บท
ตั้งค่า

บทที่ 3 ปีกแห่งความรัก

มนทิชาสังเกตอาการของพี่สาวแล้วถอนใจ กัณหาไม่เคยบ่นเรื่องงาน หญิงสาวรักและทุ่มเทกับมันเต็มที่ การที่พี่ถอนหายใจติดๆ กันหลายครั้ง แสดงว่าต้องมีเรื่องกลุ้มใจอย่างหนัก หรือจะเป็นเพราะเจ้านายรูปหล่อคนนั้น อาจเป็นเพราะเธอทำกิริยาที่ไม่ดีใส่เขา เขาจึงตีตัวออกห่างพี่ โอพระเจ้า...ถ้าเขาไล่พี่เธอออกจากงานล่ะ...ไม่ๆๆๆ เธอจะทำความเดือดร้อนให้พี่ไม่ได้ ขืนเธอยังเป็นก้างขวางคออยู่แบบนี้ มีหวังกัณหาได้ขึ้นคานอย่างที่จีรพงศ์ว่าจริงๆ แน่

“พี่กัณ...มนน่ะ อายุสิบแปดแล้วนะ พี่ไม่ต้องห่วงมนหรอก ถ้าจะมีแฟนมนก็อนุญาต จะไม่ขวางพี่อีกแล้ว”

“อะ...ใครจะมาเป็นแฟนพี่กันล่ะจ๊ะ” กัณหาฝืนยิ้ม ไม่รู้เรื่องที่น้องสาวสุดที่รักพูดสักนิดเพราะกำลังครุ่นคิดเรื่องของตัวเองอยู่

“อ้าว! ก็คุณบอสคนนั้นไง พี่ไม่ได้นั่งเศร้าเพราะเขาหรอกเหรอ?”

“คุณจุลพัธน์เป็นเจ้านายพี่ ไม่ใช่แฟนสักหน่อย”

“แต่เขาก็ทำให้พี่เศร้า เขาคงเจ้าชู้นะคะ คงมีผู้หญิงมาติดพันเยอะ” มนทิชาไม่ได้ฟัง แต่กลับพูดรำพันไปอีกทาง

กัณหาพยักหน้าใจลอย ไม่มีสมาธิฟังเรื่องที่น้องสาวพูดเหมือนกัน จุลพัธน์จะให้เธอไปเดินแบบในงานเปิดตัวสินค้าในแกลลอรี่ครั้งนี้ด้วย เขาจะจัดแสดงเครื่องประดับตามคอนเซปต์ “เพชรแห่งไนล์” เพื่อโชว์ศิลปะอียิปต์และเปิดตัวของตกแต่งบ้านแบบโรมันพร้อมกันไปด้วย โดยให้ธัญธรเป็นผู้ออกแบบธีมงานทั้งหมด แกลลอรี่นี้เป็นของจีรพงศ์ ศิลปินรุ่นน้องที่ธัญธรเคยเป็นอาจารย์สอนอยู่ที่โรม ซึ่งก็เป็นคนใกล้ชิดของครอบครัวเธอด้วย

“ว่าแต่...ทิชาจะไม่ใส่ชุดที่พี่ซื้อให้ไปร่วมงานจริงๆ หรือ...เผื่อภาพของเราได้ประมูลนะ”

“ภาพวาดของมนไม่ได้สวยเหมือนของจิลสักหน่อยจะได้ขึ้นเวทีประมูล ถ้าขายไม่ได้ก็จะบังคับเจ้าของแกลลอรี่นั่นแหละซื้อ”

“งั้นก็เป็นคราวซวยของจิลเขาน่ะสิ นอกจากจะขายไม่ออกยังต้องลงทุนซื้อเก็บไว้เองอีก น่าสงสารจริงๆ”

กัณหาเย้า รู้ดีว่าจีรพงศ์นั้น นอกจากจะสนิทสนมคุ้นเคยกับครอบครัวของเธอดีแล้ว ยังทำหน้าที่เป็นพี่ที่ดี และเป็นเบี้ยล่างให้น้องสาวจอมซนของเธอด้วย ตั้งแต่เด็กๆ ที่จีรพงศ์ยอมมนทิชาทุกอย่าง เขารักน้องสาวของเธอเหมือนเป็นน้องสาวของเขาจริงๆ

จีรพงศ์คลั่งไคล้ในศิลปะ เขารู้จักกับธัญธรตอนที่เรียนปริญญาตรี และเคารพธัญธรมากถึงขึ้นตามไปเรียนที่โรมด้วย เธอจึงคิดแค้นเลขาหนุ่มทุกครั้งที่เห็นมนทิชานอนร้องห่มร้องไห้คิดถึงพี่จิล ถ้าธัญธรไม่ไป จีรพงศ์ก็คงไม่ไป พวกเขาเป็นอาจารย์และศิษย์ที่รักใคร่กันมาก

เมื่อธัญธรประสบอุบัติเหตุต้องผ่าตัดเอ็นข้อมือ เขาก็ทิ้งความฝันที่จะเป็นประติมากรเอกของโลกกลับมาช่วยงานของลูกพี่ลูกน้องคือจุลพัธน์ที่เมืองไทย จีรพงศ์ก็ตามกลับมาเปิดแกลลอรี่ที่นี่อีก

เรื่องราวสี่ปีที่โรมนั้น ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่มันได้สร้างความขมขื่นให้กับธัญธรไม่น้อยเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม กัณหาไม่มีเวลาจะวิตกกังวลมากนัก เพราะวันคืนไม่คอยท่า เผลอแป๊บเดียวก็ถึงวันจัดงานแล้ว

จุลพัธน์สำรวจความเรียบร้อยของงานก่อนถึงเวลาเปิดแสดง แกลลอรี่ของจีรพงศ์มีสองชั้น ชั้นล่างจัดแสดงผลงานประติมากรรม ตกแต่งโดยธัญธรและผองเพื่อน ผลงานของจีรพงศ์มีไว้ให้ชมเท่านั้นแม้จะมีหลายคนที่อยากจะได้รูปปั้นกลับบ้าน ชั้นที่สองแสดงผลงานจิตรกรรม และเครื่องประดับจากบริษัทของเขา และมีเวทีประมูลภาพเขียน ยังไม่ถึงไฮไลท์ของงานจึงมีคนเข้าชมบ้างประปราย เขาจึงมีเวลาเดินชมงานศิลปะและตั้งใจจะหาภาพเขียนสวยๆ ไปติดผนังห้องทำงานบ้าง

ชายหนุ่มเดินชมอย่างตั้งใจ จนกระทั่งไปสะดุดกับภาพๆ หนึ่งซึ่งดูแล้วไม่น่าจะใช่ฝีมือของจิตรกรมืออาชีพ ซึ่งเขารู้ดีว่าชื่อของจีรพงศ์นั้นอยู่ในระดับเวิลด์คลาส อย่างไรก็ตาม ภาพของแม่นกที่กำลังป้อนอาหารให้กับลูกน้อยกลับทำให้เขาอบอุ่น ผ่อนคลายและสบายใจอย่างประหลาด จนคิดว่าจะต้องรีบจองไว้ก่อน

“คุณจีรพงศ์อยู่ไหนครับ ผมอยากจะได้ภาพนี้” เขาถามเจ้าหน้าที่ที่เดินเข้ามาต้อนรับ

“อยู่ห้องแต่งตัว 2D ค่ะ”

“อ้อ...เดี๋ยวผมไปหาเขาเอง ขอบคุณนะครับ” เขาเดินลิ่วๆ ออกไป ตามหาห้องแต่งตัว 2D ที่เจ้าหน้าที่บอกมา กำลังจะเคาะประตูก็ได้ยินเสียงคนคุยกันดังมาจากข้างใน

“ไม่เอานะจิล ตรงนี้ไม่ได้นะ คิกๆๆ”

“อยู่เฉยๆ น่ะทิชา ขยุกขยิกแบบนี้เดี๋ยวหลุดกันพอดี ซนจริง”

“ก็คนมันไม่เคย เห็นแบบนี้อายเป็นเหมือนกันนะ”

เขาไม่อยากจะนึกภาพตามบทสนทนาล่อแหลมนั้น หากแต่ชื่อที่ทั้งสองคนเรียกกันทำให้เขาสะดุ้งจนต้องเงี่ยหูฟังให้ชัดๆ มือที่กำลังจะขยับลูกบิดชะงักค้าง

“จิล...มันเจ็บนะ เบาๆ หน่อยซี่ นี่ครั้งแรกนายต้องนุ่มนวลกับฉันหน่อย”

เป็นเสียงออดอ้อนและเสียงหัวเราะคิกๆ ของฝ่ายหญิงที่ถูกเรียกว่า “ทิชา” ทำให้เขาใจหายวาบ ไม่รู้ว่าจะเป็น “ทิชา” เดียวกันกับน้องสาวของกัณหาหรือเปล่า

“รู้หรอกน่าว่าครั้งแรก ขยับหน่อยอีกนิดเดียวก็เสร็จ ทนอีกนิดแล้วฉันจะไม่ทำอีกเลย”

สิ้นเสียงของฝ่ายชาย เขาก็ผลักบานประตูเข้าไปด้วยความโกรธเกรี้ยว ที่มีคนมาใช้สถานที่จัดงานทำอะไรบัดสีบัดเถลิง

“นี่พวกเธอ...มาทำอะไรกันตรง...นี้...”

