บท
ตั้งค่า

บทที่5

[B 2 ห้อง4]

เขตอันตราย ห้ามเข้า

นี่แค่ป้ายชื่อห้องยังขนาดนี้ แล้วเพื่อนร่วมชั้นจะขนาดไหนล่ะเนี่ย ฉันก้มมองป้ายชื่อห้องที่ปกคอเสื้อของตัวเองเพื่อความแน่ใจว่าไม่ได้เดินมาผิดห้อง ก็เพราะอะไรน่ะเหรอ ก็เพราะว่าห้องที่ฉันกำลังยืนขาสั่นอยู่นี่ คือห้องที่ส่งเสียงดังชนิดที่ว่าสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ไกลออกไปสักร้อยพันลี่ยังสามารถได้ยิน ห้องที่ดูเก่า น่ากลัว ทรุดโทรม ที่สุด!

‘’ อ้าวเธอ! มายืนต้อมๆ มองๆ อะไรอยู่หน้าห้องเรียนล่ะจ๊ะ’’ก่อนที่ฉันจะได้ทันคิดเองเออเองเตลิดเปิดเปิงไปมากกว่านี้ เสียงสวรรค์ก็ดังขึ้นพร้อมกับร่างบางๆ หุ่นเพรียวๆ ของผู้หญิงคนนึงที่ดูจากไม้เรียวอาวุธคู่ใจที่เจ๊แกหนีบมาด้วยนั้น....คงจะเป็นอาจารย์ล่ะสินะ

‘’........’’

‘’ เด็กใหม่ล่ะสิเรา‘’ อาจารย์ถามขึ้นพรางก้มสำรวจฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า..แต่งเครื่องแบบสถาบันเลวๆ นี่ซะเต็มยศขนาดนี้ คงจะมาสมัครเป็นนักการภารโรงล่ะมั้งค่ะ อาจารย์~

‘’ ค่ะ’’ แล้วทำไมคำตอบจากปากฉันมันถึงได้สั้นกว่าในความคิดไปได้ล่ะเนี่ย ไม่เข้าใจตัวเองเลยจริงๆ ให้ตายสิ

‘’ ไม่ต้องอายหรอกจ๊ะ เพื่อนๆ เขาคงกำลังรอต้อนรับเธออยู่แนะ เข้าไปสิจ๊ะ’’ หน้าตาหนูในตอนนี้ ส่วนไหนค่ะอาจารย์? ที่มันบ่งบอกถึงความอายน่ะ ถ้าเปลี่ยนเป็นความหวาดกลัวก็ว่าไปอย่าง

ทันทีที่ประตูห้องเรียนถูกเปิดขึ้น บรรยากาศก็แปรเปลี่ยนไป ฉันรู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกทะลวงใจด้วยสายตาอาฆาตจากเพื่อนร่วมห้อง ความหนาวเย็นแผ่ซ่านทุกอณูขุมขน เสียงที่ดังปานตลาดสดซอยสี่เงียบกริบ มันเงียบมาก เงียบซะจนฉันอยากจะวิ่งหนีไปให้ไกลๆ แต่ขาเวรทั้งสองข้างกลับไม่ยอมก้าวอย่างที่ใจคิด นึกแล้วน่าอนาถแท้

‘’ นะ....นักเรียนที่เคารพจ๊ะ วันนี้ชั้นเรียนเรามีเพื่อนนักเรียนใหม่จ๊ะ’’ปกตินักเรียนต้องเคารพอาจารย์ไม่ใช่รึไงนะ แต่ดูจากสายตาอาฆาตของเพื่อนร่วมชั้นในตอนนี้แล้ว ถ้าฉันเป็นอาจารย์ ฉันก็คงจะเคารพนักเรียนพวกนี้อยู่เหมือนกัน เผลอๆ ฉันอาจจะยกมือเหนือหัวกราบไหว้สวัสดีซะด้วยซ้ำไป

‘’........’’ เงียบ~ฉี่~~บรรยากาศยังเงียบได้อีก

‘’ อะ...เอ่อ แฮ่ๆๆ แนะนำตัวให้เพื่อนๆ รู้จักหน่อยสิจ๊ะ นักเรียนใหม่’’ อาจารย์ผู้กล้าหาญพูดขึ้นพรางหยิบผ้าเช็ดผ้าออกมาซับเหงื่อที่เริ่มจะไหลย้อย อากาศก็ไม่ร้อน ทำไมเหงื่อถึงได้ไหลเยอะอย่างนั้นล่ะค่ะอาจารย์

‘’ สะ...สวัสดีค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักเพื่อนๆ ทุกคนนะค่ะ’’ฉันพูดแบบขอไปที หลีกเลี่ยงการบอกชื่อเป็นดีที่สุด แต่ทว่า

‘’ แนะนำชื่อด้วยสิจ๊ะ’’ อาจารย์ผู้ใจดีกลับความจำดีซะอย่างงั้น

‘’ ฉันชื่อว่า ยะ...ยิปโซ สุริยะวัจสกุล ฝากเนื้อฝากตัว ด้วยนะคะ‘’ ฉันพูดเบาๆ ในขณะที่ห้องเรียนก็ยังคงความเงียบเอาไว้อย่างดีเยี่ยมอยู่ ทำให้เสียงเบาๆ ของฉัน กลับดังกึ่งก้องไปทั่วห้อง

พรึบ!

สายตาอาฆาตแค้นของเพื่อนร่วมชั้นถูกส่งมาทางสายลมให้ฉันแวบหนึ่งก่อนจะหันเหไปสนใจที่ประตูด้านหลังฉัน ประตูมันมีอะไรดีงั้นเหรอ ทำไมต้องพร้อมใจกันหันไปมองดูด้วย ฉันคิดใจในก่อนจะหันไปที่ประตูต้นเหตุที่ทำให้เสียงที่ดังราวนรกแตกเงียบลงได้..

ทันทีที่เห็นภาพตรงหน้า ดวงตาฉันก็เบิกโตด้วยความตกใจไปตามบรรยากาศก่อนจะโพล่งขึ้นอย่างลืมตัว

‘’ นาย! ยังไม่ตายหรอกเหรอเนี่ย’’

‘’ ไม่มีคำทักทายอื่นที่ฟังแล้วระรื่นหูกว่านี้เลยรึไง’’ชายนิรนามที่ยืนเด่นสง่าอยู่ตรงหน้าฉันก็คือเขา ไอ้เทพพระเจ้าแห่งความซวยที่เป็นต้นเหตุทำให้ฉันต้องวิ่งไอ้พวกอสูรกายกลายพันธ์จนน่องโป่ง ขาบวม ไอ้หน้าหล่อเจ้าเก่าที่มีชื่อว่าซันโจนั่นเอง

ตอนนี้เขาอยู่ในชุดของเซนต์ซารารี่ที่ผิดระเบียบตั้งแต่หัวจรดเท้า กระดุมบนสองเม็ดถูกแกะออกเผยให้เห็นอกกว้าง ชายเสื้อหลุดออกจากกางเกงแบบลวกๆ ดูแล้วเท่ห์ชะมัดยาก!! แต่สิ่งที่น่าตกใจไปมากกว่านั้นก็คือ ใบหน้าที่เต็มไปด้วยบาดแผลนั่น เมื่อวานมันยังไม่เยอะขนาดนี้นี่น่า แสดงว่าหมอนี่คงไปฟัดกับใครก่อนจะขึ้นเรียนแหงๆ ศัตรูเยอะแบบนี้ ฉันอยู่ห่างๆ เพื่อความปลอดภัยจะดีกว่า

‘’ อะ...เอ่อ เอาละนักเรียน นี่คือเพื่อนใหม่ทั้งสองของชั้นเราในปีนี้ เอาละหนุ่มหล่อ แนะนำตัวหน่อยสิจ๊ะ‘’ดูเหมือนว่าคนที่คอยแก้ไขสถานการณ์ที่ตรึงเครียดนี้จะหนีไม่พ้นอาจารย์ร่างบางผู้น่าสงสาร หมอนั่นนอกจากจะไม่เอ่ยปากพูดอะไรแล้ว เขาหยักไหล่กวนๆ ก่อนจะออกแรงลากฉันไปยังโต๊ะว่างสองตัวที่เหลืออยู่บริเวณหลังทันที ท่ามกลางสายตางุนงงของประชากรทั้งห้อง-_-? (รวมทั้งฉันด้วย)

‘’ คนอะไร หน้าตาก็ดี แต่มารยาทแย่ชะมัด!!’’ฉันบ่นอุบอิบในลำคอก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงบนโต๊ะข้างๆ อีตาบ้านี่อย่างจำใจ เพราะไม่มีที่อื่นหลงเหลือให้ฉันนั่งแล้ว

‘’ บางทีเธออาจจะยังไม่รู้ สำหรับคนพวกนี้น่ะ ไม่จำเป็นต้องมีมารยาทด้วย’’เขาเอ่ยขึ้นด้วยเสียงดังฟังชัดราวกับเสียงตะโกนเรียกร้องสายตาอาฆาตจากเพื่อนร่วมชั้นที่ถูกกล่าวหาได้เป็นอย่างดี แม่นายไม่เคยสอนมารยาทในการนินชาวบ้านชาวช่องให้รู้รึไงฟ่ะ!

ขึ้นชื่อว่านินทาคน มันต้องกระซิบกระซาบโว๊ยยย~ไม่ใช่ตะโกนโหวกเหวกแบบนี้ แต่ก็ช่างเถอะ ถึงฉันจะพูดอะไรไปหมอนี่ก็คงไม่ฟังฉัอยู่ดี มันแน่อยู่แล้ว...ก็ฉันไม่ใช่ภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของพ่อเขานี่น่า(แม่ - - ?) เขาถึงจะได้เชื่อฟังที่ฉันพูดน่ะ

‘’ ว่าแต่แล้วหน้านายไปโดนเท้าใครมาอีกล่ะ เมื่อวานมันไม่เยอะขนาดนี้นี่’’ฉันถามขึ้นทันทีที่เหลือบไปมองใบหน้าของเขา มุมปากล่างเป็นรอยช้ำเล็กๆ มาจากการโดนชกอย่างน้อยก็สามหมัดเห็นจะได้ โหนกแก้มซ้ายขวาเป็นรอยแดงจ้ำๆ หางคิ้วที่แตกยังมีรอยแห้งของเลือดติดอยู่ หน้าหล่อๆ เสียโฉมหมด!

'' นี่! ถามไม่ได้ยินรึไง หรือว่าฟังภาษาคนไม่รู้เรื่อง''ฉันตวาดอีกทั้งเมื่อเห็นว่าเขายังคงนิ่งเงียบเป็นเป่าสากอยู่

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel