บท
ตั้งค่า

บทที่ 6

หลังจากทำงานเก็บเงินมาได้หนึ่งเดือนเต็ม ขวัญลดาก็ขอย้ายออกไปเช่าห้องอยู่ต่างหาก แต่เพราะยังคงห่วงเพื่อนเกสรจึงยังอยากให้อยู่ด้วยกันไปอีกหน่อย ทั้งๆ ที่เธอพึ่งจะทะเลาะกับสามีเรื่องขวัญลดามาหยกๆ เพราะเขาอยากให้ย้ายออกได้แล้วนั่นเอง

“อยู่ด้วยกันอีกสักเดือนก็ได้นะแก”

“ขอบใจมากนะแก แต่ฉันจ่ายค่ามัดจำไปแล้วนะ” ขวัญลดาโกหกเพราะไม่อยากให้เกสรค้านเธอเรื่องนี้จริงๆ

“แกนะแก ทำอะไรไม่ปรึกษากันก่อนเลย”

“ฉันเกรงใจ เพราะตอนนี้ก็รบกวนแกมาตั้งเดือนหนึ่งแล้ว” ก่อนหน้านี้ขวัญลดาได้ยินเกสรและสามีทะเลาะกันด้วยเรื่องของเธอ ซึ่งหากยังคงอยู่ทั้งคู่ก็คงยิ่งบาดหมาง

“เกรงใจอะไรกันเล่า”

“ขอบใจมากนะสร แกคือเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน” ทั้งคู่ส่งยิ้มให้กันก่อนที่เกสรจะเอ่ยขึ้น

“โอเคๆ แต่ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอกนะ เราเต็มใจ”

“อือ” ขวัญลดาพยักหน้ารับ ก่อนที่เธอจะเก็บข้าวเก็บของซึ่งไม่ได้มีมากมายอะไร จากนั้นเกสรก็ขับรถไปส่งเพราะอยากรู้ว่าที่ที่ขวัญลดาจะไปอยู่นั้นปลอดภัยมากน้อยแค่ไหน

การที่ผู้หญิงตัวคนเดียวออกจากบ้านมาเช่าห้องอยู่แบบนี้มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย พอเห็นห้องเช่ารวมถึงเห็นสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยปลอดภัยระดับหนึ่งเกสรก็พอจะหมดห่วงไปได้บ้าง แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคงกำชับให้ขวัญลดาติดต่อหาเธอได้ทุกเมื่อก่อนจะตัดใจกลับบ้าน

คืนแรกที่ต้องนอนคนเดียวในห้องเช่าแคบๆ เสื่อผืนหมอนใบมันไม่ได้ง่ายอย่างที่ขวัญลดาคิดเสียแล้ว เธอนอนกอดตัวเองด้วยความรู้สึกเต็มไปด้วยความหวาดระแวง เสียงเปิดปิดประตูห้องอื่น เสียงคนเดินไปมาตรงทางเดิน เสียงมอเตอร์ไซค์หรือเสียงอะไรก็ตามที่ดังขึ้นรอบๆ ตัวทำให้เธออยู่ในอาการตื่นตัวตลอดเวลา แต่ถึงอย่างนั้นก็บอกตัวเองให้สู้และเอาชนะมันให้ได้

ในขณะที่ขวัญใจยังคงไม่ลดละที่จะตามหาลูกสาว แม้จะผ่านมาหนึ่งเดือนแล้วที่ยังไม่ได้ข่าวคราวก็ตาม ส่วนเอกรัฐก็เริ่มฉุนเฉียวที่ว่าที่เจ้าสาวหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เจ้าหนี้หนุ่มข่มขู่ขวัญใจต่างๆ นานาเพื่อให้ตามตัวขวัญลดากลับมาให้ได้ นั่นยิ่งทำให้เธอเครียดจนอาละวาดไปทั่วบ้าน

“นังลูกไม่รักดี อย่าให้ฉันตามตัวแกเจอนะ”

ประมาณตีห้าขวัญลดาก็ลุกขึ้นจากที่นอน เธอนอนกระสับกระส่ายไปมาทั้งคืน หลับๆ ตื่นๆ สลับกันแบบนี้กระทั่งเช้าจึงตัดสินใจลุกไปอาบน้ำเพื่อจะไปทำงานเพราะวันนี้มีคิวถ่ายตอนเช้า

วันแรกเหตุการณ์ยังคงเป็นปกติ วันที่สองสามสี่ที่เข้าไปอยู่ขวัญลดารู้สึกเหมือนถูกคนสะกดรอยตาม เมื่อกลับมาถึงห้องเช่าก็เจอจดหมายสอดไว้ใต้ประตู บางวันก็เป็นถุงยางอนามัย มีใครก็ไม่รู้มาเคาะประตูตอนกลางคืนบ้าง นั่นทำให้ขวัญลดากลัวจนแทบไม่กล้าจะออกไปไหน บางวันที่ต้องออกไปทำงานแล้วกลับดึกก็ถึงขั้นจิตตกกลัวตัวเองไม่ปลอดภัย

เพราะมีเรื่องกังวลใจทำให้เธอเกิดอาการเหม่อตอนทำงาน จึงถูกผู้กำกับเรียกไปดุหลายครั้ง ซึ่งเทียนก็เห็นภาพนั้นเช่นกันพร้อมกับตั้งคำถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ เพราะปกติจะเห็นว่าตั้งใจทำงานมาก

“เป็นอะไรพี่”

“เหนื่อยใจกับความเยอะของคนบางคน” เอ่ยจบโบนัสก็พ่นลมหายใจออกมาหนักๆ ขนาดไม่ดังยังอิทธิฤทธิ์เยอะขนาดนี้ นั่นก็ไม่ได้นี่ก็ไม่เอานี่มาเป็นนักแสดงหรือมาเป็นนางฟ้านางสวรรค์ คิดว่าตัวเองกำลังขึ้นหม้อแล้วจะทำอะไรก็ได้อย่างนั้นเหรอ

“ใครครับ” เทียนเอ่ยถามทั้งๆ ที่รู้อยู่ว่าใคร เพราะตั้งแต่มากองละครเรื่องนี้เขามักจะได้ยินเรื่องราวของนักแสดงหน้าใหม่ที่ได้รับบทเป็นนางเอกเสมอๆ

ทั้งเรื่องดีและไม่ดี ซึ่งเขาไม่เคยตัดสินใครด้วยเรื่องส่วนตัวขอให้ไม่กระทบกับงานก็พอ ซึ่งที่ผ่านมาเธอคนนั้นก็ทำได้บ้างไม่ได้บ้าง อาจเพราะยังเด็กจึงยังขาดเรื่องวุฒิภาวะในหลายๆ ด้าน ซึ่งต้องค่อยๆ เรียนรู้และปรับกันไป

“จะเป็นใครไปได้ละคะ ถ้าไม่ใช่นางเอกของเรื่องนี้”

“เมาท์นางเอกคนรักของผู้กำกับมือทองระวังจะตกงาน” นักแสดงหนุ่มเอ่ยแซวเพราะดูเหมือนโบนัสจะอคติกับนางเอกของเรื่องมากเป็นพิเศษ

“ผู้กำกับจ้างพี่เสียที่ไหน เทียนต่างหาก ทางช่องก็เอออออะไรด้วยก็ไม่รู้ ถึงต้องมาขอให้เทียนช่วยทั้งๆ ที่ก็ตกลงกันแล้วว่าเทียนจะรับละครแค่ปีละเรื่อง นี่งอกมาสองสามเข้าไปนู่นแถมนางเอกก็ยังเป็นคนเดิม มองไม่ออกเลยว่าดัน” โบนัสบ่นยาวเพราะไม่ปลื้มนั่นเอง ต่อให้นางเอกคนนั้นจะพูดจาคะขาอ่อนน้อมถ่อมตัวกับเขาแต่ลับหลังกลับคนละเรื่อง รูปร่างหน้าตาผ่านแต่นิสัยนี่ต้องรีบแก้ด่วน

“เอานะพี่โบนัสคิดเสียว่าตอบแทนช่อง เพราะเมื่อก่อนถ้าไม่มีช่องผมก็คงไม่มีวันนี้”

“เทียนคิดแบบนั้นพี่ก็สบายใจ” เอ่ยบอกเสร็จโบนัสก็พยักหน้ารับสองสามครั้ง แล้วหยิบน้ำเย็นๆ ขึ้นมาดื่มเพื่อดับอารมณ์คุกรุ่นในอก สำหรับเขาถ้ามีอคติกับใครขึ้นมาจะลบความรู้สึกเหล่านั้นออกไปต้องใช้เวลาสักหน่อย

“เกิดเรื่องใหญ่แล้วค่ะพี่โบนัส” ผู้ช่วยผู้กำกับตรงดิ่งเข้ามาหาโบนัสพร้อมกับท่าทางกระวนกระวาย พลอยทำให้เทียนที่นั่งอ่านบทอยู่หันมาสนใจเพราะเรื่องใหญ่ที่ว่ามันอาจจะกระทบต่อตารางงานเขา

“เรื่องอะไร”

“น้องแพทตี้ท้องเสีย วันนี้เลยมาถ่ายละครไม่ได้ค่ะ”

“ท้องเสียอีกแล้วเหรอ” โบนัสมองบนเพราะเธอฟังเหตุผลแบบนี้จากนางเอกลูกรักบ่อยมาก เอะอะท้องเสีย เอะอะไม่สบาย ลูกไม้ตื้นๆ คงอยากสร้างเรื่องให้ผู้กำกับปรับบทให้ตัวเอง เพราะวันนี้มีฉากเลิฟซีนแต่เทียนขอใช้มุมกล้อง ทว่าอีกฝ่ายกลับอยากให้แสดงจริงทุกอย่าง

“ค่ะ”

“ผู้กำกับว่าไง”

“นั่งหัวเสียอยู่นั่นค่ะ ใครเข้าหน้าก็ไม่ติด หนูเลยวิ่งมาปรึกษาพี่โบนัสนี่แหละคะ ว่าควรทำยังไงดี” นั่นเพราะผู้หลักผู้ใหญ่ในกองที่พอจะปรึกษาได้ก็มีแต่โบนัสเท่านั้น

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel