ใกล้เกินไปแล้ว! 3/4
บทที่ 3 ใกล้เกินไปแล้ว!
“ไม่ได้หรอก”
สรัชตอบกลับมาเนิบๆ แล้วอมยิ้มอย่างผู้มีชัย ค่อยๆ ย่างสามขุมเข้ามาหา ดวงตากลมสุกสกาวของเขาวาวเป็นมันเมื่อจ้องหน้าเธอ มนตร์ตระการยิ่งขนลุกไปทั้งตัว
“ต่อไปนี้เธอจะได้เห็นหน้าฉันทุกวัน ฉันสาบานเลย”
“ฝันไปเถอะ!”
มนตร์ตระการตอบได้แค่นั้น อยากจะกรี๊ดแต่เธอร้องไม่ออก ได้แต่กำหมัดแน่นแต่ไม่ทำอะไรเพราะไม่อยากโดนตัวเขา ยิ่งโกรธจนตัวสั่นเพราะสรัชยังกระหยิ่มยิ้มย่องอย่างได้ใจ แม้เขาจะยืนนิ่งไม่ได้รุกไล่เข้ามา แต่เพียงรอยยิ้มนั่นก็ทำเธอประสาทกินได้แล้ว
หญิงสาวรีบก้าวขาหนีออกไปจากตรงนั้นในทันที เธอจะไม่ยืนอยู่ตรงหน้าสรัชอีกแม้แต่วินาทีเดียว ไม่คิดจะอยู่ใกล้ด้วย ต้องไปให้พ้นๆ ก่อนที่ผู้ชายคนนี้จะทำให้น้ำตาตกอีกครั้ง
จะไม่มีวันให้สรัชได้เห็นหน้าอีกแล้ว!
มนตร์ตระการมายืนหายใจหอบอยู่ที่หน้าร้านขายพริกแกงเจ้าดัง หลังจากที่ปั่นจักรยานอย่างกับคนหนีตายมาถึงที่ที่เธอไม่คิดจะกลับมา
แต่เพราะต้องหนีให้พ้นสรัช หญิงสาวก็คิดถึงแม่เป็นคนแรก หนีไปอยู่ใต้ปีกท่านคงจะปลอดภัยที่สุดแล้ว มนตร์ตระการจึงตัดสินใจกลับมาที่ร้านทั้งที่ยังเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจว่าทำไมสรัชถึงทำท่าเหมือนจะกัดไม่ปล่อย ตามราวีแถมยังมาสาบานลั่นว่าต่อไปนี้จะมาให้เห็นหน้าทุกวัน
หรือว่าเขาจะติดใจ!
ได้คำตอบมาอย่างนี้มนตร์ตระการยิ่งขนลุก ขยะแขยงเข้าไปใหญ่ แล้วภาพในจินตนาการมากมายก็ตามมา ตอนที่เธอเมาหลับไม่รู้เรื่อง สรัชฉวยโอกาสกอด จูบ ลูบคลำไปทั่ว เขาเคลื่อนไหวอยู่ในตัวเธอ… แค่คิดมนตร์ตระการก็อยากจะบ้าตาย
“อ้าว มัดหมี่ ไหนว่าจะไม่มา”
คนที่เข้ามาขัดจังหวะความคิดของเธอคือพี่สาว แต่ก็คงต้องขอบคุณสักร้อยครั้งที่เสียงเรียกของแพรวพัสตราทำให้ภาพบ้าๆ นั่นหลุดออกจากหัวเธอได้ ไม่อยากคิดถึงให้ช้ำใจอีกแล้ว
มนตร์ตระการพยายามตั้งสติ บอกตัวเองย้ำๆ ว่าไม่ได้อยู่บนเตียงกับสรัชอีกแล้ว แต่ตอนนี้เธออยู่กับพี่สาวที่หน้าร้านพริกแกง พื้นที่ปลอดภัยที่หวังว่าจะได้มาซุกอยู่ในอกแม่
“แล้วเป็นอะไร ทำไมหน้าย่นอย่างนั้น” พี่สาวทักต่อ “หรือว่าฉุนกลิ่นพริกแกง”
“คงอย่างนั้นมั้งคะ”
น้องสาวเอออออย่างขอไปที แพรวพัสตราก็หัวเราะน้อยๆ ไม่ถือสา แล้วจูงแขนให้พาเดินเข้าไปในร้านอันเป็นตึกสองชั้นกว้างสองคูหา ด้านหน้าเต็มไปด้วยพริกแกงนานาชนิดวางเรียงรายกันแน่นขนัด ไม่แพ้กับเหล่าลูกค้าที่เข้ามาจับจ่ายซื้อของ เพราะมีทั้งกะปิและของทะเลตากแห้งขายด้วย
ร้านนี้เปิดมาหลายสิบปีแล้ว เป็นที่รู้จักกันในวงกว้าง พริกแกงหลากหลายชนิดถูกพ่อค้าคนกลางมารับไปขายต่อหลายสิบถังต่อวัน ส่วนที่วางโชว์อยู่หน้าร้านในกะละมังนั้น แบ่งจำหน่ายให้คนในพื้นที่เท่านั้นเอง
เมื่อพี่สาวจูงมือผ่านหน้าร้านเข้ามาถึงด้านหลัง มนตร์ตระการก็ชักจะฉุนกลิ่นพริกเข้าจริงๆ เพราะต้องเดินผ่านเข้ามาในส่วนที่เก็บพริกแห้งและเครื่องเทศ กลิ่นขึ้นจมูกจนเธอชักจะฟุดฟิด แต่ก็อดทนเดินต่อไปจนถึงด้านหลังของร้าน
มาถึงด้านหลังตึกก็เจอโรงงานขนาดย่อมอยู่หลังห้องกระจก เสียงเครื่องจักรดังพอสมควร คนงานกำลังใช้มือกวาดขิง ข่า ตะไคร้ลงไปในเครื่องบด บางคนก็ทอดพริกจนกลิ่นฉุนไปทั่ว แต่เธอไม่เข้าไปดูด้านในหรอก ขี้เกียจล้างมือ แถมยังต้องสวมเสื้อคลุม หมวกเก็บผมและหน้ากากอนามัย
“แม่อยู่นั่นไง” แพรวพัสตราชี้ผ่านกระจกใสบานหนาๆ ให้เธอดู “เข้าไปหาหน่อยไหม กำลังง่วนอยู่กับน้าฉายเชียว”
“พี่ดูออกได้ยังไงคะว่าใครเป็นใคร”
“ก็อยู่กันมาตั้งนาน ต่อให้คลุมผ้าปิดหน้าหมด ก็จำรูปร่างได้อยู่ดี”
แพรวพัสตราทำงานที่นี่มานานก็คงจำได้ทุกซอกทุกมุมแล้ว แต่กับคนที่ห่างบ้านไปนาน ไม่ได้มาเยือนร้านนับสิบปีกลับรู้สึกว่าทุกอย่างเปลี่ยนไปมากจริงๆ
โดยเฉพาะพื้นที่ทำงานของผู้คนที่ช่วยกันบดพริกแกง ได้มาตรฐาน GMP มาเรียบร้อย ก็ต้องมีฉลาก อย. มาติดข้างๆ ถังพริกแกงที่เตรียมออกจำหน่ายด้วยเหมือนกัน พี่สาวของเธอยกระดับร้านให้มีหน้ามีตาได้ดีเลยทีเดียว
“เบื่องานที่กรุงเทพฯ เมื่อไร จะมาช่วยพี่ทำร้านก็ได้นะ”
พี่สาวชวนอย่างนั้น คนเป็นน้องก็ส่ายหัวดิก ไม่ใช่เรื่องแน่ๆ ถ้าจะให้เธอกลับมาอยู่บ้านเกิดเป็นการถาวร โดยเฉพาะให้มาทำร้านพริกแกงนี่
“ตามใจแล้วกัน” พี่สาวบอกอย่างไม่กดดัน “แต่พี่วานหน่อย ไปจัดโต๊ะอาหารเที่ยงรอที เดี๋ยวพี่จะเข้าไปตามแม่กับน้าฉายออกมากินข้าว กับข้าวอยู่ในถุงบนโต๊ะนั่นแหละ”
“ค่ะ”
มนตร์ตระการรับปากอย่างไม่อิดออด เพียงแค่ไปตั้งโต๊ะไว้รอแม่ไม่ใช่เรื่องยากเลย รู้สึกว่ามันเล็กน้อยเกินไปด้วยซ้ำกับการที่จะได้ดูแลท่านบ้าง เธอไปอยู่ห่างอกแม่ตั้งหลายปี รู้สึกผิดเหมือนกันที่ไม่ได้ทำหลายอย่างให้ท่านอย่างที่ลูกคนหนึ่งจะได้ทำ
โต๊ะอาหารของที่ร้านอยู่ในพื้นที่เดียวกันกับโต๊ะทำงานซึ่งตั้งอยู่ด้านหลังแผงพริกแกง ที่ตรงนี้ถูกกันให้ห่างออกมาจากลูกค้าสักหน่อยและเป็นส่วนตัวให้เจ้าของร้านกับพนักงานได้เดินเหิน
อาหารเที่ยงก็ง่ายๆ แค่ต้มส้มปลากระบอกกับคั่วกลิ้ง มีผักแนมแถมมาด้วย หญิงสาวก็จัดวางลงจานอย่างบรรจง เอาจานเปล่ามาวางรอ ถ้าแม่กับพี่สาวเดินออกมาจะได้ตักข้าวเลย
“อ้าว สรัช! มาได้ยังไง”
