บทที่ 4 ไม่เคยให้โอกาสคนทรยศ
"เหม่ออะไรอยู่น่ะลูก?" เสียงหญิงวัยกลางคนเอ่ยถามอย่างห่วงใยเมื่อเห็นลูกสาวนั่งเขี่ยดินหน้าบ้านจนเป็นหลุม
"ป่าวค่ะแม่... มิ้นแค่คิดว่า ถ้ามิ้นไปเรียนแล้วไม่มีเวลามาทำขนมที่ร้าน เวลาเขามาไทยเขาจะกลับมาซื้อร้านเรามั้ย?" ลูกสาวเงยหน้าตอบพร้อมกับกลบหลุมเล็ก ๆ ที่ตัวเองเขี่ยดินออกก่อนหน้า
"เขาไหนล่ะ ถึงจะได้มาไทย" คนเป็นแม่ถามอย่างสงสัยพลางลูบผมลูกสาวที่นั่งอยู่เบา ๆ
"ก็ผู้ชายสูทดำ ที่สั่งแต่ทาร์ตไข่เค้กมะพร้าวกับคุกกี้ธัญพืชที่มิ้นกับไอ้ฟาทำไงแม่ พี่แกสั่งเมนูเดิมมาตั้งแต่เปิดร้านใหม่ ๆ จนไอ้กี้มันบอกว่าสงสัยพูดไทยได้แค่นั้น... แต่เวลาคุยไลน์เขาก็พิมพ์ภาษาไทยกับมิ้นนะ" มิ้นอธิบายให้แม่ฟังแล้วลุกขึ้นยืนปัดดินออกจากกางเกง
"ฮื้อ? แล้วมิ้นไปคุยไลน์กับเขาตอนไหนล่ะลูก" แม่ถามอย่างสงสัยเพราะปกติลูกสาวไม่เคยให้ไลน์ส่วนตัวกับลูกค้าหรือคนที่ไม่รู้จักมาก่อน
"เป็นปีแล้วแม่ เขาจะสั่งผ่านไลน์ ถ้ามิ้นกับฟาทำเมื่อไหร่ก็จะไลน์ไปบอก เขาก็จะสั่งบางทีก็มาเอาเองบางทีก็มีคนตัวใหญ่ ๆ มาเอา รอบล่าสุดนี่คนมาเอาบอกว่าเขากลับบ้าน เขาไม่ใช่คนไทยค่ะแม่" มิ้นพูดกับแม่แล้วโน้มไปกอดคอเอวเอาคางเกยบนบ่าแบบที่ชอบทำ
"จะยากอะไร เสาร์อาทิตย์มิ้นก็กลับมาทำสิแล้วไลน์ไปบอกเขาว่าเราไปเรียน แต่เอ...? แม่ว่า ปกติในร้านเราก็ทำเมนูนี้ขายประจำอยู่แล้วหนิ" แม่บอกลูกสาวพลางตั้งข้อสงสัย
"นั่นสิแม่ มิ้นก็บอกเขานะแต่เขาบอกว่ามันไม่เหมือนกัน" มิ้นตอบแม่ด้วยสีหน้าสงสัยไม่ต่างกัน
"อือ... งั้นเขาคงชอบรสมือเราน่ะลูก" แม่ตอบอย่างวิเคราะห์พลางยกมือลูบหัวลูกสาวอย่างเอ็นดู
"แต่สูตรทุกอย่างเราก็ทำเหมือนกันทุกร้านนะแม่ ส่วนผสมอะไรก็เหมือนกัน" มิ้นว่าอย่างสงสัยแล้วกอดเอวแม่หมุนเดินเข้าบ้าน
"ถึงมันจะเหมือนกันแต่รสชาติมันต่างกันนี่ลูก ไม่งั้นมิ้นจะบอกว่ากี้ทำกับข้าวอร่อยกว่าทำไมล่ะในเมื่อเครื่องปรุงก็เหมือนกันแล้วแม่ก็สอนเหมือนกัน" แม่อธิบายยิ้ม ๆ แล้วนั่งลงที่โซฟายาวตามด้วยลูกสาวนอนหนุนตักอย่างที่ชอบทำ
"นั่นสิเนาะ ^_^ งั้นเดี๋ยวมิ้นจะไลน์บอกเขาค่ะแล้วถ้าเขาอยากสั่งมิ้นจะทำส่งให้เขาเอง ดีมั้ยแม่" มิ้นพูดอย่างเห็นด้วยแล้วถามความคิดเห็นจากแม่
"ก็ตามใจมิ้นสิ แต่แม่ว่านะ... ลักษณะคุ้น ๆ เหมือนคนที่ว่าเป็นเลขาของแดดดี๊ของน้องฟาเลยเนาะ" แม่ของหญิงสาววิเคราะห์เพราะเคยเห็นเลขาของผู้มีพระคุณของเพื่อนลูกสาวหลายครั้งตั้งแต่ ม. 1 ที่ทั้งนิ่ง เคร่งขรึม และแต่งกายด้วยชุดคล้าย ๆ กัน
"เหมือนจริงแม่ แต่เลขาคนนั้นเป็นคนไทยชื่อคุณคินอะไรนี่แหละไอ้ฟามันเรียก แต่คนนี้ลูกน้องเขาบอกว่าไม่ใช่คนไทยบ้านไม่ได้อยู่ที่ไทยน่ะแม่" มิ้นตอบแม่ตามที่รู้มา
"อือ... งั้นก็คงคนละคนแหละ แต่ลักษณะคล้าย ๆ กันเหมือนพวกมาเฟียโหด ๆ ในทีวีเลย" แม่ก้มคุยกับลูกสาวพลางยกมือขึ้นลูบหัวอย่างอ่อนโยน
"แม่กะว่าไป๊... ดูหนังฝรั่งเยอะไปนะเราอะ ฮ่า ๆๆ" มิ้นแซวแม่แล้วยกมือบีบจมูกสวยรั้นของคุณแม่ยังสาวอย่างอารมณ์ดี
............ //.........
@เมืองหนึ่งของอิตาลี
ชายรูปร่างสูงโปร่งแต่งกายด้วยชุดสูทแสนสุภาพแบรนด์ดังระดับโลก สวมแว่นตำกันแดดสีดำสนิททรงทันสมัยกำลังยืนคร่อมร่างของชายคนหนึ่งที่ตอนนี้ใบหน้าอาบไปด้วยเลือด ตาข้างหนึ่งบวมปิดสนิท
"กูเคยบอกมึงแล้วใช่มั้ย กูไม่ชอบคนทรยศ" ชายร่างสูงที่ยืนอยู่พูดเสียงดังด้วยภาษาประจำถิ่น
"นายครับ ผมขอโทษให้โอกาสผมซักครั้งนะครับ ผม... ผมมีความจำเป็น..." ปึก! ชายผู้นั้นเอ่ยได้เท่านั้น มีดปลายแหลมคมกริบปักเข้าเส้นเลือดใหญ่ที่คออย่างแม่นยำ แล้วตวัดไปที่หลอดลมสิ้นเสียงวอนขอใด ๆ อีก เลือดสีแดงสดสาดกระเด็นไปทั่วบริเวณรวมถึงราดรดรองเท้าหนังขัดมันคู่แพงของมือมีด ชายหนุ่มโยนมีดให้ผู้ติดตามแล้วเช็ดรองเท้ากับเสื้อของศพที่ตนเป็นคนปลิดชีพอย่างเลือดเย็นจนสะอาด
"พวกมึงดูไว้! ใครมันทรยศกูจุดจบมันจะเป็นแบบนี้ กูจะไม่เตือน ไม่มีโอกาสกับคนทรยศ!" ชายหนุ่มประกาศกร้าวได้ยินทั่วตึกทั้งชั้นก่อนเดินข้ามซากศพที่ยังคงกระตุกอยู่อย่างไม่สนใจ
"จัดการที่นี่ให้เรียบร้อยซะ!" เอ่ยเสียงยะเยือกจนบรรดาลูกน้องที่ติดตามต่างขนลุกไปตาม ๆ กัน พอดีกับเสียงโทรศัพท์ของชายหนุ่มดังขึ้น....
"ครับ คุณปู่"
"ได้ครับ ผมเสร็จงานพอดีครับ" ตอบโทรศัพท์ปลายสายพร้อมกับลงลิฟต์แก้วมาข้างล่าง
"ครับ เดี๋ยวเจอกันครับ" ว่าจบกดตัดสายสนทนาทันที
"ไปภัตคาร m ปู่กูรอกินข้าว" เอ่ยสั่งผู้ติดตามขณะที่ก้าวเข้าไปนั่งในรถอย่างนิ่งเฉย
"ครับ! คุณคิน!" คนขับรถซึ่งที่พ่วงตำแหน่งบอดี้การ์ดมือดีตอบรับแล้วก้าวขึ้นไปนั่งประจำตำแหน่งคนขับพร้อมกับขับรถออกไปทันที
"ผมว่า นายใหญ่โหดแล้ว เจอคุณคินสยองกว่าเยอะเลย ปาดคอเสร็จเช็ดตีนต่อ แบบนี้ใครจะกล้าหือ" 1 ในลูกน้องพูดถึงนายอย่างขนลุก
"มึงก็หือสิ จะได้เป็นเหมือนไอ้นั่นไง ไป! จัดการให้เรียบร้อยเว้ย" คนที่ดูเหมือนเป็นหัวหน้าว่าเสียงดังพรางตะโกนสั่งให้บรรดาลูกน้องจัดการที่เหลือจากนายทำไว้....
@ภัตคาร m
"ไง! นายรอง" ชายสูงวัยทักทายชายหนุ่มที่เดินเข้ามาพร้อมกับผู้ติดตามคู่ใจ ท่านมักจะเรียกหลานชายบุญธรรมของท่านเช่นนี้เสมอเมื่ออยู่ต่อหน้าเหล่าบรรดาบอดี้การ์ดและผู้ติดตามต่าง ๆ ซึ่งเป็นการประกาศว่า ชายหนุ่มเป็นสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัวที่ควรได้รับเกียรติและให้ความเคารพไม่ต่างจากหลานชายแท้ ๆ ของท่านคนหนึ่ง มีอำนาจการตัดสินใจเป็นรองจากนายใหญ่ที่เป็นพ่อบุญธรรม แต่ชายหนุ่มกลับไม่ค่อยใช้สิทธิ์นั้นนัก และสั่งให้บรรดาการ์ดและบุคคลภายใต้ปกครองของครอบครัวนี้เรียกเขาว่า 'คุณคิน' แค่นั้น
"เรียบร้อยแล้วครับคุณปู่" ชายหนุ่มนั่งลงด้านขวาของผู้มีอาวุโสตอบเสียงนิ่ง พลางหันไปล้างมือที่เปื้อนเลือดกับกะละมังใบย่อมที่ผู้ติดตามถือเข้ามายื่นใกล้ ๆ แล้วรับผ้าเช็ดมือจากพนักงานมาเช็ดจนแห้งก่อนยื่นกลับคืน ต่อด้วยรับแก้วบรั่นดีใบสวยจากพนักงานที่รินมาเสิร์ฟกระดกทีเดียวหมดแก้ว
"แล้วจะไปฮ่องกงเมื่อไหร่" ผู้อาวุโสเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ถามหลานชายนอกไส้
"เดินทางคืนนี้ครับ คุณหญิงท่านมีงานที่ไทยแล้วตอนนี้นายน้อยก็อยู่ที่ไทย เราจะไปพร้อมกันครับ" ชายหนุ่มเอ่ยรายงานผู้เป็นปู่ยาว
"แล้วไอ้เวล จัดการมันยังไง" คุณปู่ที่วางมือเอ่ยถามหลานบุญธรรมเสียงเนิบ ๆ
"ผมไม่เคยให้โอกาสคนทรยศครับ" ชายหนุ่มตอบสบาย ๆ แต่ผู้ติดตามและคนของคุณปู่ที่นั่งทานข้าวเงียบ ๆ อยู่อีกมุมกลับรู้สึกเย็นยะเยือกในน้ำเสียงนั้น
...........//..........
