่ตอบยายปองเดินมาข้างหลังสะกิดบอกให้นลินนาราเข้าไปในห้องยายทั้งสองหายกันเข้าไปในห้องสักพัก ภูวดลได้ยินการสนทนาเมื่อครู่ของนลินนารากับปลายสายที่ดูไม่ถูกกัน เขาได้แต่เก็บความสงสัยไว้สักพักยายปองเดินหน้าเครียดออกมาจากห้องส่วนนลินนาราขอบตาบวมแดงคล้ายผ่านการร้องไห้อย่างหนัก ทั้งที่สงสัยแต่เขาก็ไม่ถามเรื่องส่วนตัวของเธอ

ช่วงเย็นลูกน้องขนผลไม้กลับไปแล้ว ชายหนุ่มยังขอนั่งอยู่ที่ท่าน้ำเหม่อมองคลองกว้างคิดอะไรไปเรื่อย ๆ

“เครียดเรื่องงานหรือว่าเรื่องที่บ้านคะ” นลินนาราเห็นเขานั่งอยู่ศาลานานแล้วเลยเดินมาคุยด้วย

“ที่บ้าน”

“เรื่องของฉันใช่ไหม ขอโทษที่เป็นต้นเหตุทำให้บ้านคุณต้อง...เป็นแบบนี้” หน้าสวยหม่นเศร้าเสียงสั่นเครือ

“คุณควรรับผิดชอบสิ่งที่ทำมากกว่านี้ ไม่ใช่ขอโทษอย่างเดียว” ชายหนุ่มตอบเสียงเรียบปรายตามองเธอเล็กน้อย

“คุณณุตายไปแล้วฉันเอาสามีไปคืนให้น้องคุณไม่ได้”

“จริงของคุณ” เขาถอนหายใจสายตามองทอดไปที่คลองแล้วเห็นเรือลำเล็กจอดอยู่ข้างศาลา

“คุณพายเรือให้ผมนั่งหน่อยสิ ผมอยากนั่งเรือแล้วคิดอะไรไปเรื่อย ๆ”

“มันใช่ธุระของฉันไหม พายเรือมันเมื่อยแขนนะคุณ” หน้าหวานมองเคือง เขาไม่รู้หรือไงพายเรือต้องใช้กำลังแขนมากขนาดไหน

“ถือซะว่าช่วยให้ผมสบายใจขึ้นไง อย่าลืมสิว่าคุณเป็นต้นเหตุของเรื่องนี้” เขากอดอกหน้าบึ้งกับตัวต้นเรื่อง

“เล่นแบบนี้เลยเหรอ ก็ได้ฉันจะพายให้คุณนั่งเอง” หญิงสาวกระฟัดกระเฟียดแม้ไม่ค่อยเต็มใจแต่เธอก็พายเรือให้ภูวดลนั่งดูบรรยากาศสองฝั่งคลองหวังให้เขาสบายใจ ระหว่างที่พายเรือสีหน้าของภูวดลดูผ่อนคลายขึ้น เธอเองก็รู้สึกดีอย่างน้อยได้ช่วยให้เขาไม่ทุกข์เกินไป จนเมื่อใกล้ผ่านศาลาท่าน้ำของบ้านหลังหนึ่ง

“ผมเคยมาแถวนี้ เมื่อก่อนกลุ่มเพื่อนผมนัดกันมาเล่นน้ำคลองเป็นประจำ”

“เพื่อนคุณอยู่บ้านไหนล่ะ ฉันจะได้พาไป” นลินนารายิ้มหวาน ตั้งใจจะพาเขาไปหาเพื่อนเผื่อจะอารมณ์ดี

“หลังนั้น แต่ตอนนี้เขาไม่อยู่แล้ว” ภูวดลมองไปที่บ้านไม้ด้านหลัง นลินนารามองตามแล้วสะดุ้งหุบยิ้ม บ้านหลังนั้นคือบ้านของวิษณุสามีของเธอ

“คุณเป็นเพื่อนกับคุณณุมาก่อน ที่คุณเครียดเพราะว่าฉันทำร้ายจิตใจน้องสาวคุณแล้วก็ทำให้เพื่อนคุณต้องตาย”

“อืม” ภูวดลหน้าเศร้า เขากับวิษณุเป็นเพื่อนรักกันมานานแต่เพื่อนจากไปก่อนวัยอันควรเพราะแต่งงานกับนลินนารา

“ฉันทำไม่ดีกับครอบครัวคุณ แต่ทำไมคุณถึงดีกับฉันไม่เหมือนที่น้องสาวกับแม่ของคุณ”

“นั่นสิ ผมก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ว่าทำไม” เขาหันมองจ้องดวงหน้าสวยสายตาประสานกันทำให้ใจของทั้งสองหวั่นไหวใจเต้นรัวไม่เป็นจังหวะมองกันนิ่งนาน ท่ามกลางสายน้ำและสวนข้างฝั่งคลอง บรรยากาศเงียบสงบทำให้ใจคนสงบสื่อความในใจผ่านสายตาโดยไม่เอ่ยคำพูดใดๆ

เพียงไม่นานท้องฟ้าที่มืดครึ้มกลับมีฝนหนาหมดตกลงกระหน่ำ นลินนาราจ้ำพายเรือไปบ่นไปพยายามพายเข้าศาลาหน้าบ้านเก่าของวิษณุ

“อยากนั่งเรือไม่ได้ดูดินฟ้าอากาศเลย”

“คุณนั่นแหละ เป็นคนแถวนี้ไม่รู้หรือไงว่าฝนกำลังจะตก” ภูวดลหยิบพายอีกอันมาช่วยจ้ำปากก็เถียงไม่หยุด

“ฉันไม่ใช่นักพยากรณ์อากาศนะ!”

“ผมก็ไม่ใช่เหมือนกัน!” เขากระแทกเสียงมือก็รีบพาย จนมาถึงศาลาท่าน้ำเลยลงบนท่าแล้วจับเชือกมาผูกกับหัวเสา เธอรีบปีนขึ้นท่าน้ำไปนั่งขดตัวอยู่ในศาลาแขนเรียวโอบกอดตัวเองหน้าซีดปากสั่นตัวสั่นเทา หงึก หงึก ภูวดลผูกเรือเสร็จเดินตามนั่งข้างๆ

“หนาวเหรอคุณ”

“อืม” ริมฝีปากบางซีดเผือดเกือบจะเขียว

“มานี่” เขารีบดึงมือเธอมาไว้ในอุ้งมือหนาค่อยๆ ถูมือให้เธออุ่นขึ้น หญิงสาวปากสั่นหงึก หงึก คนตัวโตตัดสินใจโผมากอดรัดร่างบางไว้แน่นหวังจะให้เธอได้คลายหนาวและมันได้ผลจากที่นั่งตัวสั่นก็เริ่มนิ่งในอ้อมกอดแกร่ง

“ดีขึ้นไหม”

“ดีขึ้น” เธอค่อยๆ ดันตัวออกเขินอาย

“เดี๋ยวก็หนาวอีกหรอก” เขารวบตัวเธอเข้าไปกอดอีกครั้งแล้วแอบอมยิ้ม

“ปล่อยเถอะคุณถ้าใครมาเห็นจะเอาไปนินทา”

“เราบริสุทธิ์ใจจะกลัวใครทำไม?”

“กลัวสิ ยิ่งเป็นฉันด้วยมีแต่เรื่องเสียหายโดนด่าจนลืมชื่อแน่” เธอสะบัดตัวดิ้นหยุกหยิก เขาก็ยิ่งกระชับกอดรัดแน่นไม่ยอมปล่อย

“ถ้ามีคนนินทาจริง ผมจะรับผิดชอบเองจะได้ไม่มีใครมานินทาคุณอีก” น้ำเสียงของเขาเรียบนิ่งทำหัวใจหญิงสาวหวั่นไหว

“อย่ามาพูดเล่นแบบนี้นะคุณ”

“ผมดูเหมือนคนพูดเล่นหรือไง” วงแขนแกร่งคลายลงหลวมๆ ก้มมองหน้าหวานของหญิงสาวในอ้อมกอด เธอเงยหน้ามองหน้าคมตรงหน้าที่ค่อยๆ เคลื่อนริมฝีปากเข้ามาใกล้ริมฝีปากบางสองร่างยืนกอดกันแน่นเหมือนโดนมนต์สะกด

“ฮัดเช้ย!” หน้าหวานเหยเกจามน้ำมูกใส่หน้าเขาเต็มแรง เขาหลับตาถอนหายใจเซ็ง ๆ ยกมือขึ้นปาดหน้าก่อนจะหันมามองหญิงสาวที่ยืนกลั้นขำตรงหน้า

“คุณนี่มัน” ภูวดลหลุดขำส่ายหัวไปมาหัวเราะกันสนุกสนานเรื่องที่เกิดขึ้นแม้ทุลักทุเลแต่ก็สุขใจแปลก ๆ เขามีความสุขที่ได้ชิดใกล้เธอ ถึงจะไม่โรแมนติกอย่างที่คิดไว้ ทั้งสองยังกอดกันเนื้อตัวแนบชิดก่อนจะนึกขึ้นได้ผละออกจากกันไปยืนคนละมุมแล้วแอบมองยิ้มเขินท่ามกลางสายฝนที่ซาลงท้องฟ้าเริ่มเปิดอีกครั้ง

บ้านเรือนไทย

ป้าแช่ม เชยชมและเด็กๆ ช่วยกันจัดสำรับอาหารเตรียมไว้สำหรับอาหารค่ำ ภูวดลเปลี่ยนเสื้อผ้าแห้งของลุงโยนเรียบร้อยแล้วเดินออกนั่งที่ชานบ้าน

“ชม เอาอาหารไปให้นาราที่ห้องด้วยนะ”

“จ๊ะยาย” เชยชมรับคำรีบลุกขึ้นไปตักอาหารใส่สำรับแล้วเดินไปให้นลินนารา ภูวดลมองตามเชยชมเข้าไปที่ห้องก่อนจะได้ยินเสียงยายปองกระแอมเบาๆ

“โดนฝนมาก็เลยมีไข้ เลยให้กินข้าวในห้อง”

“ตอนที่หลบฝนเธอนั่งตัวสั่นหน้าซีดมาก”

“นาราเป็นโลหิตจางมาตั้งแต่เกิดพออากาศเย็นจะหนาวสั่นมีไข้” ป้าแช่มเสริม ภูวดลพยักหน้าเข้าใจแล้วหันไปมองที่ห้องนอนของเธออีกครั้งด้วยความเป็นห่วง

“ยายขอร้องว่าช่วงนี้คุณก็อย่ามาที่นี่บ่อยนะ” ยายปองก้มหน้าก้มตาทานอาหารไม่มองหน้าภูวดลที่กำลังงง ทุกคนในวงข้าวนั่งกันเงียบ

ก่อนกลับ ป้าแช่มมาส่งภูวดลที่หน้าบ้าน ชายหนุ่มเอ่ยถาม

“ทำไมคุณยายไม่อยากให้ผมมาที่นี่บ่อยๆ ครับ”

“ก็เรื่องฉาวที่คนเขาชอบเอาไปพูดกันนั่นแหละคุณทำตามที่คุณยายบอกเถอะ”

“ถ้าเป็นเพราะเรื่องวันนี้ผมกับนาราไม่ได้ทำอะไรกันนะครับ”

“ชายหญิงอยู่ด้วยกันสองคนถ้าใครเห็นเขาก็ต้องพูดต่อ ยิ่งเป็นเรื่องของแม่หม้ายนารายิ่งแล้วพรุ่งนี้คงรู้กันทั้งตำบล ป้าเองก็ไม่อยากให้หลานเป็นขี้ปากใคร” ป้าแช่มบอกกับภูวดลเสร็จแล้วส่ายหน้าหันหลังเดินเข้าเรือน ภูวดลนิ่งอึ้งสิ่งที่เขาทำวันนี้ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องใหญ่ทำให้เขาไม่ได้เจอเธออีกสักพัก ชายหนุ่มครุ่นคิดเขาต้องการเข้ามาสืบเรื่องการตายของเพื่อนแต่ดูเหมือนว่าจิตใจจะหวั่นไหวไปกับแม่หม้ายผัวสองเสียอย่างนั้น ร่างหนาเดินไปยังรถยนต์คันหรูแล้วค่อย ๆ ขับเคลื่อนออกไปจากรั้วของบ้านเรือนไทย

นลินนารามองตามรถหรูทางหน้าต่างแววตาเศร้าหลุบตาลงอย่างตัดใจ

“ปล่อยเขาไปเถอะลูก ถ้าชอบเขาก็อย่าให้เขาเดือดร้อน” ยายเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นหลานสาวเศร้าเสียใจ

“จ้ะยาย หนูจะอยู่ห่างเพื่อความปลอดภัยของเขา” เสียงหวานสั่นเครือถึงจะชอบก็ต้องตัดใจชีวิตของเขามีค่ามากกว่าความรักของแม่หม้ายผัวสองอย่างเธอ

“อดทนหน่อยนะลูก”

“ทำไมหนูต้องรับกรรมทั้งที่ไม่ได้ก่อด้วยจ๊ะยาย คนก่อเรื่องหนีไปมีความสุขไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะสร้างปัญหาให้เราอีก”

“คนที่ก่อ คงเป็นเจ้ากรรมนายเวรของเรา อดทนอีกนิดหมดเวรหมดกรรมเมื่อไหร่ ชีวิตนาราจะสดใสนะลูก”

“กว่าจะหมดเวรหมดกรรม หนูคงหมดลมหายใจไปก่อน” หญิงสาวน้ำตารื้นโผกอดยายแน่นมือเหี่ยวลูบหลังหลานสาวน้ำตาไหลสงสารในความโชคร้ายของหลานสาว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel