ตอนที่ 4
สัปดาห์แรกของการทำงานผ่านไปได้ด้วยดี ผลการผ่าตัดของนางอรทัยออกมาเรียบร้อย และอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด ชมพูนุชไปเยี่ยมมารดาทุกวันและกลับมาทำงานตามเวลาที่ตกลงไว้
นอกจากนี้ยังคงทำงานเป็นกะที่ร้านสะดวกซื้อเหมือนเดิม เพียงแต่ขอเป็นกะกลางคืนซึ่งยาใจก็ยินดีไม่มีปัญหา
“นุช” เฮียลือเปิดประตูห้องทำงานเข้ามาพร้อมกับสาวน้อยคนหนึ่งหน้าตาสะสวย
“ไปกับชาช่าหน่อย” ชายวัยกลางคนเอ่ย พลางยื่นนามบัตรและกดโทรศัพท์เรียกคนขับรถให้มารอที่ด้านหลังร้าน
“ไปไหนคะ” ชมพูนุชถามด้วยสีหน้างุนงงเล็กน้อย
“ไปตามที่อยู่ในนามบัตร เสร็จงานแล้วเก็บเช็คมาให้เฮียด้วย”
ชมพูนุชยังงงไม่หายกับคำสั่งใหม่ที่เฮียลือสั่ง ปกติแล้วเธอไม่มีหน้าที่ใดๆ เกี่ยวกับพนักงานในร้าน งานที่รับผิดชอบจะอยู่กับตัวเลขเพียงเท่านั้น แต่ครั้งนี้พิเศษกว่าตรงที่
“ลูกค้าเป็นซุปเปอร์วีไอพีมากๆ ไม่มาที่ร้านแต่ต้องส่งคนของเราไปหา” เฮียลืออธิบายเพิ่มเติมให้หญิงสาวรู้
“ค่ะ” หญิงสาวรับคำและรีบลุกขึ้นทำตามคำสั่งแต่โดยดี
แม้จะกระอักกระอ่วนใจแต่แรกที่ต้องมาทำงานในสปาพิเศษแห่งนี้ แต่เมื่อไม่มีทางเลือกมากนัก ชมพูนุชก็จำต้องก้มหน้าก้มตาทำงานไป
มุมมืดในสังคมที่ไม่เคยรู้มาก่อน เมื่อตนเองได้เข้ามาสัมผัส ก็พบว่าเส้นทางชีวิตของแต่ละคนมีที่มาที่ไปไม่เหมือนกัน หญิงสาวรู้สึกว่าชีวิตในโลกนี้เต็มไปด้วยการแข่งขันและอันตรายรอบด้าน
กลายเป็นแรงผลักดันให้มนุษย์ต้องแสวงหาความอยู่รอดให้กับตนเอง ซึ่งแล้วแต่ระดับสติปัญญาของผู้เลือกว่าจะพาตนเองอยู่รอดได้อย่างไรในสังคม
บ้าง... ก็เดินในทางสว่างและปากกัดตีนถีบดิ้นรนไปเมื่อความอยู่รอด
บ้าง ... ก็ใช้ประโยชน์จากสิ่งที่ติดตัวมาแต่กำเนิดแลกกับความอยู่รอดในสังคม ความทัดเทียมในวัตถุนิยมที่โลกสร้างขึ้นเพื่อล่อลวงให้คนติดกับแห่งมายา
บ้าง ... ก็ทำเพื่อให้คนที่รักมีความสุข โดยเลือกที่จะเจ็บปวดหรือสิ้นศักดิ์ศรีในตนเองแต่เพียงผู้เดียว
เส้นทางชีวิตเหล่านี้ในช่วงเวลาหนึ่งสัปดาห์ที่ชมพูนุชได้เรียนรู้ สอนให้รู้ว่าโลกนี้ยังมีเรื่องราวและเหตุผลมากมายอีกร้อยแปดพันประการที่เกิดขึ้นสำหรับใครคนใดคนหนึ่ง นิราพรหรือใครอื่นก็เช่นกัน
ใกล้จะถึงคอนโดที่ชมพูนุชจะต้องไปส่งชาช่าตามคำสั่งของเฮียลือแล้ว ระหว่างทางที่นั่งอยู่ในรถเสียงโทรศัพท์ของชาช่าดังขึ้นไม่ขาดสาย
“รู้แล้วน่า จะไปเดี๋ยวนี้ล่ะ รออยู่ที่ห้องแล้วกัน” น้ำเสียงชาช่าไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด
“จะมาทำไมวันนี้ก็ไม่รู้” ชาช่าโมโหวางโทรศัพท์ด้วยสีหน้าบึ้งตึง
นึกโกรธที่วันนี้เธอกำลังจะมีรายได้งดงามหลักแสนจากการทำงานในวันแรกของเดือน ทว่าแฟนหนุ่มของชาช่ากลับโทรศัพท์มาบอกว่าคืนนี้จะมาค้างที่ห้องด้วย และโทรศัพท์มาเร่งให้กลับไปทุกห้านาทีทำให้หญิงสาวหงุดหงิดแต่พูดอะไรไม่ได้
ปัญหาอีกอย่างก็คือเธอรับงานก่อนที่จะรู้ว่าแฟนหนุ่มจะมา ถ้าปฏิเสธกระทันหันลูกค้าจะต้องไม่พอใจถึงขั้นไม่ใช่บริการของที่นี่อีกเลยก็ได้ ซึ่งรับรองได้ว่าเฮียลือต้องโกรธ และจะไม่ให้งานที่มีรายได้มากมายขนาดนี้กับตนอีกแน่
ดังนั้น ชาช่าต้องคิดหาวิธีที่เป็นทางออกให้กับตนเองให้สวยงามที่สุด
“มีปัญหาอะไรหรือเปล่าคะ” ชมพูนุชที่นั่งมาด้วยเอ่ยถามขึ้นมาเป็นคำแรก
เห็นท่าทางหญิงสาวดูไม่ค่อยสดใสสักเท่าไร ประกอบกับได้ยินคำพูดที่บอกว่ากำลังจะไปหาคนที่โทรศัพท์มา ทำให้ต้องถามเพื่อให้แน่ใจว่ามีปัญหาอะไรหรือเปล่า
“นิดหน่อย ว่าแต่คืนนี้เธอทำงานด้วยใช่ไหม”
ชาช่าถอนหายใจออกมาเบาๆ หันมามองหน้าคนที่นั่งมาด้วย นึกแปลกใจว่าชมพูนุชแต่งตัวเรียบร้อยผิดกับตนเองเสียเหลือเกิน
“ค่ะ เดี๋ยวฉันก็ต้องกลับไปทำงานต่อ”
แน่นอนว่างานที่กองอยู่บนโต๊ะมีให้สะสางอีกมาก เฮียลือไว้วางใจการทำงานของชมพูนุช จึงมอบหน้าที่ด้านการเงินทุกอย่างให้หญิงสาวดูแลและตอบแทนด้วยการเพิ่มเงินค่าแรงให้อีก
“ขยันจริงๆ งั้นคืนนี้เธอเหมาคนเดียวเลยไหมล่ะ จะได้ไม่ต้องกลับไปทำที่ร้านให้เหนื่อยอีก” ชาช่าคิดหาทางออกให้กับตัวเองได้แล้ว
ถ้าคืนนี้เธอให้ชมพูนุชรับงานคนเดียวไปก่อน ส่วนตัวเองกลับไปหาสุดที่รักที่ห้องตามที่ตกลงไว้ ก็เท่ากับว่าแค่ชวดรายได้งดงามไปเท่านั้น
แต่ไม่ทำให้เฮียลือเสียลูกค้าคนนี้ คราวหน้าหากมีลูกค้าวีไอพีแบบนี้อีก ชาช่าก็ยังจะมีโอกาสได้รับงานอีกเช่นกัน
“ยังไงฉันก็ต้องกลับไปร้านค่ะ งานยังรออยู่”
