บทที่ 1 (5)
หลายนาทีต่อมา ดาวน้ำฟ้ากับริวจิก็มาถึงหอนาฬิกาซัปโปโร หญิงสาวนิ่วหน้ากับตัวอาคารทำจากไม้ทั้งหลังทาด้วยสีขาวมุงหลังคาสีแดงเลือดหมูที่พอมองเผินๆ ก็ให้นึกถึงบ้านทรงยุโรปทั่วไป แต่สิ่งที่ทำให้แตกต่างออกไปก็คือด้านบนตรงกลางหลังคาที่เป็นยอดสูงคล้ายโดมสี่เหลี่ยมมีนาฬิกาเรือนใหญ่บอกเวลาได้ทั้งสี่ทิศ มันต่างจากที่หล่อนคิดไว้ลิบลับ
“ฉันนึกว่ามันจะใหญ่กว่านี้เสียอีก นี่ถ้าให้เดินผ่านเองคงไม่คิดว่าเป็นหอนาฬิกาแน่ค่ะ”
หล่อนบอกแล้วจึงข้ามถนนที่ทางแยกไปยังที่หมายที่เห็นอยู่ แต่ว่าวันนี้ดันเป็นวันจันทร์และหอนาฬิกาปิดทำให้หล่อนพลาดการเข้าชมข้างในทั้งที่มาจนถึงที่นี่แล้วแท้ๆ
“หว้า แย่จังเลย...”
หญิงสาวบ่นอุบอย่างเสียดายแล้วก็ได้แต่มองภายนอกอาคารหอนาฬิกาตาปรอย แต่ริวจิไม่อยากให้หล่อนผิดหวังจนลืมว่ายังมีอะไรรอคอยอยู่เยอะและถึงแม้ว่าจะไม่ได้เข้าไปชมข้างใน แต่แค่ข้างนอกก็สามารถค้นหาความสุขให้กับตัวเองได้แล้ว
ชายหนุ่มจึงจูงหล่อนไปยืนตรงจุดที่ทางหอนาฬิกาจัดไว้ให้เป็นจุดถ่ายรูปที่ระลึก เขายื่นมือไปขอกล้องถ่ายรูปที่หล่อนคล้องแขนไว้ แต่ดาวน้ำฟ้ากลับไม่ยอมให้ หล่อนเดินไปหาคนที่กำลังเดินผ่านมาแล้วขอให้เขาช่วยถ่ายรูปให้ จากนั้นก็หันมาบอก
“ถ่ายรูปคู่กันสักรูปนะคะ ฉันจะได้กลับไปบอกคนที่บ้านได้ว่าวันนี้ที่ฉันมาเที่ยวฉันได้ไกด์กิตติมศักดิ์ใจดีช่วยเหลือฉันค่ะ”
ริวจิชะงักไปในนาทีแรกแต่ก็ยอมถ่ายรูปคู่กับหล่อนเพราะไม่อยากให้เสียน้ำใจกัน แต่พอถ่ายเสร็จสาวจอมซุ่มซ่ามก็ลื่นลงมาจากบันไดไม้สามขั้นที่จัดไว้ให้เป็นจุดถ่ายรูปจนเขาต้องรีบคว้าตัวเอาไว้ก่อนที่หล่อนจะคว่ำหน้าลงไปบนกองหิมะอีก
“อุ้ย...”
ดาวน้ำฟ้าอุทานเมื่อร่างของตัวเองตกอยู่ในวงแขนของเขาที่ยื่นมารับไว้ได้อย่างพอดิบพอดี แต่มันกลับเป็นภาพที่ชวนตลกขบขันสำหรับริวจิ
“เธอนี่ท่าทางจะชอบลงไปเล่นกับหิมะนะ”
เขากระเซ้าแล้วช่วยจับหล่อนยืนก่อนจะหันไปรับกล้องถ่ายรูปมาจากคนที่เอื้อเฟื้อถ่ายให้พร้อมกับบอกขอบคุณไปพร้อมรับกล้องกลับไปถือไว้
คล้อยหลังคนใจดีไปแล้ว สาวจอมซุ่มซ่ามก็หันมาทำหน้ามุ่ยใส่เขาแล้วขอกล้องดิจิตอลคืนไปด้วยความหงุดหงิดตัวเองที่ขยันซุ่มซ่ามได้ตลอดเวลา
จากนั้นริวจิก็เตรียมพาหล่อนไปที่ย่านซูซูกิโนะ แต่หิมะเกิดตกลงมาอย่างหนักทำให้ต้องล้มเลิกการเที่ยวย่านซูซูกิโนะไปก่อน
ชายหนุ่มจึงพาหล่อนกลับมาส่งที่บ้านเช่าของเพื่อนของหล่อนดาวน้ำฟ้าได้แต่ขอบคุณที่เขาช่วยเหลือไว้ในวันนี้ แต่ก่อนที่เขาจะกลับไปหล่อนก็ยื่นของสิ่งหนึ่งให้เขา มันเป็นของที่หล่อนหยุดซื้อตอนที่ริวจิบอกว่าต้องล้มเลิกการไปย่านซูซูกิโนะ
“นี่สำหรับคุณค่ะ”
ดาวน้ำฟ้ายื่นที่ห้อยพวงกุญแจรูปแมวกวักที่มีกระดิ่งร้อยไว้ด้วย หญิงสาวรู้ว่ามันออกจะแปลกไปสักนิดที่ให้ของแบบนี้กับผู้ชาย แต่หล่อนไม่รู้จะซื้ออะไรให้เขาก็เลยอยากส่งความรู้สึกขอบคุณที่เขาทำให้หล่อนโชคดีที่มีเขาคอยช่วยเหลือในวันนี้ และหล่อนอยากให้เขาโชคดีบ้างก็เท่านั้นเอง
“แมวกวักงั้นเหรอ...”
“ใช่ค่ะ...ฉันอยากให้คุณโชคดีเหมือนกับฉันที่ได้คุณช่วยเหลือ ขอบคุณมากๆ นะคะคุณยามากุจิ”
“งั้นฉันก็จะขอรับไว้ด้วยความเต็มใจก็แล้วกัน”
ริวจิบอกแล้วรับแมวกวักมาถือไว้แล้วหมุนกายเตรียมเดินจากไป แต่แล้วความรู้สึกหนึ่งกลับบอกเขาว่า ไม่อยากให้วันเวลานี้ต้องหายไป อยากให้มันนานกว่านี้ ชายหนุ่มจึงชะงักฝีเท้าที่เตรียมก้าวเดินก่อนจะหันมาถามหล่อนด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“พรุ่งนี้เธอคิดอยากจะไปไหนหรือเปล่า?”
ดาวน้ำฟ้าทำตาปริบๆ แล้วทำท่าครุ่นคิดอยู่พักใหญ่แล้วจึงบอกออกไป
“ฉันคิดจะไปที่คลองโอตารุค่ะ”
“จะรังเกียจไหม ถ้าฉันจะอาสาพาเธอไปเอง”
“จะเป็นการรบกวนคุณหรือเปล่าคะ คุณต้องทำงาน?” หล่อนถามเหมือนลังเลนิดๆ
“ไม่หรอก ไม่รบกวนอะไรเลย”
“ก็ได้ค่ะ แต่ฉันคงต้องบอกเพื่อนก่อนนะคะ”
