บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 2

งานเบาเงินดีของนิราพรเสี่ยงต่ออันตรายสำหรับลูกผู้หญิง แม้อยากได้เงินมาช่วยมารดาแค่ไหนแต่ชุมพูนุชก็รู้ตัวดีว่าไม่สามารถทำเช่นนั้นได้

“เมื่อกี้น้อยบอกว่าที่ร้านรับแคชเชียร์ใช่ไหม”

ถึงทำงานใจถึงไม่ได้แต่ก็ทำงานที่สบายใจได้ แม้ว่าสถานที่ทำงานหรือเพื่อนร่วมงาน อาจจะไม่ใช่แบบที่ชมพูนุชเคยพบมาก่อนก็ตามที

“ถ้าเป็นแคชเชียร์เก็บเงินล่ะ เขาให้เงินเดือนเท่าไร”

ชมพูนุชหวังเงินก้อนที่มาจากน้ำพักน้ำแรงและงานที่ไม่ต้องเอาตัวไปเสี่ยงเช่นนั้นมากกว่า หญิงสาววาดฝันว่าจะทำงานที่ร้านยาใจเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน และจะหางานอื่นทำที่ได้เงินมากกว่า เพื่อเอาเงินมาช่วยที่บ้านซึ่งเรื่องนี้นิราพรรู้ดี

“ไม่รู้เหมือนกัน เอาเป็นว่าเย็นนี้น้อยจะเข้าไปทำงาน นุชว่างไหมล่ะไปคุยกับเจ้าของร้านด้วยกันก็ได้ ไปดูร้านก่อนมันไม่น่ากลัวอย่างที่นุชคิดหรอก อีกอย่างแขกที่มาเที่ยวก็มีระดับไม่ใช่ใครที่ไหนจะเข้าได้ ไปไหมล่ะ”

“เดี๋ยวนุชถามแม่ก่อน ถ้าจะไปจะโทร.หาน้อยนะจ้ะ” ชมพูนุชแบ่งรับแบ่งสู้ ส่งยิ้มให้เพื่อนแล้วขอตัวกลับเข้าไปในบ้านก่อน

งานใหม่ที่นิราพรพูดถึงชมพูนุชไม่เคยมีความคิดว่าจะทำ เพราะสิ่งที่มารดาพร่ำสอนมาตลอดก็คือเกิดเป็นหญิงให้รักนวลสงวนตัว ถึงแม้ว่างานของเพื่อนจะสบายและได้เงินมาง่ายๆ

แต่การใช้เรือนร่างแลกมาเพื่อให้ได้ค่าตอบแทนที่สูงกว่าการยืนขาแข็งในร้านสะดวกซื้อนั้น หญิงสาวขอเลือกอย่างหลังที่ทำแล้วสบายใจดีกว่า

“แม่”

ชมพูนุชเปิดประตูบ้านเข้ามาเห็นชายแปลกหน้าหลายคนอยู่ในบ้าน ที่สำคัญมารดาของเธอทรุดตัวนั่งอยู่ที่พื้นพนมมือไหว้คนเหล่านั้นด้วยสภาพน้ำตานองหน้า

“เกิดอะไรขึ้นคะ แม่ พวกคุณทำอะไรแม่ฉัน” สาวน้อยตวาดถามเสียงดังลั่น อรทัยผวาเข้ากอดลูกสาวที่เพิ่งจะกลับเข้าบ้านมาด้วยอาการตัวสั่น

“เข้ามาในบ้านฉันทำไม ออกไปเดี๋ยวนี้นะ ที่นี่ไม่ต้อนรับพวกคุณ ถ้าไม่ไปฉันจะโทร.แจ้งตำรวจ” สีหน้าคนพูดขึงขังจริงจังอย่างเห็นได้ชัด

แต่ชายแปลกหน้าที่บ้างก็นั่งอยู่ที่โซฟา บ้างก็ยืนสำรวจมองไปรอบๆ บ้านกลับไม่มีทีท่าใดๆ ทั้งสิ้น

“นุช นุชลูกแม่” นางอรทัยร้องเรียกบุตรสาว

“แม่คะ พวกนี้ทำอะไรแม่ บอกนุชมาเร็วๆ นุชจะได้ให้ตำรวจจัดการพวกเขา” หญิงสาวกุมมือหญิงวัยกลางคนที่ยังไม่หยุดร้องไห้ไว้

“ทำอะไรไม่ได้ลูก พวกเขาเป็นเจ้าหนี้เรา” มารดาสะอื้นแล้วปล่อยโฮใหญ่ออกมาอีกรอบ

“เจ้าหนี้เหรอคะ เจ้าหนี้อะไรกัน เราไปติดหนี้พวกเขาตั้งแต่เมื่อไร” ชมพูนุชงงไปหมดแล้ว

“ก็หนี้ที่พ่อเลี้ยงเธอทำไว้กับบ่อนเราไง วันนี้ฉันมาทวงถามดอกเบี้ยที่ค้างจ่ายมาครบเดือนแล้ว ถ้าเดือนนี้ไม่จ่ายอีกก็เท่ากับว่าขาดส่งดอกมาสามเดือนแล้ว เงินต้นรวมดอกด้วยก็ปาเข้าไปเกือบห้าแสน ไอ้บ้านโกโรโกโสจะพังแหล่มิพังแหล่แบบนี้จะขายได้ถึงห้าแสนหรือเปล่าก็ไม่รู้” ชายที่นั่งอยู่ที่โซฟาพูดต่อไปอีกว่า

“ถ้าไม่มีเงินจ่ายค่าดอกเบี้ย ก็เก็บเสื้อผ้าข้าวของออกไปอยู่ที่อื่นซะ”

“คุณไม่มีสิทธิ์มาไล่ฉันกับแม่ บ้านนี้แม่เป็นเจ้าของบ้าน พวกคุณมีสิทธิ์อะไรเข้ามาข่มขู่เราถึงที่นี่ ออกไป ไม่งั้นฉันจะเรียกตำรวจ” ชมพูนุชทำท่าจะเอาจริงหยิบโทรศัพท์มือถือเครื่องเก่าขึ้นมาเตรียมจะกด

“โฉนดที่ฉันมีกับสัญญาเงินกู้ ที่แม่เธอเอาบ้านมาจำนองเพื่อเอาเงินฉันมา พอจะทำให้ฉันยึดบ้านหลังนี้ได้ไหม”

“อะไรนะ”

เหมือนสายฟ้าฟาดลงมาที่กลางกระหม่อม ชมพูนุชกระชากกระดาษจากมือเจ้าหนี้ ที่ชูขึ้นว่าเป็นหลักฐานมาอ่านทันที

คุณพระช่วย ...

ทำไมเธอไม่รู้มาก่อนเลยว่ามารดาเอาบ้านหลังนี้ไปจำนองเป็นเงินสองแสนบาท และสัญญาว่าจะส่งดอกเบี้ยทุกเดือนเดือนละหนึ่งหมื่นบาท หากยังไม่สามารถหาเงินสองแสนบาทมาคืนได้

“อะไรกันคะแม่” หญิงสาวหันมาถามมารดาด้วยความไม่เข้าใจ

ไม่อยากเชื่อว่านางอรทัยจะทำเรื่องเช่นนี้ได้ มารดามีอาชีพเย็บผ้าวันๆ อยู่แต่กับจักรกินใช้อย่างประหยัดที่สุด รายได้จากการเย็บผ้าอาจจะไม่มากแต่ก็เป็นค่ากับข้าวจุนเจือได้ในแต่ละวัน

ส่วนเธอมีหน้าที่หาเงินจากนอกบ้านเข้ามาเป็นค่าน้ำค่าไฟและอย่างอื่นรวมถึง เงินค่ายาที่ต้องใช้รักษาอาการป่วยของนางในแต่ละเดือนในจำนวนไม่น้อย

ด้วยเหตุที่นางอรทัยล้มป่วยเพราะทำงานหนักเกินไป ครอบครัวที่มีมีกันเพียงสองคนแม่ลูก ไม่มีที่พึ่งที่ไหน

ชมพูนุชจำต้องหยุดการเรียนที่ตนรักในระดับมหาวิทยาลัยไว้อย่างไม่มีกำหนด ออกมาหางานทำเพื่อจุนเจือครอบครัวมาจนทุกวันนี้

สองแม่ลูกกินอยู่อย่างประหยัดเห็นคุณค่าเงินทุกบาททุกสตางค์ที่หามาได้ ไม่ว่าอย่างไรหญิงสาวก็ไม่อยากเชื่อว่ามารดาจะทำเรื่องนี้

“ว่าไง ตกลงจะจ่ายหรือไม่จ่าย ถ้าไม่จ่ายก็เก็บข้าวของออกไปเลย พรุ่งนี้ฉันจะให้ช่างมาซ่อมแซมเปลี่ยนบ้านเป็นบ่อนใหม่ไว้สำหรับรับรองลูกค้าวีไอพี”

“ห้ามทำแบบนั้นนะ” ชมพูนุชไม่ยอมเด็ดขาด

เป็นตายร้ายดีอย่างไรก็ไม่ยอมให้บ้านถูกยึด ยิ่งบอกว่าจะเอาบ้านที่อยู่มาแต่เล็กแต่น้อยไปทำบ่อนอีก ยิ่งรับไม่ได้ใหญ่

“แล้วจะเอาไง ดอกเบี้ยสามหมื่นหามาให้ได้ไหม” ชายคนเดิมย้อนถาม

“ใครทำเรื่องนี้คะ” ชมพูนุชหันมาสบตากับมารดาอีกครั้ง

แค่เห็นมารดาน้ำตานองหน้า หญิงสาวก็ไม่ต้องถามอะไรให้มากความทั้งสิ้น พอรู้ต้นตอที่มาของปัญหาได้แล้วว่าแต่ตัวต้นเรื่องไปไหนเสีย

“ลุงเดชาล่ะคะแม่ ลุงเดชาไปไหน”

นั่นซิ

ตั้งแต่เข้ามาก็ไม่เห็นหน้าพ่อเลี้ยงตัวดีที่สร้างเรื่องนี้เลย เมื่อครู่เจ้าหนี้พูดชัดเจนว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเพราะนายเดชาตัวดีนี่เอง

“ไปแล้ว” อรทัยพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนล้า เอามือกุมหน้าอกหอบหายใจด้วยอาการติดขัด

“แม่ แม่” ชมพูนุชเห็นอาการที่มารดาเป็นตอนนี้ก็รู้ว่า อาการป่วยของนางกำเริบหนักต้องรีบพาไปโรงพยาบาลด่วน

“แม่ แม่อย่าเป็นอะไรนะคะ แม่” หญิงสาวกรีดร้องลั่นเมื่อเห็นอรทัยล้มลงหมดสติต่อหน้าต่อตา

“แม่”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel