รักร้อนซ่อนใจรัก

78.0K · จบแล้ว
วรนิษฐา
52
บท
11.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เขาคือพระเอกดาวค้างฟ้า เล่นละครเรื่องไหนเรตติ้งพุ่งแรงเสมอ ในขณะที่เธอก็เป็นแค่เอ็กตร้าในกองถ่าย ที่เอ๋อๆ เด๋อๆ เพราะไม่ได้เป็นแฟนคลับของเขาเธอจึงไม่ได้แสดงออกว่าปลื้ม แต่ยิ่งเธอเฉยเขายิ่งสนใจ กระทั่งมีเหตุการณ์ให้ทั้งคู่ได้ทำงานร่วมกัน จูบแรกของทั้งคู่เกิดขึ้นก็เพราะงาน แต่หัวใจของเธอกลับถูกริมฝีปากนุ่มและแสนร้ายกาจของพระเอกกระชากจนหลุดลอยและมันมักจะลอยไปหาเขาโดยที่ตัวเธอเองก็ไม่รู้ตัวเช่นกัน ของขวัญวันเกิดปีนี้ของเธอก็ยังเป็นจูบจากเขา จูบที่ทำให้ใจสาวหวั่นไหวและยากจะต้านทาน หัวใจเธอถูกเขาไล่ต้อนจนมุม ทางเดียวที่จะรับมือคือพุ่งเข้าชนแล้วเอาหัวใจเป็นเดิมพัน

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักดาราพระเอกเก่งเลือดร้อนรักหวานๆ

บทที่ 1

เสียงพูดคุยที่ดังออกมาจากในบ้าน ทำให้ขวัญลดาที่พึ่งกลับเข้าบ้านชะงักเท้าทันที เธอจำเสียงของผู้หญิงได้ว่านั่นคือเสียงของแม่เธอเอง แต่เสียงผู้ชายไม่คุ้นหูสักเท่าไหร่ อาจเป็นเพื่อนหรือใครก็ได้ทั้งนั้น แต่ที่ไม่เข้าใจคือทำไมแม่ต้องให้ผู้ชายเข้าไปนั่งคุยในบ้าน ทั้งๆ ที่เวลาตอนนี้เกือบจะสี่ทุ่มเข้าไปแล้ว

ขวัญลดายืนถอนหายใจอยู่หน้าบ้าน ลังเลว่าเธอควรจะเข้าไปตอนนี้หรือว่ารอให้แขกของแม่กลับไปก่อน ทว่าขณะที่กำลังยืนตัดสินใจอยู่นั้น คนในบ้านก็เดินออกมาเจอเข้า

“อ้าว! กลับมาแล้วหรือขวัญ” ขวัญใจเอ่ยถามลูกสาวที่เปรียบเหมือนสมบัติชิ้นสำคัญของตัวเองในเวลานี้ สมบัติที่เธอจะหามูลค่าให้มันเยอะๆ

“ค่ะแม่”

“นี่ไงจ๊ะพ่อเอก ขวัญลูกสาวคนเดียวของน้า” แค่ได้ยินประโยคนี้ขวัญลดาก็ลอบถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยอ่อน พักนี้แม่ของเธอเป็นอะไรถึงชอบแนะนำให้เธอรู้จักกับคนนั้นคนนี้อยู่เรื่อย

“สวัสดีครับน้องขวัญ” เอกรัฐมองขวัญลดาด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ สายตาคู่นั้นทำให้คนถูกมองรู้สึกไม่ปลอดภัยขึ้นมาทันที

“สวัสดีค่ะ” ขวัญลดาเอ่ยทักทายไปตามมารยาทเท่านั้น

“พ่อเอกคุยกับน้องไปก่อนนะ น้าขอตัวไปดื่มน้ำสักแก้ว” ขวัญใจเอ่ยบอกเอกรัฐ เพราะอยากเปิดทางให้ได้ทำความรู้จักกับลูกสาวตัวเองมากขึ้น ซึ่งขวัญลดาก็รู้ทันผู้เป็นแม่เช่นกัน

“ขวัญเองก็เหนื่อย ขอตัวเข้าบ้านก่อนนะคะ”

“แต่แม่ว่าขวัญควรอยู่ทำความรู้จักกับพี่เอกเขาสักหน่อยนะ เพราะอีกไม่นานลูกก็ต้องแต่งงานกับพี่เขาแล้ว” คำพูดของผู้เป็นแม่ทำให้ขวัญลดาตกใจจนชะงักไปทันที ก่อนจะเอ่ยถามกลับมาเสียงสั่น

“แต่งงานเหรอคะ”

“ใช่...แม่ไปให้หลวงปู่ที่วัดดูฤกษ์แต่งลูกกับพี่เขามาแล้วนะ เวลาอีกสองอาทิตย์ลูกน่าจะเตรียมตัวทัน”

“ไม่ทันก็ไม่เป็นไรหรอกครับน้าใจ เพราะยังไงผมก็อยากแต่งงานกับน้องขวัญ” เพราะถูกตาต้องใจตั้งแต่แรกเห็น เอกรัฐจึงหมายมั่นอยากได้ขวัญลดาไปเป็นภรรยาเช่นกัน ถ้าได้แต่งงานกับคนสวยๆ แบบนี้ต่อให้นี่จะเป็นการแต่งงานแบบคลุมถุงชนเขาก็ไม่เกี่ยง อีกอย่างเธอก็เหมือนคนหัวอ่อนว่านอนสอนง่าย หลังแต่งงานไปเขาจะทำอะไรหรือให้เธอทำอะไร ขวัญลดาก็คงอยู่ในโอวาท

“แต่ขวัญไม่อยากแต่ง”

“เอ่อ...เรื่องนี้ไว้ให้น้าคุยกับน้องเองนะพ่อเอก ตอนนี้ขวัญคงกำลังตกใจอยู่ เลยรีบปฏิเสธไปหน่อย” ขวัญใจออกตัวเพราะไม่อยากให้เอกรัฐโกรธเคือง เพราะขืนเป็นแบบนั้นแล้วอีกฝ่ายทวงเงินที่เธอติดค้างอยู่ขึ้นมา คราวนี้จะยิ่งแย่

“ครับ...งั้นวันนี้ผมขอตัวกลับก่อน”

“จ้ะๆ” ว่าที่แม่ยายเอ่ยรับจนลิ้นพันกัน

“พี่กลับก่อนนะครับน้องขวัญ” ก่อนกลับเอกรัฐก็หันมาพูดกับขวัญลดาอีกสักเล็กน้อย

“เชิญค่ะ” ขวัญลดาเอ่ยรับด้วยสีหน้าบึ้งตึง เธอแสดงความไม่เป็นมิตรกับเอกรัฐอย่างไม่ปิดบัง หวังให้ชายหนุ่มถอดใจทว่ายิ่งเธอพยศเอกรัฐกลับยิ่งนึกสนุกกับความอยากเอาชนะ นั่นเพราะปกติเขาเจอแต่คนอ่อนน้อมยอมเขาไปเสียหมด ยอมจนเขารู้สึกเบื่อหน่ายแล้วนั่นเอง

เมื่อประตูรั้วบ้านปิดลงนั่นหมายถึงแขกของผู้เป็นแม่กลับไปแล้ว ขวัญลดาก็มองขวัญใจด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเสียใจและผิดหวัง กี่ครั้งแล้วที่เธอต้องกลับมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ กี่ครั้งแล้วที่เธออดรู้สึกน้อยใจแม่ไม่ได้ว่าทำไมถึงอยากให้เธอรีบแต่งงาน และเพราะความอัดอั้นทำให้เธอเอ่ยถามในสิ่งที่ไม่ควรถามออกไป

“แม่ขายขวัญให้เขาไปเท่าไหร่”

“ทำไมถึงพูดใส่ร้ายแม่แบบนั้น มีแม่ที่ไหนขายลูกตัวเองกินบ้าง” แม้จะรู้อยู่เต็มอกแต่ขวัญใจกลับยืนกระต่ายขาเดียวไม่ยอมรับง่ายๆ ว่าตอนนี้เธอนั้นกำลังขายลูกกินอย่างที่ขวัญลดาพูดจริงๆ เพราะหนี้เก่าเอกรัฐก็สะสางให้จนหมด ส่วนหนี้ใหม่ที่ติดค้างเขาก็จะหายกันเมื่อขวัญลดายอมแต่งงานด้วย

“โอเค...แม่ขอสินสอดเขาไปเท่าไหร่”

“ไม่ได้ขอสักบาท”

“งั้นขวัญถามใหม่ แม่ติดหนี้เขาอยู่เท่าไหร่” ประโยคนี้เสียดแทงความรู้สึกของคนฟังอย่างจัง ในขณะที่คนพูดนั้นหัวใจกำลังแตกสลายเช่นกันเพราะไม่คิดว่าแม่แท้ๆ จะทำแบบนี้กับเธอ ขวัญลดาพยายามห้ามน้ำตาของความทุกข์ใจไว้อย่างสุดกำลัง ตั้งแต่เรียนจบมาเธอก็ทำงานหาเงินเข้าบ้านทุกอย่าง บางครั้งยังต้องเจียดเงินเหล่านั้นตามใช้หนี้ให้แม่อีกนับครั้งไม่ถ้วน

ขวัญลดารู้สึกเหนื่อยจนท้อ บางครั้งก็ถึงกับอยากหนีไปจากที่นี่ อยากตัดขาดกับแม่รวมถึงกับทุกคน อยากไปใช้ชีวิตในแบบที่เธอต้องการบ้าง แต่ยิ่งโตขึ้นกลับรู้สึกว่าความสุขที่ต้องการนั้นไกลตัวออกไปทุกที

“ไม่มากหรอกลูก” ขวัญใจตอบอ้อมๆ แอ้มๆ ท่าทางมีพิรุธอย่างเห็นได้ชัด ขวัญลดายังคงถามย้ำเรื่องยอดเงิน

“เท่าไหร่คะแม่”

“ก็แค่เกือบๆ ล้านเท่านั้นเอง”

“แม่” ขวัญลดาอุทานออกมาอย่างตกใจ เกือบๆ ล้านหรือไม่มากเท่าไหร่ มันมากจนชีวิตนี้เธอไม่รู้จะหาเงินมาใช้ได้หมดหรือเปล่าด้วยซ้ำ

“แม่ขอโทษ พอดีช่วงนั้นแม่ดวงตกทำอะไรก็ไม่ขึ้น มารู้ตัวอีกทีก็เป็นหนี้ที่บ่อนไปแล้ว พ่อเอกเขาก็เป็นคนดีมากเลยนะ พอรู้ว่าแม่ไม่มีเงินก็ไม่ยอมยึดบ้านยึดอะไร แต่จะให้ขวัญแต่งงานกับเขาแทน”

“คนแบบนั้นหรือคะเรียกว่าคนดี ขวัญมองไม่เห็นความดีจากเขาเลยสักนิด” คนในบ่อนในวงพนันหรือคนดี ดีแต่ปากจิตใจจ้องแต่จะหาผลประโยชน์มากกว่า