“คิดยังไงมาทำงานนี้ ทำมานานหรือยัง แล้วเคยทำงานร่วมกับใครในร้านไหม” ชาช่าชวนคุยต่อ พลางคิดหาทางว่าจะพูดกับชมพูนุชอย่างไรดี
“พอดีที่บ้านมีธุระต้องใช้เงินค่ะ เพิ่งมาได้อาทิตย์กว่าเอง ปกติฉันทำงานคนเดียวอยู่แล้ว” ทั้งสองคุยกันได้แค่นั้นยังไม่ทันได้ถามอะไรต่อ ก็ถึงคอนโดหรูกลางกรุงซึ่งเป็นที่อยู่ของลูกค้าแล้ว
ชมพูนุชลงจากรถพร้อมกับสาวน้อยคนสวยที่เดินตามลงมาด้วยท่าทีกระกระวายอย่างเห็นได้ชัด เสียงโทรศัพท์ของชาช่าดังขึ้นอีกครั้ง
“รู้แล้ว กำลังจะไป” เจ้าหล่อนตอบเพียงสั้นๆ แล้วเดินตามชมพูนุชเข้าไปในคอนโด
“ชั้นสามสิบสองเป็นชั้นเพ้นส์เฮ้าส์ของลูกค้า เดี๋ยวจะมีคนมารับชาช่าต่อนะคะ” ชมพูนุชพูดพลางกดลิฟต์แล้วเดินนำเข้าไปก่อน
“เดี๋ยว” ชาช่าเรียกชมพูนุชไว้ ไม่ยอมให้หญิงสาวกลับลงไปเมื่อประตูลิฟต์เปิดออกที่ชั้นสามสิบสอง
“มีอะไรคะ” ชมพูนุชร้องถาม
เสียงโทรศัพท์มือถือที่ดังขึ้นรัวไม่ขาดสาย ยิ่งทำให้ชาช่าร้อนใจจนต้องตัดสินใจพูดออกมาว่า
“ฉันลืมของสำคัญไว้ในรถน่ะ เอ่อ ของป้องกันตัวเองไม่ให้ เอ่อ ...” ชาช่าหันรีหันขวาง แล้วรีบพูดต่อเมื่อเห็นคนของลูกค้าเดินมาใกล้จะถึงที่หน้าลิฟต์แล้ว
“ฉันลงไปเอาของก่อน แล้วเดี๋ยวจะรีบขึ้นมา เธอไปรอที่ห้องลูกค้าแทนฉันแป๊ปหนึ่ง เดี๋ยวฉันมา อ้อ คุยกับลูกค้าดีๆ นะ รายนี้ซุปเปอร์วีไอพีมากๆ ต้องตามใจทุกอย่างไม่งั้นถ้าลูกค้าบอกเฮียลือล่ะก็ งานนี้เราสองคนตายแน่”
“งั้นฉันลงไปเอาให้เอง ของที่ต้องการคืออะไร” ชมพูนุชอาสาแทน
“ไม่เป็นไร ฉันไปหาเองดีกว่าช่วยไปอยู่กับลูกค้าแป๊ปหนึ่ง เดี๋ยวฉันขึ้นมาใหม่ อ้อ อีกเรื่อง ห้ามบอกลูกค้านะว่าเดี๋ยวฉันตามมาทีหลัง มันเสียมารยาท” ชาช่าไม่ยอมฟังเสียงห้ามปรามของอีกฝ่ายรีบกดลิฟต์ลงไปชั้นล่างทันที
ในขณะที่ชมพูนุชหันมาเจอชายต่างชาติในชุดสูทสีดำที่ยืนรออยู่ห่างๆ หญิงสาวยังไม่ทันได้พูดอะไรออกมาสักคำ ทางโน้นก็พูดสั้นๆ แค่ว่า
“เจ้านายรอคุณอยู่ เชิญ”
ชมพูนุชจำต้องเดินตามชายในชุดสูทสีดำไปอย่างช่วยไม่ได้ ภาวนาให้ชาช่าเอาของเสร็จกลับขึ้นมาทำหน้าที่โดยเร็ว เพื่อที่เธอจะได้กลับไปทำงานของตัวเองต่อให้เสร็จ และจะได้ไปเข้ากะที่ร้านของยาใจต่ออีกด้วย
