ตอนที่ 3
ชมพูนุชยืนน้ำตาคลอเต็มสองเบ้า ลุ้นตัวโก่งในใจว่าจะได้รับการตอบรับตามที่ต้องการหรือไม่ หลังจากที่นำตัวมารดาส่งโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว
ผลการตรวจของแพทย์ทำให้หญิงสาวแทบล้มทั้งยืน เมื่อพบว่านางอรทัยจำต้องได้รับการรักษาโดยด่วน เนื่องจากมีภาวะเส้นเลือดสมองตีบ อาจทำให้เป็นอัมพฤกษต์ไปตลอดชีวิต หากไม่ได้รับการผ่าตัดในเวลานี้
โชคดีที่ค่ารักษาหลักแสนที่ทางโรงพยาบาลบอกมา ยาใจเจ้าของร้านสะดวกซื้อที่ทำงานด้วยใจดีให้ยืมเงินก้อนหนึ่งมาก่อน เพื่อให้นางอรทัยได้รับการผ่าตัดทันท่วงที
เท่ากับว่าชมพูนุชมีหนี้ก้อนใหญ่แล้ว และเตรียมจะต้องหาเงินไปใช้หนี้ก้อนนี้ตามที่ลั่นวาจาเอาไว้แล้ว นอกจากนี้ค่ายาหลังการรักษาค่าใช้จ่ายทุกอย่าง ที่ตนจะต้องเป็นผู้แบกรับไว้เพียงคนเดียว ทางออกที่คิดได้ก็คือให้นิราพรช่วย
“ว่าไงน้อย”
ชมพูนุชผวาเข้าหาเพื่อนสาวที่อาสาไปเจรจาคุยกับเจ้าของร้านให้ เรื่องรับเธอเข้าไปพนักงานแคชเชียร์
“ตามมานี่” นิราพรไม่ตอบแต่จูงมือชมพูนุชเข้าไปด้านในแทน
ชมพูนุชเดินตามหลังนิราพรเข้ามาในร้านที่เพื่อนเรียกว่าสปาแบบพิเศษ ด้านในมีสาวน้อยวัยสดใสหน้าตาสะสวยผิวพรรณดีจับกลุ่มคุยกันหัวเราะเสียงดังอย่างสนุกสนาน
“เฮีย” นิราพรเคาะประตูห้องด้านในสุดแล้วเปิดเข้าไปพร้อมกับพาชมพูนุชตามเข้าไปด้วย
“นี่เพื่อนน้อย ชื่อชมพูนุช ที่น้อยเล่าให้ฟังเมื่อกี้”
“สวัสดีค่ะ” ชมพูนุชพนมมือไหว้ชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานด้วยท่าทีนอบน้อม
“หน้าตาดีนี่ ว่าแต่แค่ต้องการมาเป็นแคชเชียร์เฉยๆ ไม่ได้อยากทำเหมือนแม่สาวๆ พวกนี้ใช่ไหม” เฮียลือเจ้าของสปาแบบพิเศษถามเพื่อให้แน่ใจว่า เด็กสาวที่อยู่ตรงหน้ามีความต้องการอย่างไรกันแน่
“ค่ะ” ชมพูนุชรับคำหนักแน่นยืนยันคำตอบของตนเองอีกครั้ง
ถ้าชมพูนุชเปลี่ยนใจมาทำงานเหมือนนิราพรหรือคนอื่น ร้านจะต้องมีดาวเด่นที่ลูกค้าแย่งตัวกันในเวลาอันรวดเร็วแน่
แต่เขาก็ไม่บีบบังคับใดๆ ใครทั้งสิ้น ในเมื่อเจ้าตัวบอกความประสงค์แล้วว่า ต้องการทำงานที่เอาเหงื่อเข้าแลกเงินไม่ได้เอาความสบายเข้าแลก
“หน้าตาสวยขนาดนี้ไปทำงานเป็นแคชเชียร์ไม่ได้หรอก อีกอย่างแคชเชียร์เพิ่งรับคนไปเมื่อวานนี้เอง”
เฮียลือบอกตามความจริง ร้านสปาพิเศษมีนักท่องเที่ยวมากหน้าหลายตา ขืนให้เจอแคชเชียร์สวยใสอย่างชมพูนุชแล้วล่ะก็ รับรองว่าปัญหาอื่นจะตามมาอีกมาก
“เหรอคะ”
น้ำเสียงชมพูนุชผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด เมื่อรู้ว่างานที่คิดว่าจะทำให้มีรายได้เพิ่มมีคนทำแทนเสียแล้ว
“เสียดายจัง นุช” นิราพรหันมาสบตากับเพื่อนที่ยืนนิ่งด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก
“ไม่เป็นไร น้อย ขอบคุณมากค่ะ เฮีย” ชมพูนุชฝืนยิ้มยกมือไหว้ของคุณชายวัยกลางคนอีกครั้ง ก่อนจะหันหลังเดินกลับไปด้วยความผิดหวัง
“เดี๋ยว” เสียงเฮียลือเรียกไว้
“ฉันอยากได้พนักงานบัญชีที่ร้านทำงานในห้องนี้ จบอะไรมาพอทำบัญชีได้หรือเปล่า” ชายวัยกลางคนร้องถาม
เขาถูกชะตากับเด็กคนนี้ เห็นแววตาที่สู้ชีวิตเพื่อคนที่รักแล้วก็อดที่จะเอ็นดูไม่ได้
“จริงเหรอคะ พอทำได้นิดหน่อยค่ะ” ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างด้วยความยินดี รอยยิ้มแห่งความหวังกลับมาอีกครั้ง
“ถ้างั้นก็ลองทำดู เงินเดือนไม่ได้มากหรอกนะ ว่าแต่จบอะไรมาจะได้ตั้งเงินเดือนให้ถูก”
“นุชจบ...”
แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ในชีวิตของชมพูนุชเริ่มขึ้นอีกครั้ง เมื่อเจรจาตกลงทำงานตั้งแต่เที่ยงวันยันเที่ยงคืนแลกกับเงินเดือนหมื่นสองและโอทีอีกนิดหน่อย
แม้สถานที่ทำงาน หรืองานที่ทำจะค่อนข้างน่ากลัวสำหรับหญิงสาวแล้ว
แต่นาทีนี้ .... ก็คงไม่มีทางเลือกอื่นให้อีก
อีกทั้งเฮียลือเห็นแก่ความกตัญญูที่เธอมีต่อมารดา จึงให้เบิกเงินเดือนล่วงหน้าได้สามเดือนเพื่อไปเป็นค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตก่อน ซ้ำยังใจดีบอกอีกด้วยว่า จะหักเดือนละสองพันจากเงินเดือนประจำที่จะได้รับในสิ้นเดือนแรก
ดูเหมือนว่า ...
โลกนี้ ยังพอมีน้ำใจให้กับคนดีอย่างชมพูนุชบ้างแล้ว