คำพูดสุดท้ายค้างไว้แทบไม่ทัน เพราะภาพที่เขาเห็นนั้นช่างต่างกับคำพูดที่เขาได้ยินเสียเหลือเกิน ในห้องมีร่างสูงของชายหนุ่มผมยาวซึ่งกำลังใช้ปิ่นปักผมให้กับสาวน้อยในวันนั้น มนทิชา! เธอกำลังอ้าปากค้างทำตาโตมองเขาเหมือนตัวประหลาด ไม่ผิดแน่กับแววตาเจ้าเล่ห์เหมือนรู้ทัน ขณะที่กัณหากำลังรูดซิปเสื้อด้านหลังให้น้องสาวค้างเติ่ง และช่างแต่งหน้าสาวประเภทสองกำลังทาปากที่อ้าเผยอให้เธออยู่พอดี!

มนทิชาเปลี่ยนสีหน้าทันควันเมื่อเห็นแววตาของชายหนุ่ม เธอเดาออกว่าจุลพัธน์คิดอะไร ถึงได้ทำหน้าเก้อเขินแบบนั้น

“จิลจ๋า...รีบทำให้เสร็จเร็วเข้า เดี๋ยวคนแถวนี้จะคิดว่าเรา...ทำอะไร...กัน”

“อุ๊ย! คนแถวนี้น่ะ ไม่ใช่เหมียวนะคะ เหมียวไม่คิดอกุศลหรอกค่า...อ้าปากสิคะ..อ๊าย..อ้าอีกนิด...ค่ะอย่างนั้น...ดีค่ะ...อ้าค้างไว้นะคะ จะได้ทาลิปง่ายๆ” กะเทยสาวสวยผู้ไม่รู้ความนัยรับมุข

กัณหารู้ดีว่ามนทิชาตีรวนเจ้านายของเธอ เธอทนเห็นสีหน้ากระอักกระอ่วนของเขาไม่ไหวจึงรีบรูดซิปให้น้องสาวแล้วเดินออกมาต้อนรับเขา

จุลพัธน์เพิ่งสังเกตว่าหล่อนสวมชุดราตรีสีดำสง่า ขณะที่มนทิชาถูกจับใส่กระโปรงพลีทกับเสื้อสีขาวมีระบายน่ารักเหมือนนางฟ้าตัวน้อยๆ ดูแล้วช่างขัดกับบุคลิกห้าว ๆ ของเธอเสียจริง

“จิลจ๊ะ...นี่คุณจุลพัธน์ เจ้านายพี่ นี่จีรพงศ์หรือจิล เจ้าของแกลลอรี่ค่ะ”

“สวัสดีครับ ขอบคุณที่เลือกแกลลอรี่ของผมเป็นสถานที่จัดงาน” จีรพงศ์ปรี่เข้ามาทักทาย เพิ่งเคยเห็นตัวจริงของชายหนุ่มเป็นครั้งแรก เพราะคนที่ติดต่อประสานงานคือฝ่ายเลขา

“ต๊าย! มาดแมนแอนด์แฮนซั่มมากๆ อยากกินจังเลยคนนี้” ช่างแต่งหน้าทำตาวิบวับเมื่อได้เห็นหน้าเขาชัดๆ

มนทิชาเบ้ปากที่ใครๆ ต่างก็ไปรุมล้อมเจ้านายจอมคิดลึกของพี่ ปล่อยให้เธอนั่งเก้ออยู่คนเดียว

“ผมได้ยินชื่อเสียงคุณมานาน ไม่น่าเชื่อว่าจะยังอายุน้อยขนาดนี้” จุลพัธน์เอ่ยชม ท่าทางสุภาพอ่อนน้อมของจีรพงศ์ทำให้เขารู้สึกดี ทั้งความสุขุมลุ่มลึกไม่เหมือนศิลปินติสต์แตกที่เคยทำงานร่วมกัน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel