บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 4 รู้ว่าไม่ดียังอยากเข้าใกล้

บ้านเรือนไทย

“ยายอยากตีพวกเรานัก ไปแกล้งคุณเขาอย่างนั้นได้ยังไง” ยายปองดุเด็กๆ ทั้งสี่ที่นั่งก้มหน้างุดแยกมะม่วงกันขะมักเขม้น ภูวดลนั่งอมยิ้ม เขาไม่ได้โกรธเคืองแถมสนุกด้วยซ้ำ ชีวิตที่สมบูรณ์แบบของเขาไม่ค่อยได้ทำอะไรอย่างนี้บ่อยนัก

“คุณเขามดกัด น้องๆ เลยอยากช่วยไงยาย” นลินนาราเสียงแจ๋วดังมาแต่ไกล ภูวดลหันไปมองตามเสียงเห็นร่างบางใส่เสื้อแขนตุ๊กตาคู่กับผ้าถุงยาวใบหน้าสวยหวานปล่อยผมยาวสลวยน่าทะนุถนอมแบบหญิงไทย ต่างจากสภาพตอนอยู่ในสวนปีนป่ายต้นไม้ดูแก่นเป็นหัวโจกของพวกเด็ก

“มีวิธีเยอะแยะ ดันให้คุณเขาลงน้ำจนตัวเปียกนี่ถ้าใส่ชุดตาโยนไม่ได้ก็ต้องเปียกไปถึงในเมือง”

“หวังดีนะยายไม่ได้มีเจตนาร้ายเลย” หญิงสาวทำเสียงหวานกอดอ้อนยายเหมือนแมวน้อยน่าเอ็นดู

“เรานะเราแทนที่จะห้ามน้อง แล้วดูสิซนเป็นเด็ก ๆ ตัวแดงไปหมดแล้วลูกเอ๊ย ไปเอายามาทาเลยนะเดี๋ยวก็เห่อเต็มตัว” ยายปองส่ายหน้าบ่นไม่หยุดตีเบาๆ ที่แขนเนียน นลินนาราพยักหน้ารีบลุกไปหยิบยามาทา สายตาหวานเหลือบมองไปทางชายหนุ่มแล้วกลั้นขำ เขารู้ว่าเธอแกล้งแทนที่จะโกรธกลับชอบความแสบของเธอ

“อยู่ทานข้าวด้วยกันเลยนะคุณ” ป้าแช่มเชิญแขกที่มาเยือน ต้อนรับขับสู้อย่างดี

“มีแต่อาหารบ้านๆ คุณเขาทานไม่เป็นหรอกค่ะ”

“ได้สิครับ ผมกำลังหิวพอดี” ภูวดลยกยิ้มยียวนให้หญิงสาวที่ทำหน้าตากวนประสาทเขม่นกันไม่วางตา

บรรยากาศไทยๆ ล้อมไปด้วยต้นไม้สูงเสียงหริ่งเรไร ดังแว่วอากาศบริสุทธิ์สูดหายใจได้เต็มปอด กับข้าวบ้านๆ ที่แสนอร่อยทำให้ภูวดลเจริญอาหารเขารู้สึกอารมณ์ดีและสบายใจเมื่ออยู่ที่นี่และสุขใจยิ่งขึ้นเมื่อเห็นสาวหน้าหวานนั่งทานข้าวอยู่ตรงข้าม เขาลอบมองหญิงสาวตลอดและเมื่อทั้งสองสบตากันพอดีก็ทำให้ต่างคนต่างเขินอายหลบสายตาของกันและกันจนทำตัวไม่ถูก ยายปองนั่งมองกริยาของคนทั้งคู่แล้วค่อยไม่สบายใจแต่ไม่พูดอะไรจนทานอาหารเสร็จ

“พรุ่งนี้ผมจะให้ลูกน้องมารับผลไม้นะครับ”

“ขอบคุณที่มาอุดหนุนนะคะ” ยายปองพยักหน้ายิ้มๆ

“ครับ ถ้าผมจะมาอุดหนุนบ่อยๆ แล้วรบกวนป้าแช่มทำอาหารให้กินได้ไหมครับ ป้าแช่มทำอร่อยมากผมชอบ”

“อุ้ย ไม่รบกวนหรอกค่ะ ป้าทำกับข้าวทุกวันแวะมาทานทุกวันก็ได้นะคะ” ป้าแช่มยิ้มหน้าบานดีใจที่มีคนชมฝีมือทำอาหาร

“เกินไปแม่แช่ม” ยายปองหันไปดุเบาๆ

“วันไหนมาซื้อผลไม้ก็ทานข้าวด้วยกัน แต่ถ้ามาทุกวันยายว่าไม่เหมาะ หลานสาวบ้านนี้หัวกระไดบ้านไม่เคยแห้งแต่งงานออกเรือนไปแล้วถึงสองครั้งก็ยังมีหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่มาเทียวหา ยายไม่อยากให้เรื่องชู้สาวทำให้หลานยายต้องเป็นขี้ปากชาวบ้าน หวังว่าคุณจะเข้าใจ” ยายปองพูดตรงๆ กับภูวดลเพราะเห็นอาการของเขาเขินอายและลอบมองหลานสาวตลอดเวลาทานอาหาร หลายปีผ่านมามีผู้ชายแวะเวียนมาที่บ้านมากหน้าหลายตา ชาวบ้านลือกันไปว่าเป็นซ่องยายขายหลานกิน ยายปองจึงไม่อยากให้หลานถูกนินทาอีก ด้านภูวดลได้ยินก็นิ่งอึ้งที่ยายรู้ทันว่าเขาต้องการอะไรเลยยิ้มน้อย ๆ พยักหน้ารับก่อนจะยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองและขึ้นรถเดินทางกลับไป

“คุณยายพูดตรงไปไหมคะ” ป้าแช่มกระซิบข้างยายปอง

“กี่ครั้งแล้วที่ฉันพูดอ้อมแล้วเป็นยังไงล่ะแม่แช่ม” พูดเสร็จยายปองก็เดินเข้าห้อง ด้านนลินนาราแอบฟังการสนทนาหน้าเศร้าประวัติของเธอมีแต่เรื่องเสียหายชาตินี้คงไม่มีความรักจริงอย่างคนอื่น

ในยามค่ำคืน

ร่างแกร่งกอดรัดพรมจูบไปทั่วเรือนร่างบาง เสียงครางน้อยๆ ใบหน้าหวานเสียวซ่านบิดเร้ากายรับแรงกระแทก แก่นกายดุดันเร่าร้อนเสียงลมหายใจหอบผสานกันบทรักรุนแรงจนน้ำรักไหลเข้ากายสาวที่นอนแอ่นบิดกายรับน้ำรักของเขาวงแขนแกร่งกอดรัดร่างบางไว้ยอมปล่อยจูบซับทั่วใบหน้าหวานประกบปากจูบดูดดื่ม

“ติ๊ดๆ ติ๊ดๆ” เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น มือหนาเอื้อมไปกดปิดนอนพลิกตัวยิ้มนึกถึงฝันหวานที่ได้ร่วมรักกับสาวหน้าสวยจนอยากฝันต่อ เพียงเจอไม่กี่ครั้งเธอก็ทำให้เขาเป็นขนาดนี้ ไม่แปลกใจเลยที่ผู้ชายคนอื่นยอมทิ้งลูกเมียเพื่อมาอยู่กับเธอ

“ตกหลุมแม่หม้ายเหรอวะเรา เธอทำเสน่ห์ใส่ฉันหรือเปล่านะนารา” เสียงทุ้มบ่นพึมพำกับตัวเองแล้วอมยิ้มที่ตัวเองกำลังแพ้ทางให้กับผู้หญิงฉาวโฉ่ที่ใคร ๆ ก็ต่างให้ร้ายแต่จากที่พบเจอกับเธอทำให้เขารู้สึกว่าเธอไม่ใช่คนน่ารังเกียจอย่างที่ใครร่ำลือ

ภายในห้องอาหาร

ทรงพล ปิ่นมณีและปานวาดนั่งทานอาหารเช้าที่โต๊ะอาหาร ภูวดลลงมาช้าก็รีบเดินมานั่งข้างๆ ทรงพล

“แกไม่เคยสายนะ” ทรงพลมองลูกชายนั่งจิบกาแฟ

“เมื่อวานไปว่ายน้ำมาแล้วรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวครับ” ภูวดลหันไปคุยกับพ่อแล้วอมยิ้มเมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อวาน

“ว่ายน้ำที่อื่นคงไม่สะอาดเหมือนที่บ้านนะคะ” ปิ่นมณีร่วมสนทนาด้วย

“ครับ รู้ว่าไม่สะอาดแต่ไม่รู้ทำไมถึงอยากลงไป” เขายิ้มกรุ้มกริ่มแววตาเป็นประกายสื่อไปถึงนลินนาราแม้รู้อยู่ว่าเธอเป็นผู้หญิงไม่ดีแต่ยังอยากเข้าใกล้

“นิสัยดื้อรั้นไม่เปลี่ยนนะ ว่าแต่เรื่องงานเลี้ยงต้อนรับท่านทูต พ่ออยากให้เจอหนูพิ้งค์ทำความรู้จักกันไว้พ่อของเขาเส้นสายดีในวงราชการ เราจะได้ทำธุรกิจง่ายขึ้น”

“คุณลุงจะจับคู่ให้พี่ภูเหรอคะ?” ปานวาดแทรกขึ้นน้ำเสียงไม่พอใจ

“แค่ให้รู้จักกันไว้แต่ถ้าภูชอบ ลุงก็ไม่ได้ว่าอะไร” ทรงพลน้ำเสียงเรียบหันไปยิ้มให้ลูกชาย ภูวดลรู้ว่าพ่อต้องการแค่เส้นสายทางธุรกิจไม่ได้คิดจะเกี่ยวดองอะไร ด้านปานวาดกำมือแน่นเก็บอาการไม่พอใจ ปิ่นมณีเห็นอาการลูกสาวรีบลูบมือปลอบให้ใจเย็นๆ

เมื่อทานอาหารเช้าเสร็จทุกคนแยกย้ายไปทำงาน ปานวาดกระฟัดกระเฟียดกระทืบเท้าขึ้นห้องนอนกรีดร้องอาละวาด ขว้างปาข้าวของ ปิ่นมณีรีบวิ่งเข้ามาดูหน้าตาตื่นจนเกือบโดนกรอบรูปที่ลูกขว้างมาโชคดีที่เบี่ยงตัวหลบทัน

“พี่ภูเป็นของวาด วาดไม่ยอมเสียเขาไป!” ปานวาดโวยวายสีหน้าเกรี้ยวกราด

“เขาเป็นพี่ชายของลูกนะ”

“แค่ลูกคนละพ่อคนละแม่!”

“เรื่องภูกับวาดมันเป็นอดีต แม่ว่าตอนนี้ภูไม่ได้คิดกับวาดอย่างนั้นแล้ว”

“แม่จะรู้ได้ยังไง พี่ภูยังรักวาดไม่อย่างนั้นเขาต้องแต่งงานไปแล้ว ที่ครองตัวโสดเพราะรอวาดอยู่ พี่ภูไม่อยากแสดงตัวเพราะผัววาดพึ่งตายแต่อีกไม่นานพี่ภูจะต้องมาขอวาดแต่งงาน!” ปานวาดกัดฟันตัวสั่นเทามั่นใจว่าภูวดลยังรักเธอคนเดียวเหมือนที่เคย

“ไม่มีทาง ลูกกับเขาเป็นพี่น้องกัน!”

“โอ๊ยแม่ ถ้าการที่แม่เป็นแม่เลี้ยงแล้วทำให้วาดแต่งงานกับพี่ภูไม่ได้ แม่ก็เลิกกับคุณลุงไปสิ แม่ทำให้วาดได้ไหมหรือว่าแม่เห็นแต่ความสุขของตัวเองแล้วปล่อยให้วาดไม่สมหวังอยู่คนเดียว!”

“แม่ทำเพื่อวาดได้ทุกอย่าง” ปิ่นมณีหน้าเสียน้ำตารื้นสะเทือนใจกับคำพูดของลูกสาว

“อย่ามาทำเป็นพูดดี ถ้าสิบสี่ปีที่แล้วแม่ไม่เห็นแก่ตัว ยอมเลิกกับคุณลุงตั้งแต่ตอนนั้น ชีวิตวาดก็ไม่ต้องเจอคนเลวอย่างไอ้ณุ วาดจะมีชีวิตที่ดีมีความสุขอยู่กับผู้ชายที่วาดรัก ทั้งหมดมันเป็นเพราะแม่ๆ ทำให้ชีวิตวาดพัง ฮือ ฮือ” ปานวาดทรุดตัวลงบนพื้นร้องไห้สะอื้นจนตัวงอ ปิ่นมณีน้ำตาไหลเข้าไปโอบกอดปลอบลูกไม่คิดเลยว่าสิ่งที่เธอทำหวังให้ลูกมีชีวิตสุขสบายกลับเป็นการทำร้ายให้ลูกไม่มีความสุข แม่ลูกกอดกันร้องไห้ระงมภายในห้องนอนกว้าง ภูวดลที่บังเอิญกลับมาเอาของได้ยินการสนทนาของสองแม่ลูกก็ทำให้เขานิ่งงันแววตาสั่นไหวแล้วเดินจากไปเงียบ ๆ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel