บทที่ 2
ทำไมกุต้องมาอยู่กับอิเด็กนี่ด้วยวะ!
เขานึกหงุดหงิดในใจเพราะเขาไม่ชอบเอาซะเลย...ผู้หญิงอ่อนแอแบบนี้!
"รีบไปโรงบาลดีกว่าค่ะ เดี๋ยวหนูพาไป"
ขนมปังพยายามพยุงรามสูรให้ลุกขึ้นยืน เธอจะได้พาเขาไปส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด แต่รามสูรรู้ตัวเองดีว่าในสถานการณ์เช่นนี่เขาไม่ควรมาห่วงตัวเองเขาควรจะรีบไปช่วยลูกน้องที่เหลืออยู่ ที่ตอนนี้อาจจะถูกจอมพลตามล่าอยู่ก็ได้
"แผลแค่นี้กุไม่ตายหรอก! หลีกไป!" รามสูรตวาดเสียงดังพร้อมกับผลักขนมปังจนล้มก้นจ้ำเบ้า
ถึงแม้ว่าเขาจะเจ็บหนักแต่คนอย่างรามสูรเขาก็ไม่คิดจะให้ใครมาช่วยโดยเฉพาะผู้หญิงตัวเล็กๆแถมยังดูอ่อนแอแบบนี้
"ตามใจ!" เธอตอบออกไปแบบคนที่ปะชด
ชิส์! อุตส่าจะช่วย รู้งี้ตะโกนบวกพวกนักเลงนั่นซะก็ดีหรอก!
ขนมปังบ่นพึมพำ...
"อ๊าาส์!!" พอรามสูรใช้แขนข้างที่เจ็บยันพื้นเพื่อจะลุกขึ้นยืน เขาก็โอดครวญออกมาอย่างลืมตัว ก็เพราะแผลข้างที่โดนฟัน ตอนนี้มันเริ่มออกฤทธิ์ซะแล้ว เขาได้แต่เอามือกดแผลตัวเองไว้แรงๆเพื่อจะห้ามเลือด
เธอเองก็นึกหมั่นไส้ในท่าทีหยิ่งผยองของเขา
โธ่ๆ...! พ่อนักเลงหัวไม้เอ้ย! จะตายอยู่แล้วยังปากดีอีก!
เธอเบะปาก ?
แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่อาจจะทนดูคนเจ็บหนักโดยไม่เข้าช่วย เธอล้วงเอาผ้าเช็ดหน้าสีชมพูแปร๋นของตัวเองในกระโปรงนักเรียนแล้วส่งให้
"อ่ะ...เอาไปห้ามเลือดสิคะ! เดี๋ยวถ้าเลือดออกหมดตัวจะอดไปแก้แค้นไม่รู้ด้วยนะ" เธอพูดด้วยท่าทีที่ตั้งใจจะยียวนกวนประสาท รามสูรรับผ้าเช็ดหน้าจากมือเล็กไปด้วยความจำใจ
ใช่...! เขาจะยังตายตอนนี้ไม่ได้!
"ถ้ามึงอยากมีชีวิตอยู่ต่อ ก็เหยียบเรื่องที่รู้ที่เห็นวันนี้ไว้ให้จมดิน! ไม่งั้น.......กุจะไปเอาชีวิตมึงกับครอบครัว!!?" รามสูรพูดด้วยน้ำเสียงของคนที่เอาจริงซ้ำยังหันกระบอกปืนพกไปจ่อที่ขมับของอีกฝ่าย แน่นอนว่าเขาไม่ต้องการจะให้ตำรวจเข้ามาวุ่นวาย เรื่องระหว่างเขากับจอมพล เขาจะต้องสะสางด้วยตัวของเขาเอง
"ค่ะ หนะ...หนูจะไม่บอกคะ...ใคร" ขนมปังก้มหน้าตอบออกไปแทบจะไม่เป็นคำ เธอไม่กล้าแม้จะมองหน้ารามสูรด้วยซ้ำ
"ดี...!" รามสูรตอบเพียงสั้นๆแล้วก็พยุงร่างที่บาดเจ็บสาหัสออกไปจนสุดสายตา เธอรีบทิ้งร่างลงกับพื้นทันที
เกือบตายแล้วมั้ยอิขนม! ชาตินี้ขออย่าได้เจอะได้เจอกันอีกเลยนะ ไอ้นักเลงหัวไม้! สาธุ๊...!
