Chapter 2
Chapter 2
แม่สามนัดให้ผมแต่งตัวเพื่อที่จะพาผมไปดูตัวของว่าที่สามีของผม ซึ่งทำให้ผมอิดออดไม่อยากจะไปเลยสักนิด
"คุณวอร์มช่วยทำหน้าให้มันดีๆหน่อยได้มั้ยคะ"
"โธ่แม่สามผมไม่อยากดูตัวไม่อยากแต่งงานผมแต่งงานกับผู้หญิงก็ได้ทำไมต้องแต่งกับผู้ชายด้วยอ่ะ"
"หมั้นเขาเอาไว้จะแต่งงานกับคนอื่นได้ไง"
"ไม่แต่งได้ไหม ยกเลิกไปเลยก็ได้"
"ยกเลิกไม่ได้เพราะว่าตอนนี้คู่หมั้นเธอนั่งอยู่ตรงนั้น"
"งื้อออออ"
"คุณวอร์ม"
"ไม่เอาวอร์มไม่พร้อม"
"ต้องพร้อมนะคะ"
"วอร์ไม่ดูตัว งื้อออออออ"
"นั้นคุณนายสามใช่มั้ยคะ!"
"สวัสดีค่ะคุณนายเจ้าสัวฟ้า"
"สวัสดีค่ะคุณนายสาม"
"คุณวอร์มสวัสดีคุณนายเจ้าสัวฟ้าสิ"
"สวัสดีครับคุณนายเจ้าสัวฟ้า"
"เรียกคุณแม่เถอะจ๊ะ"
ผู้หญิงคนนี้เป็นคุณนายของเจ้าสัวจริงๆหรอหน้าตาเหมือนเด็กอายุ 20 ต้นๆอยู่เลยไม่น่าเชื่อว่าจะมีผู้หญิงที่หน้าอ่อนขนาดนี้อยู่บนโลกใบนี้ด้วย
"ครับคุณแม่"
"นี่แฟนต้าลูกชายของคุณแม่ค่ะ ตอนนี้แฟนต้าอายุ 20 แล้วกำลังเรียนมหาลัย ปี 2 คณะวิศวกรรมศาสตร์เครื่องกลจ๊ะ"
"อ๋อครับ"
"แฟนต้าสวัสดีพี่เขาสิลูก นี่คือพี่วอร์มคู่หมั้นของลูก"
"สวัสดีครับพี่วอร์ม"
"สวัสดีครับแฟนต้า"
"แล้วน้องวอร์มทำงานอะไรคะ"
"ทำบริษัทเพลงครับ แล้วก็ช่วยงานของที่บ้านเป็นธุรกิจเกี่ยวกับรีสอร์ทตอนนี้จะเปิดรีสอร์ทจะหาทำเลทำรีสอร์ทอยู่ครับผมต้องเข้าไปคุมงานดูแลงานเองทุกขั้นตอนช่วงนี้อาจจะไม่ค่อยว่างสักเท่าไหร่ต้องขอโทษด้วยนะครับ"
"ไม่เป็นไรอีกไม่กี่เดือนก็จะแต่งงานกันแล้วสบายใจได้ แฟนต้าเขาไม่กวนหรอกลูกปกติแฟนต้าก็ทำงานของคณะแม่ก็สบายใจที่แฟนต้าจะมีคนคอยดูแล"
"ครับ"
"วันนี้ก็ถือโอกาสไปเที่ยวด้วยกันสิแม่ก็จะกลับกันแล้วไปเที่ยวให้สนุกกันเถอะนะ"
"เอ่อ...ก็ได้ครับ"
"ดีมากจ๊ะ"
อย่างน้อยว่าที่แม่ผัวก็รักละวะดีกว่าแต่งงานไปแล้ว แม่ผัวเกลียดแม่ผัวไม่ชอบ วุ่นวายกันไปอีก แต่ว่าแม่จะเรียกแม่ผัวแต่ไปถึงห้องหอแล้วใครมันก็สามารถเป็นผัวก็ได้ในสถานะของผม จะบอกว่าเป็นเมียก็ตาม
ผมเดินเที่ยวห้างกับผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่า ว่าที่สามีในอนาคตของผมกันสองต่อสองโดยที่ไม่มีการพูดจาอะไรกันเลยแม้แต่นิดเดียว
"อยากซื้ออะไรไหม"
"ผมว่าจะไปเลือกน้ำหอมไปด้วยกันไหมครับ"
"ได้สิ"
ผมมาเลือกกลิ่นน้ำหอมก่อนที่จะถูกใจกลิ่นน้ำหอมกลิ่นนึงเป็นกลิ่นดอกไม้รู้สึกกลิ่นหอมหวาน ๆ รู้สึกสดชื่นยังไงไม่รู้ผมจึงเลือกซื้อกลิ่นน้ำหอมกลิ่นนี้เอามาใช้เป็นประจำตัวของตัวเอง
"พี่วอร์มยิ้มน่ารักดีนะครับ"
"ขอบใจ"
"ช่วงนี้พี่ว่างหรือเปล่าครับพอดีผมมีแข่งกีฬาของมหาลัยอยากจะชวนพี่ไปดูนะครับ"
"ที่วิศวะหรอก็น่าจะว่างนะเพราะงานไม่ค่อยได้ไปทำอยู่แล้วไปเที่ยวบ้างก็ดี"
"พี่รู้สึกไม่ชอบผมใช่ไหมครับ"
ผมหันไปมองหน้าของเด็กที่เพิ่งเจอกันไม่ถึง 3 ชั่วโมงก็เลยทักผมขึ้นมา
"คนเรายังไงก็หลีกเลี่ยงกันไม่ได้เราหมั้นหมายกันตั้งแต่เด็กยังไงเราก็แต่งงานกันเหมือนเดิม"
"ผมชอบพี่นะตั้งแต่เด็กเลยแหละ"
"นายพอเถอะจะพูดให้ขนแขนลุกทำไม ไปเลือกน้ำหอมต่อเถอะ"
แฟนต้าก็ยกยิ้มให้กับผมก่อนจะหันไปเลือกน้ำหอมเด็กมันไม่ธรรมดาเว้ย ผมว่าผมเจ้าเล่ห์แล้วเจ้าเด็กคนนี้มันเจ้าเล่ห์กับผมอีกคอยดูเถอะถ้าแต่งงานกันเมื่อไหร่แกจะกลายเป็นแค่ลูกเจี๊ยบในมือของผมจะบีบก็ตายจะคลายก็รอด รู้เอาไว้ซะว่าคุณตระกูลนี้เมียเป็นใหญ่!
ในรอบ 2 ปีเลยก็ว่าได้ที่ผม เรียนจบมาก็ไม่ได้มาที่นี่อีกเลยมหาลัยที่ผมเคยเรียน 7 ปีก่อน ผมเข้าเรียนที่มหาลัยแห่งนี้ที่คณะวิศวเครื่องกลเหมือนกันแสดงว่าผมต้องเป็นรุ่นพี่เขาหลายรุ่นเลยก็ว่าได้
"วันนี้นายจะแข่งอะไร"
"แข่งฟุตบอลครับ"
"ฉันนั่งรอที่นี่นะ"
"ผมมีที่นั่งพิเศษให้พี่สนใจไปบ้างป่ะ"
"ไม่เอาจะนั่งที่นี่"
"ถ้าพี่นั่งที่นี่พี่ก็ไม่เห็นผมอ่ะดิ"
"เรื่องมากจริง ๆ ก็รีบพาไปสิ"
"ได้ครับ"
ผมเดินตามแฟนต้าไปยังที่นั่งพิเศษที่เขาบอกซึ่งก็คือที่นั่งของนักกีฬานั้นเองใครเขาบอกให้คนนอกมานั่งที่นั่งนักกีฬา ก่อนที่ทุกคนในทีมจะหันมามองผมกันหมดไม่เว้นแม้กระทั่งโค้ช ที่เป็นรุ่นพี่มาให้คำแนะนำน้องก็หันมามองผม
"พี่วอร์มสวัสดีครับ"
"สวัสดีครับ"
"พี่วอร์มมากับไอ้แฟนได้ไงครับปกติไอ้แฟนมันไม่ค่อยพาใครมานะครับ"
"ไม่รู้สิ แฟนต้าชวนมา"
"ไอ้แฟนมึงไปชวนพี่เขามาได้ไงวะ"
"ผมหล่อไงเดินไปอ่อยพี่เขา พี่เขาก็ตามผมมาแหละ"
"ให้มันในน้อย ๆ เหอะมึงอ่ะ เป็นถึงเดือนมหาลัยทำตัวนะมึงอ่ะ ดูแฟนคลับมึงมานั่งหน้าสลอนรอคอยใบหน้าหล่อของมึง ตั้งเยอะแยะมึงพาพี่วอร์มคนสวยของกูมาได้ไงวะเนี่ย"
"คนสวย?"
"พี่ไม่ต้องตกใจ"
"ตอนที่พี่เรียนมหาลัยอยู่อ่ะ พี่ได้รับฉายาว่าคนสวยที่สุดภายในมหาลัยแห่งนี้เป็นขวัญใจของหนุ่ม ๆ สาว ๆ ที่นี่กันทั้งนั้น แต่พี่ไม่ได้สนใจพวกผมเท่านั้นเอง"
"มันเคยมีเรื่องแบบนี้แล้วหรอ"
"หน้าพี่สวยกว่าดาวหล่อกว่าเดือนอีกพี่ สมัยพี่อ่ะผมก็งงนะครับว่าทำไมพี่อ่ะถึงไม่ประกวดดาวเดือนกับเขา ถ้าพี่ประกวดดาวเดือนก็คงได้ที่ 1 ไปแล้ว"
เด็กคนนี้ก็พูดไปลูกมาเฟียอย่างผมประกวดดาวเดือนก็เป็นไข้โป้งตายดิ โป้งเดียวจอดตายห่าพอดี ผมจึงไม่เสี่ยงที่จะออกหน้าออกตาให้คนอื่นรู้ว่าผมเป็นใครทุกคนต้องสืบประวัติผมแน่นอนถ้าผมเป็นดาวเดือนมหาลัย
ซึ่งผมเองก็เป็นคนที่รักตัวกลัวตายเช่นเดียวกัน เพราะผมยังมีน้อง ๆ ที่ต้องดูแลอีกจึงไม่สันทัดเรื่องการที่จะเป็นดาวเดือนแล้วไม่ได้อินกับมหาลัยขนาดนั้น
และการตัดปัญหาของผมได้ดีที่สุดก็คือการไม่ทำอะไรเลย นอกจากที่ผมจะเรียนอย่างเดียว แต่ถึงอย่างนั้นความดังของผมก็ได้มาจากหน้าตาและท่าทางที่นิ่งเงียบของผมนั่นเอง ในบรรดาลูกทั้ง 8 คน ผมหน้าตาสวยสุดแล้ว
"ผมไม่คิดเลยนะครับว่าพี่จะดังขนาดนี้"
"เด็กปี 2 อย่างมึงจะรู้อะไรพี่เขาเรียนจบมาตั้งหลายปี มึงไม่รู้จักพี่เขาก็ไม่แปลกหรอกไอ้แฟน"
"พวกมึงเตรียมตัวกันได้แล้วไปวิ่งรอบสนามก่อนไป แต่อย่างหนึ่งที่พี่ยังไม่บอกว่าผมก็คือพี่กับมันเป็นอะไรกัน"
"พวกพี่สองคนเป็นแฟนกันหรอ"
"ไม่ได้เป็นแฟน แต่เป็นคู่หมั้น"
