บทที่ 1 นางร้ายมาเฟีย
ณัฐนารีคิดว่าชีวิตของเธอก็สมบุกสมบันพอสมควร ยิ่งเข้ามารับงานในจอแก้วและได้รับบทบาทที่ได้มีโอกาสเล่นแล้วตีบทแตก มันทำให้เธอโด่งดังชนิดที่ว่าตัวเองก็คาดไม่ถึงเช่นกัน
มันไม่ได้ดีไปทั้งหมด เพราะเธอเข้ามาแบบผิดที่ผิดเวลาไปหน่อย ปัญหามากมายก็มีมาได้ไม่เว้นแต่ละวัน
แต่หญิงสาวเลือกที่จะมองแค่สิ่งที่ทำให้ตัวเองมีความสุข เธอเป็นคนที่มีภูมิต้านทานกับน้ำคำคน จนบางครั้งมันก็เฉยชาเหมือนไม่แคร์สิ่งใด
ณัฐนารีกลายเป็นคนที่หยิ่งผยอง และน่าหมั่นไส้ในสายตาของคนที่ไม่ได้รู้จักกันหรือรู้จักกันแค่ผิวเผิน
และนั่นมันเป็นสิ่งที่คนอื่นมองเข้ามา ก่อนจะตัดสินเธอตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น ทั้งที่ยังไม่ได้คุยกันเลยด้วยซ้ำ และเธอก็เป็นประเภทไม่ชอบอธิบาย เราเป็นอย่างไรเรารู้ตัวเองดีเท่านั้นก็พอ
ณัฐนารีมองตัวหนังสือในหน้าจอไอแพดในมือด้วยสายตาว่างเปล่า ตั้งแต่ก้าวแรกที่ได้เข้ามาในวงการบันเทิงจากการถ่ายแบบแฟชั่นเล่น ๆ ที่แฟนหนุ่มของฟีนผู้จัดการส่วนตัวเป็นคนถ่ายให้
ณัฐนารีก็มียอดติดตามใน IG เพิ่มขึ้น และก็มีคนติดต่อเข้ามาให้รีวิวสินค้า แต่เธอไม่รับ ไม่ใช่ว่าหยิ่ง แต่เธอคิดว่าการซื่อสัตย์กับตัวเองนั้นดีที่สุด เธอไม่ได้กิน ไม่ได้ทา จะให้มารีวิวว่าสินค้าพวกนั้นดีได้ยังไง
‘ลีไม่ได้ขัดสนเรื่องเงินค่ะ ลีไม่ได้ต้องการเงินเพิ่ม แต่ลีต้องการรีวิวตามความจริง’
นั่นเป็นคำพูดที่เธอบอกเจ้าของแบรนด์ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่ดังระดับประเทศ เธอเป็นน้องใหม่หรือโนเนมในวงการ แต่กลับไปตีแสกหน้าคนที่เป็นสปอนเซอร์ใหญ่ให้กับโฆษณาต่าง ๆ
คนส่วนใหญ่เรียกการกระทำของเธอว่า ‘โง่เง่า’ แต่ณัฐนารีไม่คิดเช่นนั้น เพราะนั่นความภูมิใจของเธอ
เราซื่อสัตย์ต่อคนอื่นไม่ได้เราก็ควรซื่อสัตย์ต่อตัวเอง
ก็อีกนั่นแหละแม้มีคนพยายามจะถีบเธอกระเด็นหลุดออกจากวงโคจรนี้เท่าไหร่ แต่ฝีมือการแสดงของเธอก็ไม่ใช่สิ่งที่ปลอมเปลือกขึ้นมา ณัฐนารีเป็นคนตั้งใจ มุ่งมั่นและย้ำคิดย้ำทำ
เธอจึงประสบความสำเร็จโดยใช้เวลาแค่เพียงหนึ่งปีเท่านั้น ไม่มีใครไม่รู้จัก น้องลี ณัฐนารี สุขสมบุญ
#นางร้ายมาเฟีย พอนึกถึงตรงนี้มุมปากก็โค้งขึ้น ใครมันช่างตั้งให้เธอนะ แม้จะไม่ได้เอ่ยชื่อตรง ๆ แต่ถ้าลองเอานิ้วจิ้มลงไปดูแล้วละก็…มันมีแต่หน้าเธอเต็มไปหมด เมื่อมีคนด่า = ดัง