เธอนั่งยองๆพร้อมกับยกมือขึ้นพนมจนสุดหัว ?
✂️
เช้าวันต่อมา...
~ ขนมปังรีบอาบน้ำแต่งตัวแล้วลงมาช่วยแม่เธอขายข้าวแกงเหมือนเช่นทุกวันเพื่อจะได้กลบเกลื่อนเรื่องที่เธอกลับบ้านผิดเวลาเมื่อวานนี้
การที่เธอเอาตัวไปอยู่ในเหตุการณ์กราดยิงกันเช่นนั้นเธอเลือกที่จะไม่เล่าให้ใครฟัง เพราะเธอไม่ต้องการให้คนที่บ้านต้องมาเป็นห่วง ~
"วันนี้กินอะไรดีคะพี่เทิด?" ขนมปังเอ่ยทักลูกค้าจ้าวประจำที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับพ่อตัวเอง ไม่ใช่ว่าเธอลามปามหรอกเพียงแต่เธอรู้ว่าอีกฝ่ายก็ชอบให้เรียกแบบนี้
"แหม่! หนูขนม เอาใจพี่แต่เช้าแบบนี้จะเอาทิปกี่บาทดีจ๊ะ" ลุงวัยกลางคนพูดแซวเด็กสาวอย่างคนรู้ทัน
"หมดกระเป๋าเลยได้มั้ยคะ?เธอก็แกล้งแหย่เขาต่อ เธอมักจะชอบพูดเล่นแบบนี้กับลูกค้าเป็นประจำ เพราะมันทำให้มีคนมาอุดหนุนข้าวแกงที่ร้านแม่เธอทุกวัน
"นี่แน่ะ...!ไอ้ขนม! ให้มันน้อยๆหน่อย" วัลภา เขกหัวลูกสาวทีนึงด้วยความรู้สึกหมั่นไส้กับกลยุทธิ์การเรียกลูกค้าที่ทำเป็นประจำ แต่ถึงจะอย่างนั้น เธอก็รู้ดีว่าลูกสาวคนนี้เป็นเด็กดีและไม่เคยออกนอกลู่นอกทาง
"โห แม่อ่ะ หนูเจ็บน้ะ" ขนมปังทำท่าค้อนแม่ตัวเองนิดๆก่อนจะรีบตักกับข้าวเสริฟให้ลูกค้าคนต่อไป
"อ้าว พี่เอ็กส์ หนูก็นึกว่าจะไม่มา?" เธอยิ้มทักทายอย่างเป็นมิตร
"ไม่มาได้ไง ก็หัวใจอยู่ตรงนี้?" เอ็กส์...เขามักจะขยันหยอดมุขจีบแบบนี้ทุกวัน ถึงแม้เขาจะรู้ดีว่าอีกฝ่ายไม่ได้คิดอะไรด้วย แต่เขาก็รอได้เพราะเขาชอบเธอจริงๆ
"แหวะ! เลี่ยนไป๊!" ขนมปังทำท่าอ้วกนิดๆก่อนจะตักเมนูโปรดให้เอ็กพี่ชายคนสนิท เธอรู้ดีว่าเขาชอบกินอะไร
"ทำไมอ่ะ นี่พี่นั่งคิดนอนคิดมาทั้งคืนเลยนะ ไม่ผ่านหรอ?" เขาทำตาปริบๆเพื่อขอให้เธอเห็นใจกับมุขเสี่ยวของตน
"ผ่าน...ผ่านร้านหนูไปเลยได้มั้ยพี่ 555" ขนมปังแค่แกล้งแหย่เขาไปงั้นแหละ เขาสองคนรู้จักกันมานานพอที่จะรู้ว่าอีกคนจะไม่โกรธกับเรื่องแค่นี้
"เชอะ!" เอ็กส์ทำทีเป็นงอนแล้วเดินถือจานข้าวไปนั่งลงที่โต๊ะตัวประจำ
ขนมปังก็ปลดผ้ากันเปื้อนออกจเพื่อจะเตรียมไปโรงเรียน
"อ้าว! พ่อ...ทำไมวันนี้กลับเร็วจัง"ขนมปังเอ่ยทักเจนภพผู้เป็นพ่อทันทีที่กลับเข้ามา เธอแปลกใจนิดหน่อย
เวลานี้พ่อควรทำงานอยู่นินา
"ไม่มีอะไรหรอก แกไปโรงเรียนเถอะ" เจนภพหันมาบอกลูกสาวก่อนจะเดินไปหาภรรยา"
"ขอคุยอะไรด้วยหน่อยสิ" พูดจบเขาก็เดินเข้าไปในบ้าน วัลภามองตามสามีอย่างครุ่นคิด
ทำไมวันนี้พ่อไอ้ขนมดูแปลกๆ
? โรงเรียน เอกชนแห่งหนึ่ง ที่ครูผู้ชายหล่อๆถ้าไม่เป็นตุ๊ดก็จะเป็นเกย์ ?
"เมื่อวานโทรหาทำไมไม่รับจ๊ะ" เสียงของไข่หวานเพื่อนสนิท ทักทันที่ที่ขนมปังหย่อนก้นลงนั่งเก้าอี้
"โทษที กุยุ่งนิดหน่อย?" แน่นอนว่าเธอจะไม่เล่าฝันร้ายของเธอให้ใครฟัง ถึงจะเป็นเพื่อนรักก็เถอะ เพราะเธอไม่อยากจะนึกถึงนักเลงอันธพาลพวกนั้นอีก
"เอ่อ...คือเมื่อวานตอนกลับบ้าน กุเห็นพ่อมึงด้วยน่ะ" เธออดแปลกใจไม่ได้ว่าเพื่อนเธอไปทำอะไรแถวนั้น
"แล้วไง" เธอยังคงนั่งก้มหน้าเขียนรายงานวิชาฟิสิกส์ต่อเพราะการที่เพื่อนจะเจอพ่อนั้นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
"แต่ว่ากุเจอแถวบ้านกุนะ สองสามครั้งแล้วด้วย" ความจริงไข่หวานเองก็ไม่อยากจะยุ่งเรื่องครอบครัวของคนอื่นหรอก แต่เธอก็อดสงสัยไม่ได้และเธอก็เป็นห่วงเพื่อนรักของเธอด้วย
เพราะภาพที่เธอเห็นดูว่าจะไม่ชอบมาพากลเท่าไหร่
ขนมปังเงยหน้าขึ้นจากสมุดรายงานทันที
เวลานั้นพ่อต้องอยู่ที่ทำงานสิ ทำไมถึงไปโผล่แถวบ้านมันได้ล่ะ แถมยังไกลที่ทำงานอีกด้วย
"จริงหรอ?" เธอเอ่ยถามเพื่อนอย่างไม่อยากจะเชื่อเท่าไหร่ ไข่หวานพยักหน้าให้เพื่อเป็นการยืนยันคำตอบ
ทำไมล่ะ? ปกติพ่อไม่ใช่คนเกเรงานซะหน่อยหรือพ่อจะไปทำธุระนะ?
คำถามเหล่านี้ทำให้เธออดสงสัยไม่ได้แต่เธอเองจะยังไม่ถามผู้เป็นพ่อหรือเล่าให้ผู้เป็นแม่ฟัง เธอเลือกที่จะไปดูให้เห็นกับตาตัวเอง
วันต่อมา...หลังเลิกเรียน ขนมปังให้ไข่หวานพามายังสถานที่ที่คาดว่าอาจจะนายเจนภพผู้เป็นพ่ออีกครั้ง ทั้งสองคนจึงแอบมาดักรอที่ร้านอาหารหรูแห่งหนึ่ง เพราะไข่หวานเล่าว่าทุกครั้งจะเจอที่ร้านแห่งนี้
ไม่นาน....เธอก็เจอพ่อของเธอจริงๆ แต่เขากลับไม่ได้มาคนเดียว
เจนภพมากับผู้หญิงแต่งตัวดีคนนึงอายุราวๆสี่สิบกว่าแต่เธอผิวพรรณดีมากแถมยังดูสง่า เสื้อผ้า เครื่องประดับล้วนแล้วแต่ดูราคาแพง ที่สำคัญภาพที่ทำให้เธอถึงกับน้ำตาไหลออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ก็คือการที่เธอเห็นพ่อตัวเองกำลังหอมแก้มผู้หญิงคนนั้นอย่างอ่อนโยน...
ไม่จริง...! ทำไมล่ะ? มันไม่ใช่เรื่องจริงใช่มั้ย? พ่อไม่ได้นอกใจแม่ใช่มั้ย?
คำถามเหล่านี้ผุดขึ้นมาในหัวเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า...
